"สามคานเถา" ร้านเตาฟืน ตลาดบ้านใหม่ แปดริ้ว/แม่ช้อยนางรำ

โดย : แม่ช้อยนางรำ
"สามคนเถา” ไล่มาจากหน้าไปหลัง เถาแรกคนโต เถาที่สองคนรอง และคนท้ายเป็นเถาน้องสุด
       ร้านนี้..มีแม่ครัว "ทำร่วมกันสามคน"
       แต่ละคนล้วนแต่เป็น..นางสาวทั้งนั้น
       อีชั้นก็เรียกว่า "ร้านสามคานเถา"
       

       อาทิตย์นี้..จะชวนเจ้านายไป "แปดริ้ว"
       

       หิวหรือไม่หิวก็ต้องไป
      
       เพราะที่นี่มีตลาดอายุร้อยกว่าปี แต่ชื่อว่า "ตลาดบ้านใหม่" ยังชื่อแล้วคงจะแปลกใจ.. ตลาดเก่าแต่บ้านใหม่
      
       อะไรกันจ๊ะ??
      
       แต่ก็อย่าสงสัยที่ตลาดนี้มีอะไรสนุกสนุก และอร่อยถูกใจเจ้านาย
      
       บรรยากาศตลาดโบราณ และบรรดาอาหารที่ขายก็เป็นอาหารที่สมัยนี้หากินยาก
      
       ถ้าไม่เก๊าส์..เก่าจริงจริง ก็ไม่มีทางจะทำให้กินได้หรอก..จะบอกให้
      
       เจ้านายจะต้องขับรถ เลยตัวจังหวัดไปทางอำเภอบางขนาก แต่ไม่ต้องไปถึงที่นั่น
      
       พอเลยตลาดสถานีรถไฟ "แปดริ้ว" ไปไม่กี่กิโลเมตร ก็จะถึงตลาดนี้แล้วถ้าไม่ถูกก็ถามเขาได้
      
       แต่ต้องถามคนแปดริ้วนะ อย่าไปถามคนเมืองอื่น ใครเขาจะไปรู้?
      
       "ตลาดบ้านใหม่" จะอยู่ทางขวามือ เวลาเจ้านายขับรถจากตัวจังหวัดไปถึงก็ให้เลี้ยวซ้าย จะมีคนของตลาดเขาจะมาช่วยหาที่จอดรถให้ไม่ต้องจ่ายค่าจอกรถเหมือนในกรุงเทพ
      
       แล้วก็ให้เดินข้ามถนนก็จะเข้าตัวตลาดที่เป็นบ้านไม้ เก่า..เก่า ห้องแถวโบราณ บรรยากาศเหมือนสมัยเด็กๆ เจ้านายเคยเห็นตลาดของคนจีนที่เข้ามาสร้างตลาดในเมืองไทย
      
       เจ้านายเดินไปเรื่อย เรื่อย เหนื่อยก็ให้หยุด แวะกินอาหารร้านที่อีชั้น แนะนำนี้ก็ได้ แล้วจึงเดินต่อไป
      
       เชื่อไหมเจ้านาย ตลาดนี้มีความลึกความยาวเป็นร้อยๆเมตร เดินให้ดีนะเจ้าค่ะ เผลอไผลไปเหยียบ อ่างกะปิที่เขาแตกไม่เป็นไรแต่ระวังเดินตกลงไปในแม่น้ำบางปะกงแล้วจะยุ่ง!!
      
       ร้านอาหารในตลาดนี้ มีหลายประเภท อย่างเช่นร้านติดแม่น้ำ หรือร้าน กลางตลาด
      
       ร้านกลางตลาดก็มีทั้งร้านในห้องแถวไม้ หรือร้านเปิดกว้างกลางทางเดิน อย่างร้านที่อีชั้นจะแนะนำให้เจ้านายไปลอง..เปิบ!!
      
       เพราะเห็นแม่ครัวแล้วศรัทธา มีด้วยกันถึง 3 คน
      
       แต่ละคนอายุถ้าจะรวมกันแล้วคงจะเกือบสองร้อยปีเห็นจะได้ แต่ที่สำคัญคือ เป็นสาว..สาวทั้งนั้น ไม่มีใครได้แต่งงาน อาศัยอยู่ร่วมกันที่ "คานทองนิเวศน์"
      
       เหตุนี้ละอีชั้นจึงขอแนะนำให้เจ้านาไปอุดหนุน..สาว..สาว..สาว
"ตู้โชว์หน้าร้าน" มองเห็นก็รู้ว่าโบราณขนาดไหน ที่สำคัญร้านนี้ยังคงใช้ฟืน
       ร้าน "สามสาว" ตามที่ชาวบ้านเขาเรียก หรือว่าจะร้าน "สามคานเถา" อย่างอีชั้นตั้งให้ก็ได้
      
       แต่ว่าไม่ว่าเจ้านายจะเรียกว่าอะไร ความน่าสนใจของร้านนี้ก็อยู่ที่ฟืนไฟที่ใช้ทำอาหาร เป็น "ฟืน"แบบโบราณ
      
       ถ่าน... แก๊สไม่ได้เงินของคุณยาย เพราะใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิงหุงข้าวทำอาหารมาตั้งแต่บรรพบุรุษเมื่อร้อยปี ตกมาถึงสมัยนี้ก็ยังไม่เปลี่ยนใจ
      
       อาหารที่นี่นอกจากจะอร่อยด้วยฝีมือ ก็ยังหอมด้วยกลิ่นฝืน ซึ่งทำอาหารอร่อยกว่าถ่าน และถ่านก็ทำอาหารอร่อยกว่าแก๊ส
      
       และแก๊สยังทำอาหารอร่อยกว่าไฟฟ้า...ว่ากันไป
      
       สำหรับเมนูอาหาร ก็ไม่ยุ่งยากลำบากอะไร ให้เจ้านายนึกถึงกับข้าวแบบแต้จิ๋วโบราณ คุณยายทั้งสามทำได้โหมด
      
       เพราะเมนูไม่เคยเปลี่ยนแปลง
      
       หรือถ้าไม่รู้จะสั่งอะไร ก็ให้เจ้านายมองดูตู้กระจกใส่กับข้าวหน้าร้าน เห็นอะไรก็ชี้ไป คุณยายนางสาวทำได้ทั้งนั้น แถมราคาไม่แพง
      
       สั่งมาให้เก็บตังค์นึกว่าคิดผิดเสียทุกที แต่คุณยายยืนยันว่าคิดถูก อีชั้นละเป็นงง "ก็เพราะมันถูกกะตังค์" เรียกว่าราคาขนาดนี้อยู่กรุงเทพก็ต้องกินกันเป็นสิบคน แล้วถ้าเจ้านายมา "แปดริ้ว" อย่างที่ว่า หิวไม่หิว มาร้าน สามใบเถา รับรองว่าอร่อยกินเกลี้ยงถาม
      
       ..แล้วอย่าลืมไปไหว้ท่าน "หลวงพ่อโสธร" ขอพรอะไรก็ได้ แต่อย่าหวัง ไปไกล แค่ซื้อพวงมาลัยสิบบาท แต่จะขอเงินเป็นร้อยเป็นพันล้าน อย่างนั้นมันก็เกินไป... หลวงพ่อท่านไม่ให้ หร๊อก