| บรรยากาศภายในห้องอาหารชามไทย รร. ฮอลิเดย์ อินน์ กรุงเทพฯ |
| | เข้าสู่หน้าร้อนอย่างนี้ บรรดาของกินที่ช่วยคลายร้อนต่างพากันขายดิบขายดีกันเป็นแถว ไม่ว่าจะเป็นไอศกรีม หรือบรรดาน้ำแข็งใสเย็นๆ ที่ถือว่าเป็นของกินคู่หน้าร้อนในสมัยนี้ |
ทว่าหากมองย้อนกลับไปสมัยก่อน ที่ยังไม่มีไอศกรีมหรือน้ำแข็งใสขายกัน ของกินคู่หน้าร้อนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเห็นจะเป็น “ข้าวแช่” เมนูแห่งภูมิปัญญาไทยที่นำเอาข้าวมาแช่ในน้ำเย็น ลอยดอกไม้หอมๆ กินกับเครื่องเคียงสารพัดอย่าง ให้อิ่มกายสบายใจกันไป ด้วยเหตุนี้ในมื้อนี้ที่อากาศรอบตัวร้อนระยับ "ผู้จัดการตระเวนกิน" จึงออกไปตระเวนหา "ข้าวแช่" กินแก้ร้อนให้สมใจอยากที่ "ห้องอาหารชามไทย" โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ กรุงเทพฯ ที่ได้จัดโปรโมชั่นพิเศษนำเมนูข้าวแช่ตำรับโบราณมาให้ได้ลองลิ้มรสชาติกัน สำหรับเมนูข้าวแช่ของที่นี่เสิร์ฟมาแบบเป็นชุด (ชุดละ 250 บาท) ภายในชุดประกอบไปด้วย ข้าวแช่ในน้ำลอยดอกไม้หอมๆ ที่ผ่านกระบวนการทำอย่างพิถีพิถัน โดยใช้ข้าวเก่านำมาแช่ค้างคืนในหม้อดิน1คืนและหุงพอสุก และก็มีน้ำลอยดอกไม้อย่าง มะลิหรือชมนาด พร้อมกับอบด้วยควันเทียนให้มีกลิ่นหอม และก็ใส่น้ำแข็งช่วยเพิ่มความเย็นมาด้วยอีกต่างหาก |
| ข้าวเม็ดสวยในน้ำลอยดอกไม้ |
| | ส่วนเครื่องเคียงที่กินคู่กับข้าวแช่ ก็มี พริกหยวกยัดไส้ เป็นพริกหยวกที่ยัดไส้กุ้งไว้ข้างในนึ่งจนสุก และห่อด้วยไข่ชุบแป้งทอดอีกที หอมแดงยัดไส้ เป็นหอมแดงที่ข้างในยัดไส้หมูหยอง (ซึ่งมีการประยุกต์นิดหน่อย) และชุบแป้งทอดกรอบ หัวไชโป้หวานผัด เป็นการนำเอาหัวไชโป้มาหั่นเป็นเส้นฝอยๆ คุลกเคล้ากับเครื่องปรุงและผัดจนได้ที่ เนื้อหรือหมูหวานหั่นฝอย เป็นเนื้อวัวหรือเนื้อหมูที่หั่นเป็นชิ้นฝอยๆ และนำมาผัดกับเครื่อง และสุดท้ายเป็นลูกกะปิผัด ที่นำเอากะปิอย่างดีมาผสมกับเครื่องเทศอย่างตะไคร้ กระชาย และนำมาย่างจนหอมเพื่อดับกลิ่น แล้วจึงนำมาชุบแป้งทอดอีกที |
| สารพัดเครื่องเคียงกินกับข้าวแช่ |
| | | นอกจากเครื่องเคียงที่กินคู่กับข้าวแช่เหล่านี้แล้ว ก็ยังมีสารพัดผักที่เอาไว้กินแกล้มกับข้าวแช่ อย่าง กระชาย พริกชี้ฟ้าแดง แตงกวา ต้นหอม และผลไม้อย่างมะม่วงเขียวเสวยแบบดิบ สำหรับการกินข้าวแช่ให้อร่อยนั้น มีเคล็ด (ไม่) ลับอยู่ตรงที่ว่า อย่าตักกับเครื่องเคียงใส่ลงไปในข้าวแช่เด็ดขาด เพราะจะทำให้ไขมันจากเครื่องเคียงนั้นลอยเป็นฝ้าอยู่ในข้าวแช่ ทำให้ดูไม่น่ากิน ฉะนั้นการกินข้าวแช่ให้ถูกวิธีและเอร็ดอร่อยต้องกินแบบตักเครื่องเคียง เคี้ยวอยู่ในปาก แล้วจึงค่อยตักข้าวแช่พร้อมกับน้ำลอยดอกไม้ส่งเข้าปากตามไป แล้วจะสัมผัสได้ถึงความหอมของน้ำลอยดอกไม้ที่เตะอยู่ปลายจมูก และความกลมกล่อมลงตัวของข้าวแช่เย็นๆ เคี้ยวกร้วมรวมกับเครื่องเคียงแต่ละชนิดที่ออกรสหวานๆ ส่งให้ได้รสชาติที่ หวาน หอม เย็นชุ่มชื่นใจ กินแล้วคลายร้อนได้ดีนักเชียว และไม่ใช่แต่ข้าวแช่ที่เป็นเมนูพิเศษนี้เท่านั้น ที่ห้องอาหารชามไทย ยังมีเมนูอาหารไทยอีกหลายเมนูให้เลือกลิ้มชิมรส อาทิ ก๋วยเตี๋ยวท่านผู้หญิง (100บาท) ทอดมันกุ้ง (220บาท) ต้มยำกุ้ง (210บาท) ปอเปี๊ยะญวน (210บาท) ไก่ห่อใบเตย (180บาท) และอีกสารพัดเมนู |
หากว่ามิตรรักนักกินท่านใดเกิดอยากนึกกินอาหารคลายร้อนอย่าง "ผู้จัดการตระเวนกิน" ขึ้นมาบ้าง ก็ลองแวะมาลองลิ้มเมนูข้าวแช่ที่ห้องอาหารชามไทยแห่งนี้ดูก็เข้าท่าเข้าทีดีไม่น้อย เพราะนานๆ ทีจะมีให้ลองลิ้มกันสักครั้ง |