โดย : แม่ช้อยนางรำ | ||||
เป็นตึกสูงใหญ่ 3-4 ชั้น จัดเลี้ยงได้เป็นพัน..พันคน จนถึงทุกวันนี้ยังไม่มีภัตตาคารไหนใหญ่เท่า” ถ้าอีชั้นเรียนเจ้านายว่า มีภัตตาคารจีนแห่งหนึ่ง เป็นตกสูง 3-4 ชั้น บนเนื้อที่เกือบสิบไร่ รับงานเลี้ยงได้จำนวนสาม..สี่พันคนขึ้นไป อยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพ กทม. เจ้านายจะเชื่อมั๊ย? เอาว่าเจ้านายเป็นคนกรุงเทพขนานแท้ โดยเฉพาะที่สำคัญจะต้องมีอายุเกินเลขสี่..ห้าสิบปีขึ้นไป เจ้านายจะต้องเชื่อ.. | ||||
เพราะขนาดเมืองจีน พลเมืองจีน พลเมืองเป็นพัน..พันล้าน ภัตตาคารใหญ่กลางกรุงปักกิ่งยังไม่ได้ขนาดนี้เลย แต่ขอยืนยันการันตีว่า เรื่องนี้เป็นความจริง เป็นความจริงถึงขนาด รายการโทรทัศน์ต่างประเทศต้องยกกองเข้ามาถ่ายทำ (สมัยนั้นยังไม่มี “กินเนส เร็คคอร์ด” ก็เลยไม่มีการบันทึกไว้เป็นหลักฐาน) ภัตตาคารที่ว่าชื่อ “นิวเปงเชียง” อยู่ถนนสาทร ปากตรอกทางเข้าซอยสวนพลู ภัตตาคารที่เคยได้รับการยอมรับว่าเป็น..ภัตตาคารจีนใหญ่ที่สุดในโลก ปัจจุบันภัตตาคารนี้ไม่ได้อยู่ที่เก่า โยกย้ายมาอยู่ที่ใหม่ ถึงไม่ได้เป็นภัตตาคารจีนใหญ่ที่สุดในโลกต่อไป แต่ก็ยังเป็นภัตตาคารจีนที่รักษาความอร่อยระดับโลกเอาไว้..เหมือนเดิม เจ้าค่ะ | ||||
“นิวเปงเชียง” โด่งดังกันมาอย่างไร ก็ต้องเรียกว่า ก่อนที่จะมาเป็นภัตตาคารจีนใหญ่ระกับโลกนั้น เคยเป็นร้านอาหารจีน ขายอยู่เยาวราชมาเมื่อหกสิบกว่าปีก่อน คือตั้งแต่สงครามโลกเลิกใหม่..ใหม่ ร้านแรกขายอยู่หลังโรงหนังเท๊กซัส ขายดิบขายดีมีชื่อเสียงชนิดคนจีนจะจัดงานเลี้ยงทั้งหลาย จะต้องใช้ภัตตาคารนิวเปงเชียง ก็เลยโยกย้ายมาอยู่ถนนสาทรที่ว่า เมื่อสี่..ห้าสิบปีที่ผ่านมา ตอนนั้นสมัยนั้น ชั้นสาว..สาวยังได้ยินคำกล่าวของคนจีนรวมทั้งคนไทยพูดเหมือนกันว่า “จัดงานใหญ่ต้องใช้นิวเปงเชียง” | ||||
“นิวเปงเชียง รุ่นสอง” อาเหลา..ที่เห็นในภาพเป็นหลงจู๊ รุ่นที่สองของภัตตาคารนิวเปงเชียงชื่อว่านาย “สมเกียรติ์ จิระพงษ์พันธ์” เห็นหน้าตาก็บอกได้ว่าอายุเกินเลยครึ่งศตวรรษไปแล้ว แต่นี่เป็นรุ่นที่สองนะเจ้าค่ะ ส่วนรุ่นแรกตัวเถ้าแก่ ตอนนี้อายุปาเข้าไปเกือบ 90 ยังแข็งแรงดีเจี๊ยะเต๋อย่างเดียวปล่อยให้เด็ก..เด็กอายุเจ็ดสิบกว่าปีคนนี้ ทำแทน |