รพ.จุฬาฯ เจ๋งใช้หุ่นยนต์จัดหลอดเลือด (ไทยโพสต์)
"รพ.จุฬาฯ" เจ๋ง ผลิตหุ่นยนต์จัดเตรียมหลอดเลือดแทนคนรายแรกของไทย ใช้งบแค่ 4 ล้าน ถูกกว่า รพ.เอกชนนำเข้าราคา 15 ล้าน ผอ.รพ.จุฬาฯ ชี้ ลดเวลารอคิว แม่นยำสูง
ศ.นพ.อดิศร ภัทราดูลย์ ผอ.รพ.จุฬาลงกรณ์ พร้อมด้วย ศ.นพ.เทวารักษ์ วีระวัฒกานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฯ งานสนับสนุนบริการผู้ป่วย ร่วมแถลงข่าวนวัตกรรมไทยประดิษฐ์ "หุ่นยนต์จัดเตรียมหลอดเลือดอัตโนมัติ" เครื่องแรกของประเทศไทย
โดย ศ.นพ.อดิศรกล่าวว่า ขณะนี้ รพ.จุฬาฯ ได้ยกระดับการให้บริการของห้องปฏิบัติการกลาง บริเวณชั้น 4 ของอาคาร ภปร. ด้วยการนำหุ่นยนต์จัดเตรียมหลอดเลือดอัตโนมัติ มาใช้แทนบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อ ร่นระยะเวลาการบริการให้สะดวกรวดเร็วขึ้น ที่จากเดิมคนไข้ต้องใช้เวลาตั้งแต่การลงทะเบียน จนเสร็จสิ้นขั้นตอนการเจาะเลือดและรอฟังผล คนละไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง ทำให้เกิดความแออัดของพื้นที่ให้บริการคนไข้ต้องรอคิวนาน เป็นภาพเหมือนเข้าคิวรับของฟรี
แต่หุ่นยนต์จัดเตรียมหลอดเลือดอัตโนมัติ หรือ Rabelon 1 สามารถใช้เวลาในการเตรียมหลอดเลือด 1,440 หลอด ต่อ 1 ชั่วโมง ทำให้ปัจจุบันคนไข้ที่มาเจาะเลือดกับ รพ.จุฬาฯ ใช้เวลาจนเสร็จสิ้นกระบวนการเพียงคนละ 20 นาทีเท่านั้น
นอกจากหุ่นยนต์จะช่วยร่นเวลาการให้บริการแล้ว ยังมีความแม่นยำสูง ด้วยระบบสั่งการคอมพิวเตอร์ที่รับข้อมูลจากการลงทะเบียนของคนไข้ มาสั่งการมือกลไกหยิบหลอดเลือดแยกตามสีหลอดที่คนไข้ต้องเจาะเลือด ติดบาร์โค้ดที่หลอดเลือดด้วยความร้อน จากนั้นส่งหลอดเลือดใส่กล่องพลาสติกที่ลำเลียงด้วยระบบสายพาน ส่งไปรอคนไข้ที่เคาน์เตอร์ ซึ่งมีอยู่ 8 ช่อง โดยเจ้าหน้าที่เทคนิคการแพทย์และพยาบาลที่เจาะเลือด จะนำหลอดเลือดสแกนบาร์โค้ดเพื่อให้ข้อมูลของคนไข้แสดงบนจอสัมผัส (touch screen) ก่อนเจาะเลือดของคนไข้เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง ป้องกันการติดบาร์โค้ดสลับคน ซึ่งถือว่าเป็นความผิดพลาดอย่างมากที่เคยเกิดขึ้น ทำให้ต้องเจาะเลือดคนไข้ใหม่ ทำให้เสียเวลาและความรู้สึกมาก โดยตั้งแต่ใช้หุ่นยนต์ดังกล่าวตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นมา ยังไม่พบความผิดพลาดแต่อย่างใด
ทั้ง นี้ หุ่นยนต์ดังกล่าวเป็นความร่วมมือการผลิตโดย รพ.จุฬาฯ กับเซนนิเมต (ประเทศไทย) จำกัด ด้วยการสนับสนุนของสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ มีต้นทุนการผลิตอยู่ที่ 4 ล้านบาท แต่เครื่องที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีใช้ใน รพ.เอกชนมีราคาอยู่ที่เครื่องละ 15 ล้านบาท เลือดที่ส่งมาตรวจจากภายนอกไม่ได้เข้าระบบเดียวกันนี้
http://health.kapook.com/view14943.html
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์