"หมูสะเต๊ะเฉลิมบุรี"เจ้าเดียวที่เหลืออยู่..ขณะนี้/แม่ช้อยนางรำ

โดย:แม่ช้อยนางรำ
"นายเอี่ยม แซ่ตั้ง" ย่างหมูสะเต๊ะที่หน้าโรงหนังเฉลิมบุรีมาตั้งแต่เด็กจนอายุ 80 กว่าปี
       "เกือบร้อยปีที่ "หมูสะเต๊ะเฉลิมบุรี"
       เกิดขึ้นมาเป็นตำนานวงการอาหาร
       ยังเหลือร้านเดียวขายอยู่ซอยพญานาค
"
      
       เจ้านาย...ก็รู้อยู่นี่เจ้าค่ะว่า
       "หมูสะเต๊ะ"ที่คนชอบกินกันนั้น มีประวัติตำนานผูกพันกับโรงหนังเฉลิมบุรีสามแยก
      
       จนกระทั่งโรงหนังถูกรื้อเอาไปทำเป็นที่จอดรถไปแล้ว
      
       แต่ชื่อ "หมูสะเต๊ะเฉลิมบุรี" ก็ยังมีอยู่
      
       ใครไม่รู้ไปกินหมูสะเต๊ะเจ้าใหม่...ใหม่ขายไม่กี่ปี หรือสูตรไม่ใช่แบบเฉลิมบุรี แล้วชีช้ำ มันไม่ได้เป็นอย่างที่เขาเล่าลือความอร่อยกัน
"บริการดีลิเวอร์ลี่" โทรศัพท์มาสั่งก่อนแล้วก็ขับรถมารับได้ทันที
       วันนี้...อีชั้นก็จะขอพาเจ้านายไปเปิบ "หมูสะเต๊ะเฉลิมบุรี" เจ้าสุดท้ายที่ยังขายอยู่
      
       นอกจากนั้นมันม่ายช่าย..ม่ายช่าย หรอกเจ้าค่ะเจ้านาย
      
       "หมูสะเต๊ะเฉลิมบุรี"..เจ้าสุดท้ายที่ยังขายอยู่ โยกย้ายมาจากเฉลิมบุรีเพราะถูกไล่ที่มาห้าสิบกว่าปีแล้ว
      
       แต่เมื่อ 8-90 ปีก่อนขายอยู่หน้าโรงหนังเฉลิมบุรี อีชั้นเป็นลูกค้าประจำ เพราะเป็นเจ้าเดียวที่..หมูสะเต๊กไม้ใหญ่ แล้วน้ำจิ้มก็เข้มข้น อาจาดก็จัดจ้าน ถูกปาก..ถูกใจอีชั้นยังจำได้
      
       พ่ออีชั้นเป็นสรรพากรอำเภอป้อมปราบ พาอีชั้นไปอุดหนุนเป็นประจำ
      
       เวลาพ่อจะไปกินหอยแครงลวก หัวหมูจิ้มพริกน้ำส้ม ที่ขายอยู่ข้างๆร้านหมูสะเต๊ะเจ้านี้เมื่อย้ายมาเมื่อห้าสิบกว่าปี ก็มาอยู่ที่หน้าตลาดกิ่งเพชรเก่า
      
       ขายเป็นเจ้าแรกโด่งดังประจำซอยกิ่งเพชร นักเลงกินหมูสะเต๊ะรู้จักกันดี
      
       ความเอร็ดอร่อยหมูสะเต๊ะเจ้านี้อยู่ที่ ยังคงใช้สูตรโบราณแบบที่เคยทำขายในเมืองจีนมา
      
       อย่างแรกที่เห็นกันก็คือ นอกจากเนื้อหมูสะเต๊ะแล้ว ก็จะต้องตับสะเต๊ะ ไส้อ่อนสะเต๊ะ ขนมปังหัวกะโหลกแบบเนื้อหนา ข้างนอกกรอบข้างในนิ่ม
หน้าร้าน "หมูสะเต๊ะเจ๊กเอี่ยม" เปิดขายตั้งแต่10.00-20.00 ทุกวัน
       ส่วนหมูสะเต๊ะเจ้าใหม่ ที่ชอบแอบอ้างว่าเป็นสูตรเฉลิมบุรี ทุกร้านนี้ไม่มีมากมายให้เลือกกันเพราะไส้อ่อน ตับนั้นทำยากลำบากก็เลยขายแค่หมูสะเต๊ะเท่านั้น
      
       ยิ่งขนมปังที่เอามาย่างมาปิ้ง ที่ขายกันตามสบายก็ใช้ขนมปังแบบแซนวิชซึ่งไม่ใช่!!
      
       ของแท้ต้องใช้ขนมปังหัวกะโหลกอย่างที่ว่า ซึ่งหาซื้อยาก แต่ก็ยังพอจะมีให้เอามากินกันอร่อย..อร่อย
      
       อีกอย่างหนึ่งก็คือ "น้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ"
      
       ที่ทำขายกันผิด..ผิดเสียส่วนใหญ่ เพราะนึกเอาเองว่าน้ำจิ้มก็คือเครื่องแกงกระหรี่ ซึ้งแท้จริงแล้วไม่ใช่
      
       "น้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ"...เป็นน้ำจิ้มที่คนจีนแต้จิ๋วเรียกว่า "ซาเต๊" หรือ "ซาเต๊ะ" เป็นน้ำจิ้มแบบแตกต่าง
      
       แบบจะต้องใส่เครื่องยาจากเมืองจีนเท่านั้น
      
       นี่ถ้าจะว่ากันแล้ว อาจาด...หรือที่เรียกว่าน้ำจิ้มแตงกว่า พริกชี้ฟ้า หอมแดงนั้น สูตรเก่าจะต้องเคี่ยวน้ำส้มกับน้ำตาลทราย เคี่ยวให้เหนียวเสียก่อน
      
       ที่ทำไม่เป็นก็นึกว่าเอาน้ำส้มสายชูเทลงไปในแตงกวาเท่านั้น แล้วมันจะอร่อยได้อย่างไงกัน เพราะฉะนั้นอย่างที่ว่า
       "หมูสะเต๊ะเฉลิมบุรี" เจ้านี้เป็นหมูสะเต๊ะเฉลิมบุรีแท้ แต่เหลืออยู่เจ้าเดียวนั้น ขายอยู่ในซอยนาคราช ข้างโรงแรมเอเชีย ถนนพญาไท
      
       เอาล่ะ..เจ้านาย เป็นอันว่า "หมูสะเต๊ะเฉลิมบุรี" ที่อร่อยจนเป็นตำนาน ร้านสุดท้ายก็ได้รู้จักแล้ว
      
       ขอยืนยันการันตีว่า ทุกอย่างที่อีชั้นเคยกิน หน้าโรงหนังเฉลิมบุรีเมื่อ 5-60 ปีก่อน ยังมีครบครันที่ร้านนี้ มีกระทั่ง..ใบตอง!!
      
       หมูสะเต๊ะที่ร้านนี้ใช้ถ่านไม้โกงกางย่างหมูเพื่อให้หอมแล้ว ยังใช้ใบตองห่อหมูสะเต๊ะย่างหอมหวนอบอวลใจ..ทำให้ระลึกนึกถึงบรรยากาศเมื่อ 50 ปี ก่อนนั้นได้ทุกที
      
       ..แล้วอย่างนี้เจ้านายไม่สน อีชั้นก็จนใจแล้วล่ะค่ะ เจ้านาย....
      
       *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *
       ฮัลโหล..สั่งหมูสะเต๊ะเจ้าเดียวที่สั่งซื้อทางโทรศัพท์ เพราะความที่ "หมูสะเต๊ะเฉลิมบุรี" เจ้านี้นอกจากขายดีแล้ว ที่จอดรถก็หายาก เพราะฉะนั้นลูกค้าจะต้องโทรศัพท์มาสั่งก่อนแล้วค่อยขับรถมารับที่หน้าร้าน ได้ทันที ไม่เสียเวลาบริการถึงรถของเจ้านายเลยเจ้าค่ะ
      
       หมายเลขโทรศัพท์ของเขาคือ 0-2611-0692 หรือ 08-1641-7543