คน ที่ใช้ “สมอง” ทำงานหนักๆ คงสามารถรับรู้ได้ด้วยตนเองว่า เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจหรือหน้าที่การงานแล้วมันอ่อนล้าและเหนื่อยอ่อนสัก เพียงใด เรียกว่า เหนื่อยไม่แพ้การทำงานที่ใช้แรงกายเลยทีเดียว
| | ||
นอกจากนั้น สิ่งที่ควรต้องรับรู้อีกประการหนึ่งก็คือ อาการของผู้ป่วยโรคประสาทอ่อนไม่สามารถชี้วัดได้ด้วยการแพทย์แผนปัจจุบัน ไม่สามารถเอ็กซเรย์ตรวจสอบ ไม่สามารถใช้เครื่องไม้เครื่องมือสรุปว่าเป็นโรคนี้ได้ แถมผู้ป่วยยังสามารถประกอบกิจการและหน้าที่การงานได้เหมือนเดิม เหมือนไม่ได้ป่วยเป็นโรคอะไร
แต่โรคนี้เป็นโรคที่ผู้ป่วยจะรู้สึกได้ด้วยตัวเอง เช่น มีความรู้สึกไวต่อการเจ็บไข้ได้ป่วยต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับร่างกายผิดปกติเกินกว่าเหตุ หรือสรุปชัดๆว่า ระบบประสาทการรับรู้รวนนั่นเอง ขณะที่ถ้าเป็นคนธรรมดาก็จะไม่ค่อยวิตกกังวลมากนัก
ขณะเดียวกัน ผู้ป่วยโรคประสาทอ่อนมักมีอาการอ่อนเพลียง่าย ไม่มีเรี่ยวไม่มีแรง ไม่มีพลัง ไม่มีไฟ ไม่อยากทำอะไร หรือทำก็ทำแบบเชื่องช้า ส่วนระบบประสาทอัตโนมัติก็เรรวนไปหมด เช่น หัวใจเต้นเร็วเกินไป ความดันของร่างกายขึ้นๆ ลงๆ เหงื่อออกมาก ท้องผูก ปัสสาวะบ่อย ถ้าเป็นผู้หญิงก็ประจำเดือนมาไม่ปกติ ถ้าเป็นผู้ชายก็มักฝันเปียกโดยไม่สามารถควบคุมได้ นอกจากนี้ ยังมักมีอุปสรรคในการนอนนานัปการ เช่น นอนหลับยาก นอนหลับไม่สนิท นอนแล้วตื่นง่าย ตื่นแล้วนอนหลับอีกครั้งยาก ชอบฝันไปต่างๆ นานา ชอบนอนกลางวันแต่เมื่อนอนแล้วก็ไม่หลับ
สิ่งเหล่านี้ต้องหมั่นสังเกตด้วยตัวเองและถ้าเกิดแล้วก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ
คำถามที่เกิดขึ้นก็คือ แล้วเราจะทำอย่างไรถึงรักษาให้หายได้?
คำตอบแบบฟันธงชนิดไม่อ้อมค้อมมีอยู่ว่า “ยาก” แต่ก็ใช่ว่าไม่มีความหวังเสียทีเดียวหรือพูดง่ายๆ ว่าทุกปัญหาย่อมมีทางออกเสมอ
ทางออกที่ดีที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคนี้ก็คือ “ออกกำลังกาย” และ “เล่นกีฬา” เพื่อผ่อนคลายสมองและจิตใจไม่ให้เครียดมากเกินไป
นอกจากนั้น คำแนะนำเพิ่มเติมที่อยากให้จดจำไปใช้กันคือในระหว่างที่กำลังทำงานเราต้อง รู้จักปรับความสมดุลระหว่างการทำงานของสมองกับการทำงานของร่างกายให้เกิด ขึ้น โดยไม่ปล่อยให้ระบบสมองทำงานเต็มกำลัง แต่ระบบการทำงานของร่างกายนิ่งอยู่กับที่เท่ากับศูนย์
หรือสรุปง่ายๆ คือ ต้องพักสมองด้วยการออกกำลังกายนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่นิยมชมชอบในการนั่งสมาธิก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการพักผ่อน สมองได้เหมือนกัน เพียงแต่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะผู้ป่วยที่เป็นโรคประสาทอ่อนถ้าปล่อยให้เงียบอาจทำให้ฟุ้งซ่านหรือคิด ไปต่างๆ นานาได้ง่าย ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ผู้ป่วยสามารถสงบสติอารมณ์ได้ด้วยการนั่ง สมาธิ สู้ไปทำอะไรที่ไม่ต้องใช้ความคิดคือออกกำลังกายไม่ได้
ส่วนจะเลือกออกกำลังกายด้วยวิธีอะไรก็แล้วแต่ความเหมาะสมกับ ร่างกายของแต่ละท่าน เช่น คนที่สูงอายุหน่อยก็อาจไปเดินซึ่งถือเป็นวิธีที่ดีที่สุด คนที่แข็งแรงหน่อยอาจไปวิ่ง หรือถ้ายังอยู่ในวัยหนุ่มสาวก็อาจเลือกไปปีนเขา หรือเล่นกีฬาประเภทต่างๆ แล้วแต่ความชอบ เช่น เทนนิส เทบิลเทนนิส บาสเกตบอล แบดมินตัน ฯลฯ
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9500000029870