เอดส์ไทยไม่ลด "เกย์-ตุ๊ด" 1 ใน 3 (ไทยโพสต์)
ศูนย์ วิจัยเอดส์เผยสถานการณ์เอดส์ไทยในช่วง 6-7 ปีไม่ลด กลุ่มชายรักชายเสี่ยงติดเอดส์สูงถึง 1 ใน 3 เผยวิธีตรวจใหม่ "แน็ท" รู้ผลการติดเชื้อระยะเฉียบพลันได้
ที่ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย จัดเสวนาเรื่อง "ผู้ติดเชื้อในระยะเฉียบพลัน กับแนวทางการดูแลสุขภาพเชิงรุก" ศ.กิตติคุณ นพ.ประพันธ์ ภานุภาค ผอ.ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า ปัจจุบันไทยมีผู้ติดเชื้อเอดส์ราว 500,000 ราย ซึ่งเป็นจำนวนที่ไม่ลดลงเลยในช่วง 6-7 ปี
ขณะ ที่สถานการณ์ติดเชื้อเอชไอวี (HIV) ในกลุ่มชายรักชาย ที่มาตรวจที่คลินิกสุขภาพชายของศูนย์วิจัยโรคเอดส์ ตั้งแต่เดือน ม.ค. 2552-มิ.ย. 2553 มีอัตราการติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึง 868 คน หรือ 1 ใน 3 ของเพศชายที่เข้ามาตรวจติดเชื้อเอชไอวี ร้อยละ 12
นอกจากนี้ยังพบว่า หญิงซึ่งแต่งงานแล้วติดเชื้อเอชไอวีมากกว่าหญิงโสด แต่ที่น่าสนใจพบหญิงให้บริการ ซึ่งเป็นตัวกลางในการรับเชื้อและแพร่กระจาย มีตัวเลขการติดเชื้อเอชไอวีเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งพบผู้ติดเชื้อมีอายุน้อยลง เนื่องจากขาดการรณรงค์
"การมีเพศสัมพันธ์ของชายรักชายจะมีความเสี่ยงสูงกว่าชายรักหญิง เพราะชายรักชายจะใช้ช่องทวารหนักที่มีความเปราะบาง เสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีมากกว่าช่องคลอดเพศหญิง และถ้าหากชายรักชายมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน จะมีโอกาสติดเชื้อเอชไอวีจากคู่สูงถึงร้อยละ 30"
รศ.พญ.จินตนาถ อนันต์วรณิชย์ หัวหน้าหน่วยความร่วมมือ เพื่อการวิจัยระหว่างภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และฮาวาย (SEARCH) กล่าวว่า การหยุดการแพร่กระจายของเชื้อที่ ดีที่สุดคือ ตรวจหาเชื้อให้เร็วที่สุด โดยศูนย์วิจัยโรคเอดส์ได้นำวิธีการตรวจแน็ท (NAT) ซึ่งเป็นวิธีการตรวจหาตัวเชื้อเอชไอวีโดยตรง จากพันธุกรรมสามารถตรวจเจอเชื้อ หลังมีพฤติกรรมเสี่ยงตั้งแต่ 5 วันขึ้นไป ซึ่งการตรวจเชื้อเอชไอวีวิธีเดิม เป็นการตรวจแอนติบอดี้ ต้องใช้เวลา 2 สัปดาห์ กว่าจะทราบผล และบางรายตรวจหาเชื้อยังไม่พบ แต่เมื่อใช้วิธีแบบแน็ท สามารถตรวจใน 16,000 ราย ที่ไม่พบเชื้อเจอถึง 40 ราย ซึ่งช่วยป้องกันการแพร่กระจายเชื้อได้ 1 ต่อ 5 หรือ 200 คน
"การตรวจในระยะเฉียบพลันหากพบเชื้อเร็ว จะสามารถดูแลสุขภาพได้ในระยะเริ่มต้น แต่หากไม่พบเชื้อในระยะเฉียบพลัน ผู้ป่วยจะมีอาการเหมือนเป็นไข้ แต่ไม่มีน้ำมูก หรือเจ็บคอ ซึ่งประมาณ 6 สัปดาห์จะหาย และไม่มีอาการอีก 6 ปี แต่หลังจากนั้น ภูมิคุ้มกันของผู้ได้รับเชื้อเอชไอวีจะลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว และเข้าสู่การเป็นโรคเอดส์ในระยะเรื้อรัง"
ขอขอบคุณข้อมูลจาก