"เซี่ยงกี่" (สาขา 2) ตำนานร้านข้าวต้มปลา แตกสาขา / แม่ช้อยนางรำ

โดย : แม่ช้อยนางรำ
"เซี่ยงกี่ 2" มองเผิน..เผิน เหมือนร้านเดิม ขาดแต่ไม่มีตู้กระจกโบราณบรรยายภาพ
       "ร้านแรก..ขายมาเกือบร้อยปีที่ "ม้าเก็ง"
       ร้านสาขา..เพิ่งมาเปิดที่ "เหม่งจ๋าย"
       อร่อยระดับ..ม่ายกินไม่ล่าย ต้องกินก่อนตาย"
      
       วันก่อน..เลิกจากจัดรายการ "คัลเลอร์ ออฟ ไลน์" (COLOUR OF LIFE)
       แปลไทยว่า "สีสันแห่งชีวิต" (เพื่อมีชีวา) จากอสมท. คลื่นเอฟ.เอ็ม. 99 ทุกวันจันทร์ถึงศุกร์ ระหว่างเวลา 15.00-16.00 น.
      
       แล้วผ่านไปทางสี่แยกเหม่งจ๋าย ที่จะทะลุไปถนน "ประดิษฐ์มนูธรรม" หรือทางด่วนรามอินทรา ยังไม่ทันจะขึ้นสะพานคลองบางกะปิ "ไอ้ขวัญ-อีเรียม" เคยว่ายน้ำกันในเรื่อง "แผลเก่า" ก็เห็นร้านขายข้าวต้มฝั่งซ้ายมือข้างทางขึ้นป้ายว่า
      
       "เซี่ยงกี่ 2"
      
       อ้าว!! มาเปิดเมื่อไหร่กันเพิ่งจะเห็น!!
"ข้าวต้มปลาจาระเม็ด" แต่ไม่ใส่น้ำข้าวต้ม เพื่อให้มองเห็นเนื้อปลาแป๊ะ..แป๋ะ
       "เซี่ยงกี่" ..เป็นชื่อร้านข้าวต้มปลาจาระเม็ด-กะพงแดง เจ้าดังระดับเป็นตำนานของวงการเปิบพิสดาร นักเลงกินข้าวต้มปลาจะต้องรู้จัก โดยเฉพาะคำที่ล่ำลือกันว่า
      
       ..เป็นข้าวต้มที่แพงที่สุดในวงการ แต่ก็อร่อยที่สุดของวงการเช่นกัน..
      
       ร้านข้าวต้มปลาที่ว่านี้ อยู่ใน "ม้าเก็ง" ถนนเยาวราช ตรงสี่แยกราชวงศ์ หรือบอกให้ไม่งงก็คืออยู่หลังโรงแรมไชน่าปริ๊นเซส แต่สมัยเด็ก..เด็กเราเรียกว่าอยู่ข้างโรงหนังนครสนุก
      
       เป็นร้านขายข้าวต้มที่อร่อยสุด..สุด โดยเฉพาะข้าวต้มปลาจาระเม็ดที่หาคนทำขายน้อยลงไป แต่คนกินก็เพิ่มขึ้นทุกที จนกระทั่งอาจจะกล่าวได้ว่า
      
       .. "เซี่ยงกี่" เป็นข้าวต้มปลาจาระเม็ดเจ้าสุดท้ายของวงการได้เลย…
       ข้าวต้มปลาแบบ "เซี่ยงกี่" เป็นข้าวต้มปลาแบบโบราณมาจากเมืองจีน เรียกว่าข้าวต้มแบบเมือง "โผวเล้ง" หมายความว่า
      
       เป็นข้าวต้มของคนรวยจากซัวเถาเขากินกัน
      
       สมัยก่อนจะต้องแสดงสัญลักษณ์ของความเป็นข้าวต้มปลาอร่อยก็ต้องปูผ้าแดงเอาไว้กับโต๊ะที่วางเครื่อง เพื่อให้รู้กันว่า
      
       ข้าวต้มปลาโผวเล้ง ไม่ใช่ข้าวต้มกุ๊ย (หมายถึงข้าวต้มปลาคนจน..จนกินกัน) เพราะฉะนั้น อย่าได้แปลกใจว่า เมื่อเข้าร้านคนขายจะถามว่า
      
       "เอาเท่าไหร่"
      
       เท่าไหร่ที่ว่าก็หมายถึงมันแพงนะ ถ้าเงินในกระเป๋าลื้อไม่พอ อั๊วก็ไม่ตักขายให้
      
       เออ!! เป็นอย่างนั้นจริง..จริงนะเจ้าค่ะ จะบอกให้
       เครื่องปรุงข้าวต้ม
       แบบ "คนโผวเล้ง"
      
       "บ๊ะเต็ง"..หมูสามชั้นผัดซีอิ้ว
       "ตังฉ่าย"..ผักกาดแห้งเมืองจีน
       "ข่าป่น"..ดับคาวเพิ่มความหอม
       "กุ้งแห้งตัวโต"..แต่ผ่ากลาง เพื่อให้เคี้ยวสะดวกสบายอร่อยลิ้น
      
       แต่หายไปอย่างคือ "เต้าหู้ทอดกรอบ" เอาไว้เคี้ยวเล่นระหว่างกิน
      
       พอเดินเข้าไปในร้าน คนขายเป็นสาวน้อยก็ยกมือไหว้
      
       อ๊าว!! รู้จักกันเมื่อไหร่ เธอบอกว่าทำไมจะไม่รู้จัก คุณป้าเห็นหนูมาตั้งแต่วิ่งเล่น (แก้ผ้าหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจ) อยู่ที่ม้าเก็ง
      
       ลำดับความตามไท้จึงได้ความว่า เธอชื่อ "ไก่" เป็นหลานของอาเฮียที่ "ม้าเก็ง" ที่กินกันมาห้า..หกสิบปี จนกระทั่งอาเฮียคนหนึ่งซี้ไปแล้วคนหนึ่ง นี่ยังไม่นับรุ่นอาเตี่ย อาก๋งที่ขายกันมาสองเจอเนอร์เรชั่น สองชั่วคนไปแล้ว
"ข้าวต้มปลากะพง" เพิ่ม "หอยนางรม" ไม่ใส่น้ำข้าวต้มเหมือนกันเจ้าค่ะ
       "หนูไก่" ได้วิทยายุทธมาจากอากู๋ เมื่อไก้ครูดีก็มาเปิดเป็นสาขาแรกที่นี่ (แต่เธอเป็นสาขาสองซึ่งไม่ถูกต้อง เพราะร้านม้าเก็งเป็นต้นตำรับทำก่อน ร้านนี้จึงต้องเป็นสาขาแรกนะหนูรู้ไว้)
      
       เมื่อแน่ใจโดยไม่ต้องเจรจาต๊ะอวย ก็ยกมาเลย ชามไหนปลากะพง ปลาจาระเม็ด หอยนางรม หรือบะเต็งยกมาเลย
      
       ก็ต้องกราบเรียนว่า ไปเปิบเขาเถอะ อร่อยเหมือนที่ม้าเก็ง (ความรู้สึกว่าน้ำข้าวต้มปลาหวานซึ่งกว่า อาจจะเป็นเราะหน้าตาหนูไก่สวย ร้านรวงก็จัดสะอาดสะอ้านกว่า)
      
       ก็จะไม่ให้อร่อยได้อย่างไร บรรดาปลาขนเอามาจาก "ม้าเก็ง" เครื่องเคราทั้งหลาย รวมไปถึงถ่านเตาโบราณ เว้นแต่คนขายเท่านั้น เป็นคนรุ่นใหม่
      
       ไม่ต้องเขียนสาธยายให้มากหลาย เอาว่าเดาะใช้ภาษาปะกิตก็ได้ว่า
      
       "ยู มัส อี๊ด บีฟอร์ ยู ดาย" (You must Eat Before You Die)
      
       ..หมายความว่า เจ้าจะต้องกินก่อนที่เจ้าจะตาย มิฉะนั้นขึ้นสวรรค์ (หรือลงนรกก็ได้) จะถูกถามว่า..ส่งให้มาเกิดเป็นมนุษย์ แล้ว ทำไมไม่รู้จักกินข้าวต้มปลาเซี่ยงกี่ ฮึ!!
      
       ร้านข้าวต้มปลา "เซี่ยงกี่" (สาขา 2) ถนนเหม่งจ๋าย ห้วยขวาง กทม. โทรศัพท์ 08-1818-1805, 08-5567-6667 ขายตั้งแต่ 17.00-22.00 น. หยุดวันอาทิตย์