| โดย Uncle fat | 29 มีนาคม 2550 07:56 น. | |
หลังจากที่ได้รับคำแนะนำกันไปเรียบร้อยแล้วสำหรับการออกกำลังกาย เพื่อต่อสู้กับ “โรคประสาทอ่อน” กันไปแล้วว่า สามารถทำได้หลากหลายวิธีด้วยกัน ทั้งการรำมวยจีน การฝึกชี่กงและวิธีง่ายๆ อย่างการเดินเพื่อดูแลตัวเองกันไปเป็นเบื้องต้นแล้ว คราวนี้คงจะขยายอาณาเขตแห่งความรู้ไปที่การนวดทุยหนาเพื่อรักษากันบ้างว่า จะมีทีเด็ดเช่นไร
| | ||
เริ่มแรกหรือจุดแรกที่ต้องนวดอยู่ที่บริเวณ “จุดอิ้นถาง” ที่อยู่ตรงกลางระหว่างคิ้วทั้งสองข้างซึ่งถือเป็นจุดที่สำคัญยิ่ง การนวดในท่านี้ผู้ป่วยจะนั่งบนเก้าอี้ จากนั้นผู้นวดจะใช้หัวแม่มือทั้งสองข้างนวดที่จุดอิ้นถาง แล้วนวดขยายออกไปทางด้านข้างซ้าย-ขวา เรื่อยไปจนถึงขมับ จากนั้นให้ใช้หัวแม่มือนวดและกดลงตรงบริเวณ “จุดเหมยกง” ที่อยู่ตรงหัวคิ้วทั้งสองข้าง
เสร็จแล้วย้ายจุดนวดไปที่บริเวณ “กลางศีรษะ” โดยกางนิ้วมือทั้ง 5 นิ้วออกแล้วนวดในลักษณะของการเกาแรงๆ และเร็วๆ เพื่อให้เกิดความอุ่นร้อนขึ้นที่บริเวณหนังศีรษะอันเป็นการกระตุ้นระบบ ประสาทให้เกิดความตื่นตัว
และปิดท้ายกันกับการกดที่ 2 จุดคือที่ “จุดฟงฉือ” ที่อยู่ด้านข้างของก้านคอเชื่อมต่อกับกะโหลกศีรษะทั้งสองข้าง และจุดกลางกล้ามเนื้อที่หัวไหล่ทั้งสองข้าง
จากการนวดในท่านั่ง ก็เปลี่ยนเป็นการนวดในท่านอน โดยให้ผู้ป่วยนอนหงายราบลงไปบนพื้น แล้วใช้หัวแม่มือกดและนวดบริเวณจุดสำคัญๆ 4 จุดด้วยกัน จุดแรกให้นวดจุดที่อยู่บริเวณตรงกลางร่องอกจากบนลงล่างถึงท้อง จุดที่สองให้นวดบริเวณจุดหัวนมทั้งสองข้างจากบนลงล่าง จุดที่สามให้นวดบริเวณจุดใต้รักแร้จากบนลงล่างเช่นกัน
ส่วนจุดที่สี่มีความพิเศษสักหน่อย เพราะต้องใช้การกดจุดพร้อมๆ กันทั้งสองจุด กล่าวคือ จุดแรกให้ใช้ฝ่ามือกดตรงจุดที่ลิ้นปี่ อีกมือหนึ่งให้กดที่อยู่ต่ำจากใต้สะดือมาประมาณ 2 นิ้ว เสร็จแล้วให้ใช้แรงกดสลับกันไป กดบนผ่อนล่าง กดล่างผ่อนบน ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ
เมื่อนวดทั้ง 4 ขั้นตอนแล้ว ก็จะมากดจุดอื่นๆ เพิ่มเติมอีกหลายจุดด้วยกัน ได้แก่ จุดอันเป็นที่ตั้งของม้าม จุดที่ตั้งของไต ฯลฯ ซึ่งจุดเหล่านี้เป็นจุดที่ต้องใช้การนวดจากผู้เชี่ยวชาญเป็นการเฉพาะ
อย่างไรก็ตาม วิธีการนวดดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้นเป็นเพียงการนวดทั่วๆ ไป สำหรับผู้ป่วยโรคประสาทอ่อนที่ไม่ได้มีการแยกประเภทเท่านั้น เพราะยังมีการนวดพิเศษสำหรับผู้ป่วยที่มีสาเหตุของโรคอีก 2 กลุ่มใหญ่ๆ
กลุ่มแรกคือผู้ป่วยโรคประสาทอ่อนอันเกิดจากความพร่องของหัวใจและม้าม ซึ่งการนวดก็จะกดลงบนจุดหัวใจ จุดตับ จุดกระเพาะ จุดลำไส้เล็กและจุดจู๋ซานหลี่ที่อยู่บริเวณขา แต่ละจุดใช้เวลากดประมาณ 1 นาที หลังจากนั้นให้ใช้มือถูด้านหลังตาม “เส้นตู๋ไม่” ที่ขนานอยู่ทั้งสองข้างซ้ายขวาของร่องกลางกระดูกสันหลังจนกระทั่งเกิดความรู้สึกร้อน
กลุ่มที่สองคือผู้ป่วยโรคประสาทอ่อนที่เกิดจากความพร่องของหัวใจและ ไต ซึ่งอาการที่บ่งบอกได้คือมักมีอาการแน่นหน้าอก ใจสั่น ใจเต้นผิดปกติ ถ้าเป็นผู้หญิงก็ประจำเดือนมาไม่เป็นปกติ มีระดูขาว ถ้าเป็นผู้ชายก็มักมีอาการหลั่งบ่อยๆ โดยการนวดก็จะเริ่มจากจุดก้านหูเป็นแนวโค้งไล่ลงมาที่คอและหัวไหล่ 20-30 ครั้ง นวดทั้งสองข้าง ข้างใดข้างหนึ่งก่อนก็ได้ จากนั้นให้ถูไปที่จุดไต จุดกลางบั้นเอวให้รู้สึกร้อน จากนั้นย้ายไปถูกตรงจุดกลางฝ่าเท้าทั้งสองข้างจนร้อนเช่นกัน
นอกจากนี้ ยังมีการนวดเสริมพิเศษเพิ่มเติมอีกหลายจุด เช่น นวดที่ต้นคอและหัวไหล่เพื่อให้เกิดการผ่อนคลายและกระตุ้นระบบการไหลเวียนของ เลือดลมให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะทำให้สมองแข็งแรงและสดชื่นขึ้นในที่สุด
ขณะเดียวกันยังมีการดึงกระดูกคอให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องหลังจาก ผิดเพี้ยนไปจากวิถีการดำรงชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะการนั่งที่ผิดท่า ซึ่งถือเป็นจุดที่ช่วยกระตุ้นทำให้อาการของผู้ป่วยโรคประสาทอ่อนฟื้นตัวได้ ดีขึ้น เพราะเป็นจุดที่ปรับให้การไหลเวียนของเลือดลมสมดุล
สุดท้าย อยากจะฝากไว้ว่า สำหรับใครที่ต้องการความรู้ที่ครบถ้วนกระบวนความเกี่ยวกับการนวดทุยหนา รวมทั้งกรรมวิธีในการพิชิตโรคต่างๆ ที่เคยนำเสนอในคอลัมน์นี้ ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งที่จะต้องไปหาซื้อหนังสือ “มหัศจรรย์นวดทุยหนา” พร้อม วีซีดีสาธิตการนวดที่จัดทำขึ้นเป็นพิเศษ ของทางสำนักพิมพ์บ้านพระอาทิตย์ ได้ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติที่จะเริ่มต้นปลายเดือนมีนาคมนี้ถึงต้นเดือน เมษายนที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
...บอกได้คำเดียวว่า พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9500000036076