อย่าละเลยการซักชุดชั้นใน!!!

กางเกงใน


อย่าละเลยการซักชุดชั้นใน!!! (Woman's Story)

          วันนี้ เรามาเอาใจสาว ๆ ด้วยวิธีการซักชุดชั้นในให้สะอาดอย่างถูกต้อง เพื่อสุขภาพที่ดีของน้องน้อย และไม่ต้องเสี่ยงกับอาการคันอีกต่อไป

          เริ่มต้นด้วยการแยกชุดชั้นในออกจากชุดชั้นนอก ซักด้วยน้ำยาซักผ้า หรือผงซักฟอกละลายในน้ำธรรมดา ไม่ควรใช้สารฟอกขาวโดยเด็ดขาด ซักแต่เบามืออย่าใช้แรงขยำขยี้ ใช้แปรงขนนุ่ม ๆ ถูเบาๆ บริเวณที่มีคราบสกปรก แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้ง

           จาก นั้น นำชุดชั้นในไปตากในที่ร่ม มีลมโกรก อย่าตากชุดชั้นในให้โดนแสงแดดโดยตรง เพราะจะทำให้เนื้อผ้าและสีเสื่อมสภาพเร็ว เนื่องจากบริเวณจุดซ่อนเร้นของผู้หญิงจะมีความชื้นอยู่ ยิ่งในช่วงหน้าร้อน อากาศชื้นมาก เหงื่อออกทำให้เกิดการหมักหมม สร้างปัญหาให้กับบริเวณจุดซ่อนเร้นได้ โดยอาการที่พบบ่อย คือเชื้อราบริเวณช่องคลอดและปากช่องคลอด จะมีอาการตกขาวแสบร้อน คัน ทำให้ระคายเคืองบริเวณปากช่องคลอด และทำให้ติดเชื้อในที่สุด...แต่ถ้าใส่ใจเรื่องชุดชั้นในซักนิดก็หมดปัญหา เรื่องดังกล่าว...

          นอกจากนี้ ควรเลือกใส่ผ้าคอตตอนจะช่วยระบายอากาศได้ดี หมั่นทำความสะอาดในจุดซ่อนเร้นด้วยน้ำสะอาด และสบู่อย่างอ่อน หรือใช้สบู่เหลวอนามัย จะช่วยบรรเทาเรื่องกลิ่นได้ หลังจากอาบน้ำแล้วให้ซับเบา ๆ ด้วยผ้าเช็ดตัวที่นุ่ม แห้งและสะอาด เพราะถ้าถูกรุนแรงจะทำให้ผิวหนังบริเวณนี้ถลอกและติดเชื้อได้ง่าย




          การ ใช้ชุดชั้นในที่เป็นผ้าฝ้ายที่มีเนื้อผ้าบางเบา จะช่วยให้อากาศถ่ายเทสะดวก เป็นการลดความอับชื้น ในขณะที่ผ้าไนลอนจะอับลม ทำให้อับชื้นและติดเชื้อราง่ายขึ้น อีกทั้งอย่าใส่เสื้อผ้ารัดรูปมาก ๆ เพราะจะทำให้อึดอัด อากาศระบายได้ไม่ดี กลายเป็นที่สะสมของเชื้อโรคได้ และเวลานอนไม่ควรใส่กางเกงใน เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้น้องน้อยได้ผึ่งลม ป้องกันการอับชื้น และกลิ่นที่ไม่สะอาด

          หากคุณสาว ๆ คนใดใส่สเตย์ เพื่อรักษารูปร่างตลอดเวลา แล้วกลัวความไม่สะอาด เลยใช้น้ำยาอนามัยสวนล้างเข้าไปภายใน จะยิ่งทำให้เชื้อแบคทีเรียชนิดดีที่มีอยู่ในช่องคลอดโดนทำลาย และทำให้เชื้อโรคภายในช่องคลอดเข้าไปในโพรงมดลูกได้ง่าย และอาจติดเชื้อลุกลาม จนทำให้ปีกมดลูกอักเสบได้ในที่สุด

          ส่วนการประแป้งบริเวณจุดซ่อนเร้นนั้น หลาย คนเข้าใจว่าการประแป้งฝุ่นจะช่วยลดการอับชื้น แต่ความจริงแล้วไม่เลย เพราะเหงื่อที่ออกมาเมื่อปนกับแป้งแล้วจะจับตัวเป็นกระจุกแถวขนอ่อนทำให้ติด เชื้อราได้ง่ายขึ้น อีกทั้งแป้งที่ทาอาจถูกดูดเข้าไปในโพรงมดลูกแล้วเข้าไปสู่ท่อนำไข่แ ละหล่นไปอยู่ในรังไข่ทำให้โอกาสเป็นมะเร็งรังไข่เพิ่มขึ้นอีกด้วย

          ยังไง ๆ ก็อย่ามองข้ามเรื่องใกล้ตัวของเราไปนะคะ หันมาใส่ใจตัวเองให้มากกว่าเดิมจะดีกว่าค่ะ


http://health.kapook.com/view30381.html
ขอขอบคุณข้อมูลจาก