แนะใช้ผงซักฟอกแชมพูกำจัดยุง (ไทยโพสต์)
กรม วิทย์ฯ วิจัยพบใช้น้ำยาล้างจาน ผงซักฟอก และแชมพู กำจัดยุง ลดปัญหาไข้เลือดออก ชี้ที่ผ่านมายุงเริ่มดื้อสารเคมีฉีดพ่น ถ้ากำจัดได้ในบ้านช่วยลดการระบาดได้เยอะ
นางพรรณสิริ กุลนารถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ในช่วงระหว่างเดือน พ.ค.-ส.ค.เป็นช่วงเข้าสู่ฤดูฝน ซึ่งจะพบความชุกชุมของยุงลายพาหะนำโรคไข้เลือดออกและโรคชิคุนกุนยา ซึ่งการระบาดของโรครุนแรงขึ้น แม้มีการฉีดพ่นสารเคมี กำจัดลูกน้ำและยุงลายเป็นประจำ แต่ก็ประสบปัญหาไม่สามารถยับยั้งการระบาด และ หลายปีที่ผ่านมาพบว่า ยุงลายมีแนวโน้มดื้อต่อสารกำจัดแมลงเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นที่วิตกกันว่าการควบคุมยุงลายในอนาคตข้างหน้า อาจสิ้นเปลืองและเสี่ยงภัยจากการใช้สารเคมีกำจัดแมลงเพิ่มขึ้น
ล่าสุดกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้คิดกำจัดลูกน้ำยุงลายด้วยวิธีการง่าย ๆ โดยศึกษาพัฒนาการใช้สารลดแรงตึงผิว กลุ่มสารซักล้างที่ชาวบ้านมีใช้ประจำทุกครัวเรือน นำมาใช้กำจัดลูกน้ำและยุงลาย ได้แก่ ผงซักฟอก แชมพู สบู่เหลว และน้ำยางล้างจาน มาใช้กำจัดในครัวเรือนของตนเองได้ทันทีที่ถูกรบกวน โดยสารลดแรงตึงผิวนี้มีคุณสมบัติจับเปียกกระจายตัวปกคลุม และปิดกั้นทำลายระบบการหายใจของตัวแมลง ทำให้เยื่อบุรูหายใจของแมลงสูญเสียสภาพการควบคุมความสมดุลของน้ำภายในตัว แมลง และทำให้แมลงตายในที่สุด
ขณะที่นายกสิน ศุภปฐม ผู้ชำนาญการพิเศษด้านกำจัดแมลงพาหะนำโรค ฝ่ายศึกษาควบคุมแมลงโดยใช้สารเคมี สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ สธ.กล่าวว่า วิธีการกำจัดยุงลายหรือแมลงต่าง ๆ เช่น ในจานรองกระถางต้นไม้ ที่รองขาตู้กับข้าว ยางรถยนต์ กะลา หรือถ้วยพลาสติก ให้ใช้ผงซักฟอก 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 2 ลิตร
อีกวิธีคือใช้ผงซักฟอก 1 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำ 1 ลิตร แต่ค่อย ๆ คนอย่าให้เป็นฟอง ฉีดบริเวณยุงอยู่เป็นกลุ่มตามบ้านก็จะฆ่ายุงได้เช่นกัน แต่บางคนอาจจะไม่ชอบ เพราะละอองจากผงซักฟอกอาจทำให้แสบตา
ส่วน แชมพู น้ำยาล้างจาน หรือสบู่เหลว เหมาะกับการนำมาผสมน้ำคือ 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 1 ลิตร คนอย่าให้เป็นฟองจากนั้นนำไปใส่ที่ฉีดรีดผ้า ฉีดยุงให้เปียก ก็จะทำให้ยุงตาย ทั้งนี้เป็นเพราะส่วนล่างลำตัวของยุง หรือแมลงที่เป็นปล้อง ๆ จะมีรูหายใจปล้องละ 1 คู่ สารลดแรงตึงผิวจะไปอุดกั้นรูหายใจบริเวณท้อง ทำให้ขาดใจตาย โดยถ้าเป็นยุงหรือแมลงตัวเล็กจะตายใน 10-20 วินาที แต่ถ้าตัวใหญ่อย่างแมลงสาบอาจใช้เวลานานขึ้น
http://health.kapook.com/view14737.html
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
