คนไทย ใช้ยาปฏิชีวนะ อันดับ 1 (ไทยโพสต์)
พบคนไทยใช้ยาปฏิชีวนะสูงอันดับ 1 สัดส่วน 18-20% ของมูลค่ายาที่นำเข้าและผลิตทั้งประเทศ ขณะที่พบ 3 โรค เจ็บคอ ท้องเสีย เป็นแผล ไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะรักษาก็หายได้ "เภสัชกร อย." ชี้ส่งผลให้เกิด "เชื้อดื้อยา" แถมถ่ายทอดสู่คนอื่นได้
ภญ.นิธิมา สุ่มประดิษฐ์ สำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ และเภสัชกรชำนาญการ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ใน จ.สระบุรี ไปอบรมแบบลงพื้นที่สัญจรตามโรงพยาบาลชุมชนในอำเภอต่างๆ 10 แห่ง และสถานี อนามัยในสังกัดของโรงพยาบาล รวม 87 แห่ง ในโครงการเพื่อลดการสั่งใช้ยา ปฏิชีวนะที่ไม่จำเป็นต้องใช้ในโรคเป้าหมาย 3 โรค คือ โรคติดเชื้อทางเดินหายในส่วนบน เช่น หวัดเจ็บคอ โรคท้องร่วง เฉียบพลัน และแผลเล็กน้อย พบว่าคนไข้ประมาณ 2,000 คน หายจากอาการป่วยใน 3 โรคภายใน 1 สัปดาห์ โดยไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะถึงร้อยละ 96-99 ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ที่เข้าร่วมการอบรมเชื่อมั่นในการไม่ใช่ยาปฏิชีวนะ รักษาอาการป่วยเล็กน้อยเพิ่มมากขึ้น ร้อยละ 80-90
ภญ.นิธิมากล่าวว่า สำหรับข้อมูลการใช้ยาปฏิชีวนะซึ่งเป็นยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียของประเทศไทยใน ปัจจุบัน มีการใช้ยาปฏิชีวนะสูงถึงร้อยละ 18-20 ของมูลค่านำเข้า และการผลิตยาทั้งประเทศ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมาก แสดงให้เห็นว่าคนไทยใช้ยาปฏิชีวนะสูงมากเป็นอันดับ 1 ของประเทศ ทั้งที่บางโรคไม่มีความจำเป็นต้องใช้ เช่น โรคหวัด ยาปฏิชีวนะที่ฆ่าเชื้อแบคทีเรียไม่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสที่ทำให้เป็นหวัด ได้ ส่วนโรคท้องร่วงก็เพียงให้พิษจากอาหารที่รับประทานเข้าไปออกจากร่างกาย คนไข้ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะ เช่นเดียวกับการเป็นแผลเล็กๆ น้อยๆ และยาปฏิชีวนะทำให้อาการข้างเคียงสูงถึงร้อยละ 54 เสี่ยงต่อการแพ้ยา ผิวหนังลอก
"อาการไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากการใช้ยาปฏิชีวนะ คือ เชื้อดื้อยา ซึ่งเชื้อดื้อยาสามารถถ่ายทอดสู่คนอื่นได้ โดยเฉพาะคนในครอบครัวที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้สูงอายุ เด็ก แต่ที่ยังมีการใช้ยาปฏิชีวนะอยู่มาก เนื่องจากยังขาดความรู้ความเข้าใจที่ ถูกต้อง หรือมีความกังวลเมื่อเป็นโรคอะไรก็ควรกินยาปฏิชีวนะ ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด และถ้าไม่หยุดการใช้ยาปฏิชีวนะจะไม่เหลือยาให้ใช้ เพราะเชื้อโรคจะดื้อยาไปหมด" เภสัชกรชำนาญการ อย.ระบุ
http://health.kapook.com/view16553.html
ขอขอบคุณข้อมูลจาก