ระวัง! จุมพิตมรณะ (Twenty-four seven)
เคยมีข่าววงในนินทากันให้แซดว่า สการ์เล็ต โยฮานสัน ปล่อยโรคติดเชื้อให้ จอช ฮาร์ทเนทท์ อดีตหวานใจจากการจูบ ฮาร์ทเนทท์กล่าวว่า เขามีปัญหาจากโรคติดเชื้อที่เกิดจากการแลกสารแล็กโตบาซิลัสในน้ำลาย จากอดีตแฟนสาว เชื้อไวรัสแฝงอยู่ นานจึงเริ่มแสดงอาการเจ็บคอ มีไข้ ต่อมน้ำเหลืองโต, อ่อนล้าอย่างรุนแรง, เหงื่อออกมาก,ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และมีผดผื่น การจูบทำลายสุขภาพได้จริง และนี่คือสิ่งที่คุณควรรู้
จูบ สูบสุขภาพ
Kissing Disease (โรคจูบ) มีชื่อเล่นมากมาย อาทิ Infectious Mononucleosis,Pfieffer's Disease ชื่อหลังน่าจะมาจากชื่อของหนุ่มสาวผู้ปล่อยเชื้อหรือรับเชื้อรายแรก โรคนี้เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ไวรัสมีเชื้อต้นเหตุชื่อ Ebstein-Barr Virus,Toxoplasma Gondii, Cytomegalovirus ที่กระจายตัวอยู่ในน้ำลาย เมื่อรับเชื้อโดยการจูบแลกน้ำลายภายในสามสิบวัน บางคนจะแสดงอาการไข้ ปวดเมื่อย ปวดหัว ไอ เจ็บคอต่อมน้ำเหลืองโต เจ็บท้อง ผื่นขึ้น เลือดออกตามผิวหนัง ตาบวมอักเสบ และมีผลต่อการก่อมะเร็งในช่องลำคอ ในบางกรณีโรคนี้มีอันตรายต่อม้ามทำให้ม้ามแตกได้จากการสำรวจพบว่ามีผู้ติดเชื้อ และอยู่ในภาวะเป็นพาหะแพร่เชื้อสูงทีเดียว พบมาก 11.5% ในประชากรไทย 42.2% ในประชากรญี่ปุ่น 90.7% ในประชากรอเมริกา ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่น แถมการจูบยังทำให้เกิดการติดเชื้อโรคจากน้ำลายอื่นๆตามมาอีกหลายอย่าง ที่พบบ่อยคือ เริม ซึ่งจะเป็นตุ่มน้ำเจ็บ ๆ คัน ๆ ที่ริมฝีปาก ซึ่งเป็นแล้วจะไม่หายขาด ปัจจุบันเชื่อว่าการติดเชื้อเริมที่ริมฝีปาก อาจทำให้เกิดโรคสมองเสื่อมที่เรียกว่า อัลไซเมอร์ ทำให้ความจำเสื่อม หลงลืม เชื่อที่พบตรงกันในสองผู้ป่วยคือไวรัสเริม (HSV-1)การจูบยังทำให้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ, ไข้หวัด, ไข้หวัดใหญ่, โรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน, เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากไวรัส, หูดข้าวสุก และโปลิโอโรคไวรัสตับอักเสบบี เอ และน่าจะถ่ายทอดไวรัสซีได้ด้วย ซึ่งล้วนเป็นโรคเรื้อรังเป็นแล้วไม่หายขาด มีโอกาสทำให้ตับอักเสบ ตับแข็ง ตับวาย และอาจกลายเป็นมะเร็งตับรอบคอบก่อนโรแมนซ์ เพื่อป้องกันโรคจากการจูบ และเริมที่ติดต่อทางริมฝีปาก ควรงดเว้นการจูบพร่ำเพรื่อการมีเพศสัมพันธ์สำส่อน งดการใช้เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว ตลอดจนแก้วน้ำร่วมกันเพื่อความปลอดภัยควรใช้หลอดดูด ดูดน้ำจากแก้วผู้หญิง ที่ชอบทดลองลิปสติกตามเคาน์เตอร์เครื่องสำอาง มีโอกาสติดเชื้อเริมได้ เช่นเดียวกับผู้ที่เข้าห้องน้ำสาธารณะก็มีโอกาสติดเชื้อเริมที่ก้น จึงควรใช้กระดาษปูรองนั่งการทักทายโดยการจูบแบบชาวตะวันตกนั้นเพิ่มการติดเชื้อเริมอย่างมาก การทักทายโดยการไหว้แบบไทยนับว่าปลอดภัยกว่าเมื่อ ร่างกายไม่แข็งแรง ควรหลีกเลี่ยงการจูบปาก หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ พักผ่อนหลับนอนให้พอเพียง ไม่นอนดึก เลิกสูบบุหรี่เลิกดื่มสุรา และถ้ามีอาการอ่อนเพลียยาวนาน หรือสงสัยว่าจะเป็นโรคจูบ ควรปรึกษาแพทย์ทันทีเป็นดีที่สุดhttp://health.kapook.com/view13873.html
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
