เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอมขอขอบคุณภาพประกอบจาก สถาบันการแพทย์แผนไทย
เจ๋ง! วิจัยพบ "กวาวเครือขาว" ใช้เป็นฮอร์โมนทดแทนให้สตรีวัยทองได้ แถมช่วยทำให้ช่องคลอดไม่แห้ง ทำให้หญิงวัยทองสามารถมีอารมณ์ทางเพศกลับมาได้อีกครั้งหนึ่ง แต่ห้ามทานติดต่อกันนานเกิน 2 ปี
นพ.วีระพล จันทร์ดียิ่ง รองคณบดีฝ่ายวิจัย คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) วิทยาเขตหาดใหญ่ ในฐานะหัวหน้าโครงการวิจัยทำการทดลองทางคลินิก (clinical trial) เพื่อให้ทราบคุณสมบัติ หรือการออกฤทธิ์ทางวิทยาศาสตร์ชีวภาพของสมุนไพรกวาวเครือขาว เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการวิจัยเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2542 ในช่วงที่คนกำลังให้ความสนใจ "กวาวเครือขาว" เนื่องจากมีการค้นพบว่า ใน "กวาวเครือขาว" มีสารเอสโตรเจนจากพืชหลายตัวที่มีคุณสมบัติคล้ายฮอร์โมนเพศหญิง
โดยนักวิจัยได้ทดลองกับอาสาสมัครหญิงวัยก่อนและหลังหมดประจำเดือน ซึ่งมีอาการหงุดหงิดง่าย ตื่นเต้นง่าย เหนื่อย ปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ ช่องคลอดแห้ง เจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์ สูญเสียความมั่นใจ ความพึงพอใจทางเพศ ปัสสาวะแสบขัด กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ฯลฯ จำนวนหลายคน โดยแบ่งการวิจัยเป็น 3 ระยะ และให้อาสาสมัครทานกวาวเครือขาวชนิดแคปซูลในขนาดต่าง ๆ กัน เพื่อศึกษาความเป็นพิษ และผลข้างเคียง รวมทั้งสรรพคุณต่าง ๆ ของ "กวาวเครือขาว"
กวาวเครือขาว
นพ.วีระพล กล่าวต่อไปว่า จากผลการวิจัยพบว่า ไม่มีความแตกต่างกันระหว่าง "กวาวเครือขาว" และฮอร์โมนทดแทนแผนปัจจุบันที่วางขายอยู่ ดัง นั้น "กวาวเครือขาว" สามารถใช้เป็นฮอร์โมนทดแทนในเพศหญิงได้ นอกจากนี้ "กวาวเครือขาว" ยังช่วยทำให้ช่องคลอดของหญิงวัยหมดประจำเดือนไม่แห้งด้วย จึงช่วยให้ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน หรือหญิงวัยทองที่ฮอร์โมนหยุดผลิตไปแล้ว มีความมั่นใจและความพึงพอใจทางเพศกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม นพ.วีระพล ทิ้งท้ายไว้ว่า ไม่ว่าจะเป็นฮอร์โมนทดแทนแผนปัจจุบัน หรือ "กวาวเครือขาว" ก็ไม่ควรรับประทานติดต่อกันนานกว่า 2 ปี เพราะฮอร์โมนเหล่านี้ หากได้รับมากเกินไป จะเป็นสาเหตุให้เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ และมะเร็งเต้านมได้เช่นกัน
http://health.kapook.com/view19599.html