อิ่มนี้ที่บ้าน “แม่ช้อย นางรำ”



โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 พฤศจิกายน 2547 12:45 น.











“อาหารบ้านอีชั้น” เป็นอาหารไทยชาวบ้านโบราณเจ้าค่ะ
       โดย: เเม่ช้อยนางรำ
       

       บ้านอีชั้น..อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
       ตรงข้ามกับ”เจดีย์ศรีสุริโยทัย”
       ระหว่าง “วัดกษัตราราม-วัดธรรมาราม”
       ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา

      
       บ้าน “แม่ช้อย นางรำ” อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ข้างๆ วัดกษัตราราม กับวัดธรรมาราม หรือจะว่ากันง่ายๆ ก็คือ อยู่ตรงข้ามกับเจดีย์ศรีสุริโยทัย
      
       เจ้านายไม่ต้องว่ายข้ามแม่น้ำมาให้ยุ่งยากก็ได้เจ้าค่ะ






“กุ้งหอยปูปลา” ได้มาจากแม่น้ำเจ้าพระยาสดๆ ทุกวัน
       เพียงแต่ขับรถข้ามสะพานที่อยู่ใกล้กับ “พระตำหนัก” ทางที่จะไปอำเภอเสนา บ้านแพน
      
       พอข้ามสะพานเลี้ยวขวาเข้าวัด “กษัตราฯ” ขับรถเข้าไปในวัด ถัดวัดไปก็เป็นบ้านของคุณ “แสงชัย สุนทรวัฒน์” ที่เขามาซื้ออยู่ข้างๆ บ้านอีชั้น เพราะเราเป็นเพื่อนกัน เขาบอก “คุณแนนซี”ภรรยาเขาว่า
      
       เวลาที่อยากจะกินข้าวก็ปีนกำแพงเข้าไปในบ้านแม่ช้อยขอเขากินได้ แต่ตอนนี้ อีชั้นต้องตักบาตรฝากพระไปให้คุณแสงชัยเขารับประทานแทน โดยไม่ต้องออกแรงปีนรั้วเข้ามาหาอีชั้นก็ได้
      
       บริเวณบ้านอีชั้นคนกรุงเก่าเขาเรียกว่า “ตำบลบ้านป้อม” ที่เรียกอย่างนั้นก็สมัย “บุเรงนอง” ยกทัพมาตีอยุธยา ก็เลือกทำเลแถวบ้านอีชั้นนี่ล่ะเป็นที่ตั้งป้อมค่าย
      
       กรุงแตกครั้งแรกก็บริเวณหน้าบ้านอีชั้นนี่ล่ะ เพราะคนไทยไส้ศึก เปิดประตูเมืองด้านวังหลัง ที่เรียกว่า “สวนหลวงสบสวรรค์” ให้ทัพพม่ารามัญกรูเข้าเมือง
      
       ถัดบ้านอีชั้นไปหน่อยก็เป็น “วัดท่าการ้อง” ที่พงษาวดารเขียนบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ ว่าก่อนกรุงศรีอยุธยาจะแตกครั้งสุดท้าย อีกามันร้องกันเต็มท้องฟ้า บางก็บินไปให้ยอดพระปรางค์เสียบอกตาย
      
       โบราณท่านว่าเป็นลางอาถรรพณ์ รวมอยู่ในสิ่งอัศจรรย์ของกรุงเก่า ที่มีมากมาย
      
       บรรพบุรุษของอีชั้นเล่าว่า บ้านอีชั้นแต่เดิมเป็นท่าข้ามฟากของพวกขุนน้ำขุนนางที่อยู่เกาะนอกเมือง จะเข้าประตูเมืองด้านทิศเหนือ แต่เป็นท่าไม่ใหญ่เหมือน “ท่าหัวรอ”






บรรยากาศภายในบ้านไทยโบราณ ต้นไม้ไทยร่มรื่นเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่
       ที่เรียกอย่างนั้นก็เพราะคนรอไปขึ้นเรือข้ามฟากมากที่สุด จนกระทั่งพม่ามาตีกรุงแตก ครั้งที่ 2 ก็ตรงกำแพงเมืองด้านหัวรอนี่ไง
      
       มีประวัติความเป็นมามากมายที่เกี่ยวข้องกับบ้านอีชั้น ถ้าไปพบกันอีชั้นจะเล่าให้ฟังมีทั้งตื่นเต้น มีทั้งสะเทือนใจ
      
       โดยเฉพาะเรื่องของเจ้าของบ้านยามตกอับ ต้องเอาบ้านมาทำเป็นร้านอาหาร หาเงินส่งเสียลูกที่ยังเด็ก พ่อแม่ที่แก่เฒ่า สิบปากฝากชีวิตไว้กับสองมือนี่ไงมีพลัง
      
       อีชั้นอยากจะเรียนเชิญเจ้านายและท่านผู้อ่านที่เคารพมารับประทานอาหารร่วมกัน
      
       ชาติหน้าฟ้าใหม่จะได้มารับใช้เป็นเจ้านายลูกน้องกันต่อไปอีกชาติ แล้วมีโอกาสได้เกิดใหม่เป็นนักเขียน เขียนอะไรต่อมิอะไรให้ท่านได้อ่านกันอีก
      
       อร่อยแล้วจะได้มาอยุธยาบ่อยๆ แล้วอย่าลืมเยี่ยมอุดหนุนร้านอาหาร “บ้านแม่ช้อย นางรำ” ช่วยอุดหนุนอีชั้นบ้าง ทำไปกำรี้กำไรไม่ค่อยจะมีสักเท่าไหร่
      
       ..ได้มือซ้ายจ่ายมือขวา ชีวิตอีชั้นมันรันทดอย่างที่ว่า อุดหนุนอาหารจานแพงช่วยอีชั้นก็แล้วกันนะเจ้าค่ะ เจ้านาย..
      
       “แม่ช้อย นางรำ”
       

       บ้านแม่ช้อยนางรำ ได้ที่ 0-3525-5268 และที่ 0-6569-2179 และ 0-1823-9394