ความดันโลหิตสูง ยิ่งเป็นอายุน้อยยิ่งอันตราย(จบ)/หมอหลินตันเฉียน

โดย Uncle fat 1 มีนาคม 2550 08:46 น.

ด้วย ความที่โรคความดันโลหิตสูงสามารถนำมาซึ่งโรคร้ายที่น่าเป็นห่วงหลายต่อหลาย เรื่อง อาทิ โรคหลอดเลือดและหัวใจ โรคเบาหวาน อัมพฤกษ์-อัมพาต ดังนั้น จึงต้องให้ความสำคัญและใส่ใจที่จะรักษา รวมทั้งดูแลสุขภาพเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาใหญ่ต่อร่างกายจนสายเกินแก้ได้

ทั้งนี้ ในทางการแพทย์แผนตะวันตก สามารถแบ่งอาการของโรคออกได้เป็น 3 ระยะด้วยกัน ซึ่งแต่ละระยะก็มีสภาพปัญหาที่แตกต่างกันออกไป               กล่าวคือในระยะแรก อาการที่เห็นเด่นชัดคือความดันโลหิตของผู้ป่วยจะขยับตัวสูงขึ้น แต่จะยังไม่มีภาวะอาการแทรกซ้อนเข้ามากวนใจ จากนั้นเมื่อเข้าสู่ระยะที่สอง ภาวะความดันที่สูงขึ้นจะส่งผลให้เกิดอาการผิดปกติชนิดใดชนิดหนึ่งเกิดขึ้น เช่น บางรายอาจจะมีปัญหาหัวใจห้องด้านซ้ายที่ทำหน้าที่สูบฉีดโลหิตไปหล่อเลี้ยง ร่างกายโตขึ้น บางรายหลอดเลือดแดงในตาบางส่วนจะตีบตัน หรือบางรายมีอาการปัสสาวะขุ่น เป็นต้น               ต่อมาเมื่อเข้าสู่ระยะที่สาม นอกจากความดันจะเพิ่มขึ้นให้เห็นอย่างชัดเจนแล้ว ผู้ป่วยยังมีความเสี่ยงจะเกิดเส้นเลือดในสมองแตก มีเลือดออกในตาและการทำงานของหัวใจอ่อนล้า ใครที่เป็นในขั้นนี้ ต้องบอกว่าอยู่ในภาวะตรีทูตและเสี่ยงที่จะเสียชีวิตสูงยิ่ง เพราะไม่สามารถรักษาให้หายได้ ทำได้แค่เพียงบรรเทาอาการ เนื่องเพราะมีโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องเช่น โรคหัวใจ ไตวาย ฯลฯ รอคอยที่จะดับชีวิตได้ตลอดเวลา               ขณะที่ในหลักการแพทย์แผนจีน วิเคราะห์สาเหตุของโรคว่าเกิดมาจาก ความผิดปกติของตับและไต ภาวะสมดุลของพลังอิน-หยางเปลี่ยนไปจากที่ควรจะเป็น ทั้งนี้ คนที่อารมณ์ตื่นเต้นบ่อยหรืออารมณ์เสียบ่อยๆ เป็นเวลานานจะทำให้ตับมีความร้อนสูงและเสี่ยงที่จะเป็นความดันโลหิตสูงได้ ง่ายกว่าคนทั่วไป ขณะที่ปัจจัยในเรื่องของการรับประทานอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะหรือพูดง่ายๆ คือกินแบบไม่เลือก กินจนอิ่มมากๆ กินอาหารที่มีไขมันสูง กินอาหารประเภทปิ้งๆ ย่างๆ ทอดๆ บ่อย ก็ส่งผลทำให้ม้ามอ่อนแอ ระบบความชื่นในร่างกายติดขัดและนำไปสู่โรคความดันโลหิตสูงได้เช่นกัน               ใครที่มีอาการเวียนศีรษะบ่อย หน้าแดง ตาแดง อารมณ์ฉุนเฉียว มีรสขมในปาก ปัสสาวะบ่อย เส้นชีพจรจะเต้นเร็ว ใจสั่น หูแว่ว ขี้ลืม นอนไม่หลับ อาเจียน มีเสมหะ ฯลฯ ให้พึงสังวรว่า ภาวะความดันโลหิตสูงได้มาเยือนอย่างเป็นทางการแล้ว                สำหรับหลักสำคัญของการนวดทุยหนาเพื่อบำบัดรักษาภาวะความดันโลหิตสูง ก็คือ การนวดเพื่อลดความร้อนหรือสลายความร้อนที่สะสมภายในตับให้กลับสู่ความสมดุล โดยนวดในจุดสำคัญๆ เช่น จุดเจียนซูที่อยู่บนไหล่ เป็นต้น               อย่างไรก็ตาม ในทีนี้ คงไม่สามารถอธิบายรายละเอียดให้เห็นชัดว่า ต้องนวดอย่างไรเพราะก่อนที่จะมีการรักษาด้วยการนวด จะต้องมีการวินิจฉัยอาการเป็นรายๆ ไปเพื่อให้ตรงจุดที่สุดเท่าที่จะทำได้               เอาเป็นว่า ถ้าใครมีอาการหรือมีปัญหาก็ไปรับการตรวจและรักษาที่โรงพยาบาลหัวเฉียวแพทย์จีนก็แล้วกัน               ....โปรดฟังอีกครั้ง                คนที่อ้วน โดยเฉพาะในรายที่น้ำหนักเกินมากๆ ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะเป็นกลุ่มที่มีไขมันร้ายในร่างกายค่อนข้างสูง ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคความดันโลหิตสูงมากที่สุด และยิ่งคุณเป็นอายุน้อยเท่าใดก็ยิ่งอันตรายเท่านั้น ดังนั้น จึงควรหมั่นที่จะวัดความดันอย่างสม่ำเสมอด้วย http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9500000024391