| บรรยากาศโต๊ะนั่งด้านนอก กินข้าวเคล้าสายลมเย็นๆ |
| | "ผู้จัดการตระเวนกิน" เองถึงแม้ว่าจะออกตระเวนกินไป ร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ ได้ลิ้มลองรสอาหารนานาชนิด จากสารพัดชาติ ทั้งจีน ญี่ปุ่น เกาหลี ยุโรป และอีกมากมาย แต่ถึงกระนั้นเราก็ยังชื่นชอบอาหารไทยเป็นที่สุด เพราะความที่อาหารไทยนั้นมีรสชาติที่จัดจ้าน กลมกล่อมถูกปาก และก็มีเมนูมากมายทั้ง แกง ผัด ยำ ทอดสารพัดอย่างให้เลือกกิน และที่สำคัญตัวเรานั้นคือคนไทยทั้งแท่ง |
ในมื้อนี้"ผู้จัดการตระเวนกิน" จึงขอออกไปตระเวนกินอาหารไทยที่เราชื่นชอบที่ร้าน"สายลม สายน้ำ"ซึ่ง เป็นร้านอาหารในบรรยากาศธรรมชาติชานเมืองที่ชวนนั่ง ทางร้านจัดร้านสไตล์บ้านที่แอบอิงเข้ากับธรรมชาติ มีโซนโต๊ะนั่งริมระเบียงด้านนอกให้นั่งกินข้าวสัมผัสกับสายลมเย็นๆ ชมวิวทุ่งนากว้างๆ และก็ยังมีโซนห้องคาราโอเกะไว้รองรับผู้ที่ชื่นชอบกินข้าวเคล้าไปกับการที่ ได้อวดเสียงใสๆ ไปกับบทเพลง คราวนี้มาถึงอาหารที่เชื้อเชิญให้เราต้องมาลองลิ้มความอร่อยกันใน มื้อนี้ ซึ่งเมนูอาหารของที่นี่ออกแนวอาหารไทยๆพื้นบ้าน ที่บางเมนูหากินยาก แต่ที่นี่กลับมีให้ลิ้มลอง เอาเป็นว่าอย่าให้เสียเวลาขอเมนูมาเปิดสั่งอาหารกันดีกว่า ว่าแล้วก็สั่งเมนูเด็ดของร้านนี้มากินกันดีกว่า เริ่มจาก ยำผักกูด (90 บาท) ทางร้านเลือกสั่งผักกูดมาเป็นพิเศษจากยะลา เพราะจะได้ผักกูดที่เขียวสดและก้านอวบ เมื่อนำมายำคลุกเคล้ากับมะพร้าวคั่วและกุ้งสด พร้อมกับมีพริกขี้หนู ใบสะระแหน่ หอมซอย และราดด้วยน้ำยำที่เป็นน้ำกะทิเข้มข้นปรุงรส เวลากินก็คลุกเคล้าเครื่องทั้งหมดให้เข้ากันกับน้ำยำ แล้วก็ส่งเข้าปากเคี้ยวผักกูดก้านอวบกรุบกรอบได้รสชาติหอมหวาน มันๆของน้ำกะทิและมะพร้าวคั่ว แถมยังมีไข่ต้มให้กินแกล้มเข้ากันอีก |
| ไก่สายลม |
| | ต่อด้วย ไก่สายลม (100 บาท) เป็นไก่ที่ปรุงรสด้วยซอสสูตรเฉพาะของทางร้าน ทอดจนหนังกรอบ เสิร์ฟมาพร้อมกับหมี่ขาวทอดกรอบ ไก่สายลมเมนูนี้เด็ดตรงที่หอมกลิ่นซอส เคี้ยวแล้วหนังกรอบ ไก่แห้งเนื้อนิ่มออกรสหวาน เค็มๆ ของซอสที่ซึมถึงเนื้อในไก่ กินแกล้มกับหมี่ขาวทอดกรุบกรอบเข้ากันดี |
| กะพงสายน้ำ |
| | ตามมาที่เมนูปลาที่ถ้าชอบกินปลาต้องไม่พลาดสั่ง กะพงสายน้ำ (150 บาท) เนื้อปลากะพงขาวๆแร่เป็นชิ้นบางๆ ห่อม้วนกับไส้กุ้งสับ แล้วก็นึ่งพร้อมกับน้ำซีอิ้วปรุงรสและเห็ดหอม จนสุกได้ที่ก็ตักน้ำซีอิ้วราดหน้าอีกที เสิร์ฟมาร้อนๆ ลิ้มรสชาติน้ำซีอิ้วหอมหวาน ปลาเนื้อหวานไม่คาว เคี้ยวแน่นเด้งไส้กุ้งที่อยู่ข้างใน หรือจะเพิ่มรสชาติเผ็ดจัดจ้านจิ้มปลากินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด |
ปิดท้ายด้วยเมนูพื้นบ้านที่หากินยากอีกหนึ่งเมนู แกงคั่วหอยขม (90 บาท) ทางร้านนำหอยขมมาแกะเปลือกเอาแต่เนื้อหอยข้างในมาล้างจนสะอาด นำมาแกงกับเครื่องแกงที่ทางร้านโขลกเองและใส่ยอดมะพร้าวกับยอดชะอม จนได้แกงคั่วหอยขมที่กินง่าย ตักคลุกกินกับข้าวสวยร้อนๆ ได้รสชาติเข้มข้นเครื่องแกง เผ็ดกลมกล่อม ส่วนหอยขมเคี้ยวกรุบไม่ขม มันปากโดนใจ นอกจากเมนูเด็ดเหล่านี้ที่"ผู้จัดการตระเวนกิน"ได้สั่งมาลองลิ้มชิมรสแล้วว่าเด็ดโดนใจปากจริงๆ ก็ยังมีเมนูอื่นๆ ที่ทางร้านแนะนำมาว่ารสเด็ดไม่แพ้กัน อาทิ แกงป่าปลาคัง (120 บาท) หลนปูเค็ม (80 บาท) ผัดเผ็ดหมูป่า (100 บาท) ทอดมันปลากราย (90,120 บาท) ห่อหมกทะเล (150 บาท) แกงส้มชะอมกุ้ง (120 บาท) เห็นทีว่าคราวหน้าฟ้าใหม่ "ผู้จัดการตระเวนกิน" คงต้องหิ้วกระเพาะกลับมาลองลิ้มเมนูเด็ดๆ ที่ว่านี้อีก ซึ่งหากมิตรรักนักกินท่านใดอยากมาลิ้มลองรสชาติอาหารไทยให้รู้กับปากของตัว เองกันบ้าง ก็พากันมาได้ที่ร้าน “สายลม สายน้ำ” แห่งนี้ ซึ่งทางร้านเขายินดีต้อนรับนักชิมที่รักการกินทุกท่านอยู่เสมอ |