อิ่มเอมเคล้าเสียงเพลง ที่ “หลังคาแดง”

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 พฤษภาคม 2548 14:23 น.
บรรยากาศร้าน “หลังคาแดง” โต๊ะเก้าอี้สีสันสดใสชวนนั่ง
       ซอยโชคชัย 4 ชื่อนี้เป็นหนึ่งในซอยที่มีของกินมากมาย ตั้งแต่ปากซอย ไปจนถึงท้ายซอย แล้วอย่างนี้มีหรือคนชอบกินอย่าง “ผู้จัดการตระเวนกิน” จะไม่แวะเวียนไป
      
       อย่างมื้อนี้ที่นึกอยากจะหาร้านอาหารนั่ง ที่มีบรรยากาศสบายๆ นั่งรับลมเย็นๆ มีเพลงเพราะๆ ให้ฟังและที่สำคัญมีอาหารรสชาติเด็ดๆ ให้หม่ำ จึงทำให้เราดั้นด้นมาที่โชคชัย 4 มาเสาะหาร้านอาหารอย่างที่ว่ากัน
สุเมธเล่นดนตรีขับกล่อมเสียงเพลงให้ฟังกันสดๆ
       แล้วก็มาเจอะเข้ากับร้านอาหารร้านหนึ่ง ที่สะดุดตาตั้งแต่ชื่อร้านแล้วว่า “หลังคาแดง” แถมด้วยบรรยากาศร้านเป็นแบบที่อยากได้ โต๊ะเก้าอี้ไม้สีสันสดใสแลดูนั่งสบาย แถมอยู่ภายใต้บรรยากาศแมกไม้รับลมเย็นๆ และก็มีนักดนตรีกำลังเล่นเพลงเพราะๆ ให้ฟังด้วย โดนใจขนาดนี้เราเลยไม่รอช้ารีบปรี่เข้าร้านหาที่นั่งทันที
      
       เราเลือกที่นั่งมุมเหมาะที่ฟังเพลงได้ชัดๆ และเห็นหน้านักร้องด้วย เพราะว่านักร้องที่นี่ร้องเพลงเพราะจนอยากจะเห็นหน้า ครั้นพอได้เห็นหน้าเท่านั้นล่ะ ถึงกับตาโต เพราะว่าเป็นสุเมธ (ที่เป็นนักร้องดูโอชื่อดังกับปั๋งนั่นเอง) และเราก็ได้พูดคุยกับสุเมธว่าเหตุใดจึงมาร้องเพลงที่นี่ได้
      
       หลังจากพูดคุยกันก็ได้รับคำตอบที่ว่า เป็นร้านที่สุเมธร่วมหุ้นกับเพื่อนๆ เปิดเป็นร้านอาหารสไตล์ผับแอนด์เรสเทอรองต์ ขายอาหารที่เน้นเป็นอาหารไทยๆ มากมายหลากหลายรสชาติ รวมทั้งมีนักดนตรีเล่นเพลงสไตล์โฟค์ซองเล่นให้ฟังสดๆ ทุกวัน วันละ 2 ช่วงเวลา คือ 20.00-22.00 น. และ 22.30-24.00 น. (แต่ว่าสุเมธไม่ได้เข้ามาร้องทุกวัน แล้วแต่บางโอกาสเท่านั้น)
ยำตะไคร้หอม
       พอเสียงเพลงบรรเลงขึ้นอีกครั้ง เราก็เริ่มบรรเลงการกินตามทันที ด้วยการขอเมนูมาเปิดสั่งอาหาร โดยมีทางร้านช่วยแนะนำเมนูเด็ดให้สั่งมาลองลิ้มกัน เมนูแรกที่ถูกเสิร์ฟมาเป็น ยำตะไคร้หอม (80 บาท) ที่นำเอาเครื่องสมุนไพรไทยอย่างตะไคร้สดมาซอย คลุกเคล้ายำเข้ากับกุ้งและหมูสับ พร้อมกับน้ำยำที่ใส่หอมแดง ต้นหอม พริกขี้หนูซอย แถมโรยด้วยเม็ดมะม่วงทอดกับกุ้งแห้งทอด ตักยำส่งเข้าปากลิ้มรสชาติตะไคร้ที่หอมเข้ากับน้ำยำออกเปรี้ยว เค็ม เผ็ด กินเป็นกับแกล้มคู่กับเบียร์เย็นๆ เข้าดีนัก
7 ประจัญบาน
       ตามมาด้วย 7 ประจัญบาน (120 บาท) ชื่อเก๋ไก๋หน้าตาชวนหม่ำ เป็นกุ้งกุลาดำตัวกำลังพอดีที่คลุกเคล้ากับงาขาวและเครื่องปรุง คลุกแป้งนิดหน่อย ก่อนจะนำมาทอดจนเหลืองกรอบ ส่งกุ้งเข้าปากเคี้ยวได้ทั้งตัว กุ้งกรอบกรุบออกรสเค็มๆ มันๆ
      
       สันคอหมูพริกไทยดำ (80 บาท) เป็นสันคอหมูที่ติดมันนิดหน่อยหั่นสไลด์ หมักกับเครื่องปรุงทิ้งไว้กว่า 1 ชม. ก่อนจะนำมาผัดกับเครื่องพริกไทยดำ ใส่พริกชี้ฟ้าแดง หอมใหญ่ ก้านต้นหอม และใส่เหล้าจีนกับน้ำมันงาเพิ่มความหอม ทำให้ได้รสชาติที่กลมกล่อมถึงเครื่องพริกไทยดำ หมูนิ่มเคี้ยวนุ่ม แถมหอมกลิ่นเหล้าจีนและน้ำมันงาอ่อนๆ ด้วย
      
       ส่งท้ายด้วย ปลากะพงโบราณ (180 บาท) ปลากะพงขาวสดๆ ที่ทอดจนกรอบ แล้วราดด้วยเครื่องน้ำยำสูตรเด็ดของทางร้าน เต็มไปด้วยเครื่องสมุนไพร ทั้งตะไคร้ หอมแดง ขิงสด พริกขี้หนู มะนาวหั่น ปรุงรสชาติใส่น้ำพริกเผาด้วย รสชาติเด็ดตรงที่ปลากะพงสดทอดกรอบเนื้อจะหวาน และเครื่องน้ำยำออกรสจัดจ้าน เผ็ดลิ้นกำลังดี
ปลากะพงโบราณ
       นอกจาก 4 เมนูเด็ดที่เราได้สั่งมาชิมลิ้มรสชาติแล้วนั้น ขอบอกว่ายังมีเมนูอื่นๆ ที่น่าลิ้มลองอีกหลายอย่าง อาทิ ลาบหมูทอด (70 บาท) แกงส้มชะอมกุ้ง (ถ้วยละ 90 บาท หม้อไฟ 150 บาท) ลาบปลาดุก (70 บาท) ปลาช่อนล่องซุง (170 บาท) ยำหอยดอง (70 บาท)
      
       “ผู้จัดการตระเวนกิน” บอกได้เลยว่า การมาตระเวนกินที่ร้าน “หลังคาแดง” ในมื้อนี้ ช่างเป็นมื้อแห่งความอิ่มเอมเสียจริงๆ อิ่มทั้งอาหารที่รสชาติถูกปากและอิ่มเอิบกับเสียงเพลงเพราะๆ โดนใจ เห็นทีว่าคงจะต้องแวะเวียนมาที่ “หลังคาแดง” นี้บ่อยๆ เสียแล้วสิเรา