กิน "เป็ดปักกิ่ง" ที่ร้าน "ฉวนจูเต้อ" /แม่ช้อยนางรำ

โดย แม่ช้อย นางรำ
บรรยากาศภายในร้านหนึ่งโต๊ะ หนึ่งเชฟบริการหั่นเป็ด
       "ร้านนี้...ขายมาร้อยกว่าปี
       ก็ไม่ใช่ร้านแรกแต่เป็นร้านดัง
       ใครมา "ปักกิ่ง" ไม่ได้กินเป็ดร้านนี้
       ก็ได้ชื่อว่า...มาไม่ถึงเมืองปักกิ่ง"
      
       คุณศุภลักษณ์ ตัณทาภิชาติ... ประธานบริหารบริษัท "คิธ แอนด์ คิน คอมมิวนิเคชั่น แอนด์ คอนซัลแตนท์ จำกัด" ซึ่งเป็นบริษัท "พับลิก รีเลชั่น เอเจนซี่" ท่านเป็นผู้มีเอตทัคคะ
      
       (หมายถึงว่า เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ) ท่านเจาะจงเลือกให้อีชั้นทำทัวร์ไปกินอาหารสุดยอดอร่อยที่มีอยู่ในประวัติ ศาสตร์ของประเทศจีน ที่เมืองปักกิ่ง นครหลวงเก่าแก่อายุ 7-800 ปี
"เป็ดปักกิ่ง" มีแป้งบาง...บางน้ำจิ้มปรุงพิเศษออกหวานอมเค็มกลีบดอกเบญจมาศ บ้างก็ว่า "แปะฉ่าย" ใบกุยฉายขาวและก็เป็ดปักกิ่งแล่เนื้อติดหนัง
       อีชั้นรับทำให้ทันที ไม่ใช่เพราะเห็นแก่กิน เพราะทำทัวร์เมืองจีนเป็นประจำ ไปกินอาหารทั้งธรรมดา ทั้งพิสดารมามากมาย แต่เป็นเพราะว่า
      
       อยากจะไปปักกิ่งดูซิว่า เขาเตรียมตัวจัด "โอลิมปิคเกมส์" ปีหน้าอย่างไร
       เมื่อต้นเดือนสิงหา อีชั้นและคณะของคุณศุภลักษณ์ ซึ่งประกอบด้วยผู้ใหญ่หลายวงการ ที่ชอบเปิบ...ชอบรับประทาน จึงเดินทางไปปักกิ่ง กินอาหารดัง 2 รายการที่นั่น คือเป็ดปักกิ่ง กับอาหารฮ่องเต้ ซึ่งประวัติความเป็นมาพิสดารทั้งสองรายการ คือ
      
       "เป็ดปักกิ่ง" นั้น แท้จริงไม่ใช่อาหารจีน แต่เป็นอาหารของพวกอิสลามแถวชินเกียง คนจีนจดจำแล้วเอามาทำขาย กลายเป็นอาหารจีนไป
      
       ส่วน "อาหารฮ่องเต้" ก็ไม่ใช่อาหารจีนอีกนั่นละ เป็นอาหารของแมนจู ของฮ่องเต้ ฮองเฮา "แมนจูเรีย" สมัยราชวงศ์ชิง ที่ทำเฉพาะในรั้วในวังเพียงเท่านั้น
      
       หลายปีดีดัก อีชั้นไปปักกิ่ง ลูกทัวร์ส่วนใหญ่จะไปกำแพงเมืองจีน เรื่องกินอาหารไม่พิถีพิถัน เวลาผ่านพระราชวังฤดูร้อน หรือร้านขายเป็ดปักกิ่ง อีชั้นได้แต่มองตาละห้อย
      
       มื้อนี้... คราวนี้ ก็เขียนเรื่องเป็ดปักกิ่งก่อน มื้อหน้าคราวต่อไปก็จะเขียนอีกสองรายการใหญ่คือ
      
       อาหารฮ่องเต้ราชวงศ์ชิง กับสุกี้เนื้อแพะมองโกเลีย
      
       เสียใจเจ้านาย ยังไม่อยากให้เจ้านายตะกายข้างฝาในยามนี้ เพราะอาหารฮ่องเต้เขาก็มี...พระกระโดดกำแพง
      
       ส่วนสุกี้มองโกเลียนั้น "เจงกีสข่าน" พิชิตได้ครึ่งโลกก็เพราะกินเนื้อแพะ พลังก็เลยแยะ เหมือนแพะตัวผู้ตัวเดียวคุมตัวเมียทั้งฝูง
      
       เรามารู้จักร้าน "ฉวนจูเต้อ" ร้านขายเป็ดปักกิ่งดังที่สุดของประเทศจีนกันดีกว่า...นะเจ้าคะ
       ร้าน "ฉวนจูเต้อ"
       ทุกอย่างในเป็ดกินได้ (เกือบ) หมด

      
       ร้านนี้เปิดขายที่ปักกิ่งตั้งแต่ปี 1864 แต่มาโด่งดังสมัยที่ท่าน "จูเอินไล" ใช้เป็นร้านรับรองแขกบ้านแขกเมือง ผู้นำดังๆ ในโลกมาปักกิ่งจะต้องได้กินเป็ดร้านนี้
      
       แต่เดิมเป็นร้านเล็กๆ ปัจจุบันกลายเป็นตึกสูง 5 ชั้น บริการขายทั้งกลางคืนกลางวัน รับรองลูกค้าได้กว่า 1,500 คน ร้านนี้หาง่าย อยู่ใกล้จัตุรัสเทียนอันเหมิน ถามใครก็รู้จัก แต่อย่างไปถามคนกวางตุ้ง คนมณฑลอื่นที่มาเที่ยวปักกิ่งก็แล้วกัน
      
       ร้านเป็ดปักกิ่ง "ฉวนจูเต้อ" มีรายการอาหารที่ทำด้วยเป็ดมากมาย ตั้งแต่อาหารกินเล่นๆ ไปจนถึงอาหารกินกันจริงจัง แต่ที่สำคัญก็คือจะต้องมีเป็ดปักกิ่งมาแล่โชว์ข้างโต๊ะเป็นไฮไลต์
      
       ใครที่เคยกินเป็ดปักกิ่งจากเมืองไทย ก็อย่าคิดว่าจะคล้ายกัน มันไม่ใช่เลย อร่อยกันไปคนละทิศละทาง แต่ถ้าถามอีชั้นชอบกินแบบไหน อีชั้นยืนยันการันตีได้ว่า ต้องกินของปักกิ่ง ถึงจะได้กินของจริงแท้
      
       บ้านเราก็มีแค่เอาเป็ดมาแล่เฉพาะหนัง ส่วนเนื้อ ซี่โครง กระดูก เพื่อนยกเอาไปทำอะไรก็ไม่รู้ ตอนยกไปก็ตัวใหญ่โตอยู่หรอก
      
       แต่พอยกกลับมาเหลือจานเล็กนิดเดียว
      
       ส่วนที่ปักกิ่ง เป็ดทั้งตัวเขาให้กินทั้งตัว เนื้อ หนัง เครื่องใน กระทั่งลิ้น คอ เขามาทำเป็นอาหารได้ทั้งนั้น เป็ดทั้งตัวกินไม่ได้เพียงสองอย่างก็คือ
      
       ...ขนเป็ด กับขี้เป็ด เท่านั้นเองเจ้าค่ะ
      
       แต่ถ้าเขาสามารถทำให้กินได้ อีชั้นก็จะเรียนเจ้านายอีกทีนะเจ้าคะ...เจ้าขา...เจ้านาย
      
       ***********************************************
       ***********************************************
      
       Beijing Quanjude Hepingmen
       Roast Duck Restaurant
       No.14 Qianmen West Street
       Beijing China
       Tel.010-63023062/63019916/63018833-1151/2/3