ผวาหนังหมูนำเข้า ปนเปื้อนสารพิษ! พ่อค้ารับทำแคบหมูเหม็นหืน (ไทยโพสต์)
ภาคประชาชนต้านเจรจาการค้าเสรีจี้ตรวจสอบคุณภาพหนัง-เครื่องในหมูนำเข้าต่าง ประเทศ หวั่นปนเปื้อนสารกันเน่า เพราะต้องขนส่งทางเรือนาน 6-12 เดือน พ่อค้าแคบหมูเชียงใหม่เผยใช้หนังหมูเมืองนอก เพราะมีขนาดใหญ่ ทอดขายได้กำไรงาม แต่มีกลิ่นเหม็นหืน ส่วนหนังหมูไทยสดใหม่และอร่อยกว่า
จาก การที่รัฐบาลยกร่างกรอบเจรจาการค้าเสรีระหว่างประเทศไทย-สหภาพยุโรป หรืออียู โดยมีเสียงสะท้อนจากประชาชนที่มีความกังวลถึงผลกระทบหลายด้าน เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม น.ส.กรรณิกา กิจติเวชกุล ประธานคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นภาคประชาชน เอฟทีเอ ไทย-สหภาพยุโรป กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ไม่นำความคิดเห็นของภาคประชาชนเสนอให้คณะรัฐมนตรี พิจารณา ซึ่งเป็นการปกปิดข้อมูลและทำให้ตั้งข้อสงสัยว่า รัฐบาลจะลักไก่บรรจุบัญชีรายการสินค้านำเข้าที่ภาคประชาชนไม่เห็นด้วยเข้าไป อยู่ในกรอบการเจรจาเอฟทีเอ ส่งผลต่อกระทบต่อเกษตรกรไทยจำนวนมาก
น.ส.กรรณิกา กล่าวถึงกรณีนำเข้าหนังหมูจากประเทศนิวซีแลนด์มาผลิตแคบหมูเป็นอาหารยอดนิยม ของทางภาคเหนือว่า แม้ว่าจะมีการขนส่งในตู้แช่แข็ง แต่คิดว่าจะปนเปื้อนสารเคมีเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เพราะใช้ระยะเวลาขนส่งสินค้านานหลายเดือน มีการใช้สารกันเน่าในหนังหมู รวมทั้งเครื่องในสัตว์ทั้งหมูและวัว แต่ไทยไม่เข้มงวดในการตรวจสอบความ ปลอดภัยสินค้านำเข้า ส่งผลเสียต่อผู้บริโภคและน่ากังวลมาก เพราะเคยเกิดเหตุจับกุมการลักลอบนำเข้าตับหมูจากประเทศอิตาลี ซึ่งไม่รู้ว่า มีเชื้อโรคหรือไม่ จึงขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ เรื่องนี้อย่างจริงจัง
นายจิรทีปต์ วัฒน์ทวีพรหม เจ้าของร้านแคบหมูแม่แช่ม ตลาดวโรรส จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า คนไทยไม่รู้ว่าแคบหมูส่วนหนึ่งมาจากการนำเข้าจากต่างประเทศ ไม่เพียงมีแต่ประเทศนิวซีแลนด์เท่านั้น ยังมีอีกหลายประเทศในแถบ ยุโรป เช่น เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม และฝรั่งเศส เป็นต้น รวมทั้ง แคบหมู จากประเทศจีน และมาเลเซีย ซึ่งมีคุณภาพต่ำกว่ายุโรป โดยมีผู้นำเข้าหลายรายที่จังหวัดเชียงใหม่ส่งขายตามร้านแคบหมู ตนเลือกซื้อหนังหมูที่นำเข้าจากประเทศเบลเยียม และหนังหมูจากโรงชำแหละหมู ที่นครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ราคาใกล้เคียงกัน แต่เนื่องจากหมูไทยมีราคาไม่แน่นอน ส่งผลต่อราคาหนังหมูไม่นิ่งอีกด้วย ทำ ให้ผู้ผลิตแคบหมูต้องเลือกซื้อแคบหมูจากต่างประเทศ
นาย จิรทีปต์ กล่าวอีกว่า หนังหมูที่นำเข้าจากต่างประเทศส่วนใหญ่มีคุณภาพได้มาตรฐาน ทั้งขนาด น้ำหนัก บรรจุภัณฑ์เก็บรักษาและแช่แข็งอย่างดีในตู้คอนเทนเนอร์ โดยขนส่งมาทางเรือใช้เวลาตั้งแต่ 6-12 เดือน แต่มีปัญหาคือมักจะมีกลิ่นเหม็นหืน หากเทียบกับหนังหมูไทยที่สดใหม่กว่า เมื่อนำไปทอดจึงมีกลิ่นเหม็นหืนน้อยกว่า สาเหตุที่ร้านค้าแคบหมูเลือกซื้อหนังหมูนำเข้า เพราะมีขนาดใหญ่ เมื่อทอดแล้วขายได้ราคาดี กำไรสูงกว่าหนังหมูไทย
"ผู้ได้รับผลกระทบจากการค้าเสรีครั้งนี้น่าจะเป็นโรงชำแหละเนื้อหมูที่จะขาย หนังหมูไม่ได้ หรือขายได้น้อยและมีรายได้ลดลง เพราะราคาหนังหมูเมืองนอกจะทะลักเข้าเมือง ไทยในราคาถูก เพราะไม่ต้องเสียภาษี ส่วนตัวผมเห็นว่าไม่อยากให้มีสินค้าพวกหนังหมูและเครื่องในสัตว์อยู่ในกรอบ เจรจาเอฟทีเอ ผมอยากให้คนไทยกินหนังหมูของไทยมากกว่า เพราะรสชาติอร่อยกว่าหนังหมูเมืองนอก" นายจิรทีปต์ กล่าว
นายกิตติวงศ์ สมบุญธรรม เลขาธิการสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ กล่าวว่า ประเทศยุโรปไม่นิยมบริโภคหนังหมูและเครื่องในหมูจึงส่งมาขายเมืองไทย ถ้าหากมีการนำรายการสินค้าดังกล่าวไปลดภาษีนำเข้าเหลือศูนย์ ก็จะทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูได้รับผลกระทบโดยตรง เนื่องจากตับหมูนำเข้า ราคากิโลกรัมละ 28 บาท เสียภาษี 30% เมื่อนำไปวางขายในท้องตลาดมีราคากิโลกรัมละ 60 บาท แต่ถ้าลดภาษีเหลือศูนย์ก็จะทำให้มีการนำเข้าตับหมูเมืองนอกเพิ่มขึ้น ส่งผล ให้ราคาตับหมูในประเทศไทยลดลง พ่อค้าหรือเจ้าของเขียงหมูก็จะมีรายได้ลดลงก็ ต้องหันไปลดราคาหมูหน้าฟาร์ม ทำให้เกษตรกรมีรายได้ลดลงตามไปด้วย ทั้งนี้ ไม่เห็นด้วยที่จะนำเข้าเครื่องในหมู เพราะกังวลว่าจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพผู้บริโภค
http://health.kapook.com/view19837.html
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล