กินอาหาร “แต้จิ๋ว” ที่ “เมืองซัวเถา” /แม่ช้อยนางรำ

โดย : แม่ช้อยนางรำ
“ซัวเถา”เมืองจีนที่บรรพบุรุษเดินทางมา
       “ตามธรรมเนียมคนจีนแต้จิ๋วจะกินโต๊ะจีน
       อาหารจะต้องครบ18อย่างอีชั้นฟาดเรียบ”

      
       ก็ตั้งใจไว้ตั้งแต่เด็กแล้วว่า
      
       ชาตินี้จะต้องไปเมือง “ซัวเถา” แผ่นดินจีนให้ได้ เพราะสัญญากับ “อาก๋ง” ไว้ว่า
      
       ถึงก๋งจะมาเมืองไทย แล้วไม่ได้กลับไปเมืองจีนจนกระทั่งตาย
      
       หลานนี่ไง..จะต้องพาวิญญาณของคุณตากลับไปบ้านเกิดเมืองนอนที่อาก๋งจากมา
      
       แล้วเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว อีชั้นก็ได้ไปเมืองซัวเถาสมตามที่ตั้งใจไว้
       ก็เลยขอเอาเรื่องเมืองนี้มาเขียนเล่าให้เจ้านายได้อ่านกัน เพราะทั้งลูกพี่..ลูกน้อง ก็ล้วนแล้วแต่เป็นเชื้อสายมังกรแยงซีเกียง...เหมือนกัน
      
       “ซัวเถา”
       หรือ “ซานโถว” แปลว่า “หัวเขา”

      
       “ซัวเถา” เขียนเป็นภาษาประกิตดังนี้ “SHAN TOU” ก่อนไปก็นึกว่าเป็นเมืองแผ่นดินใหญ่ ความจริง “ซัวเถา” เป็นเกาะติดกับทะเลจีน ตอนกลางของประเทศแห่งนี้
      
       แต่เดิมเป็นเมืองยากจน กระทั่งคนต้องหนีตายมาอยู่ต่างประเทศ
      
       ตอนนี้จีนประกาศเป็น “เขตเศรษฐกิจ” คนแต้จิ๋วเดี๋ยวนี้ไม่จนรวยกว่าคนไทยเสียด้วยซ้ำไป
      
       ที่มีชื่อเรียกเช่นนี้เพราะบริเวณซัวเถาทั้งเป็นเกาะทั้งเป็นแผ่นดิน ใหญ่มีหินก้อนโต..โต เป็นเหมือนหัวภูเขามากมาย คำนี้ก็เลยแปลได้ว่า...หัวภูเขา!!
       

“ห่านพะโล้”ต้องเป็นห่านหัวสิงโต
       เป็นธรรมเนียมของอีชั้น
      
       เมื่อเดินทางไปเมืองไทย จะต้องไปกินอาหารพื้นบ้านพื้นเมืองของเขา จะได้รู้จะได้เข้าใจวัฒนธรรมในการกิน
      
       ไป “ซัวเถา” ก็ตั้งใจไว้ว่า นอกจากจะมาเยี่ยมแผ่นดินอาก๋งแล้ว ก็อยากจะรู้ว่าอาหารแต้จิ๋วแท้..แท้ รูปร่างหน้าตารสชาติเป็นอย่างไร และที่สำคัญคือ อยากจะรู้ว่าจะเหมือนอาหารแต้จิ๋วบ้านเราหรือไม่?
      
       และจิ๋วไหนจะหอเจี๊ยะ!!กว่ากัน
      
       ก่อนมาก็รู้ว่า คนแต้จิ๋วอาศัยริมทะเล อาหารจึงเน้นอาหารทะเลเป็นสำคัญ
      
       ส่วนอาหารแต้จิ๋วที่มีชื่อเสียงก็คือ ห่านพะโล้ ลูกชิ้นปลา แล้วก็หอยนางรมทอด
      
       อาหารที่ว่าบ้านเราก็มีขาย แล้วก็อร่อย ..อร่อยด้วยกันทั้งนั้น
“ออส่วน”ก็คือ “หอยนางรมทอด”
       แต่มาแต้จิ๋วทั้งทีจะกินแค่สาม..สี่อย่างได้อย่างไรกัน
      
       เรื่องนี้จะต้องเข้าภัตตาคารใหญ่ชื่งดัง แล้วสั่ง “โต๊ะจีนแต้จิ๋ว” มากินให้มันรู้แล้วรู้รอดไป ถึงได้รู้ว่า
      
       “โต๊ะจีน” บ้านเราอาหารจะมี 8-9 อย่าง
      
       แต่ถ้าเป็น “โต๊ะจีนแต้จิ๋ว” อาหารจะต้องมีถึง 18 อย่าง ดังอีชั้นจะจารนให้เจ้านายน้ำลายสอดังนี้
      
       เริ่มด้วยออเดิร์ฟฯ ถุงเงินถุงทอง 2 ห่านพะโล้ 3 กุ้งลวก 4 ข้าวปลาดำ (โอฮี๊มัว) 5 ซุปกระดูกหมูรากบัว 6 บ๊ะจ่างแผ่น 7 ข้าวต้มแต้จิ๋ว (จะต้องใส่มันเทศ) 8 กุ้ยชายทอด 9 บ๊ะจ่างก้อน 10 ก๊วยเนะ 11 ออส่วน (หอยนางรมทอด) 12 ก๋วยเตี๋ยวผัด 13 ผัดผักน้ำซุป 14 และขนมถั่วกวน 15
      
       ไอ๊หย่า!! แล้ว 16-17-18 หายไปไหน
      
       ไม่หายหรอกเจ้าค่ะ สามอย่างที่ว่าเอามารวมอยู่ในออเดิร์ฟตอนเริ่มต้นรายการไง!!
“ลูกชิ้นปลา” ปลาทะเลแท้ ไม่ใช่ปลาน้ำจืด
       อาหารแต้จิ๋วชุดมงคล 18 อย่าง เท่าจำนวน 18 อรหันต์ เป็นอาหารที่รู้เห็นกินกันในประเทศไทยทั้งนั้นล่ะเจ้าค่ะ
      
       เรียกว่าคนจีนแต้จิ๋วอยู่ที่ไหนก็จะต้องหอบหิ้วเมนูอาหารไปด้วย
      
       ที่นี่..เจ้านายคงจะต้องถามอีชั้นว่าอร่อยแค่ไหนกัน อีชั้นก็จะยืนยันตอบเจ้านายได้ว่า
      
       ..ถ้าเจ้านายชอบกินเค็มละก็ต้องว่าอร่อย
      
       แต่ถ้าอย่างอีชั้นกินอะไรก็ต้องมีสาม..สี่รสกลมกล่อมแบบไทย..ไทย ก็จะต้องเรียนเจ้านายว่า..มันเค็ม!!
      
       ขนาดมีเรื่องเล่ากันว่า “ปลาเค็มแต้จิ๋ว” ไม่ต้องทอดมากินกับข้าวสวยกับข้าวต้ม แค่เอาปลาแขวนไว้ข้างหน้า กิล่นของปลาเค็มก็เค็มจนต้องเอามากินกับข้าวเกลี้ยงชาม แค่ดู..ดูเท่านั้นก็เค็มตายแล้ว
      
       ..ไปแอ่วบ้านเกิดเมืองนอนของบรรพบุรุษจีนไป “ซัวเถา” ก็พอไหว แต่ถ้าไปกินอาหารแต้จิ๋ว กินเมืองไทย บ้านเราอร่อยกว่า..เชื่ออีชั้นเถอะเจ้าค่ะ..เจ้านาย