แต่ถ้า "ผู้จัดการตระเวนกิน" แล้วมักนึกจระเข้ในแง่ที่เกี่ยวกับเรื่องกินๆ ใกล้ตัว อย่าง "เมนูเนื้อจระเข้" เสียมากกว่า | |||||
เนื้อจระเข้นั้นมีคุณค่าทางโภชนาการ มีโปรตีนสูง แต่ไขมันต่ำ และมีรสชาติดีคล้ายกับเนื้อหมูปนเนื้อไก่ ซึ่งบ้านเราก็นิยมกินเนื้อจระเข้เหมือนกัน โดยการนำเอาเนื้อจระเข้สด มาประกอบในการปรุงอาหารเหมือนกับเนื้อหมู เนื้อไก่ หรือเนื้อวัว ไม่ว่าจะเป็น ผัด ทอด ย่าง ตุ๋น หรือทำน้ำซุป ทำได้สารพัดเมนู | |||||
คุณส่วน บอกกับเราว่าที่นี่มีเมนูเนื้อจระเข้บริการให้กับนักกินมานานแล้ว มีมาตั้งแต่สมัยเปิดฟาร์มเลยก็ว่าได้ ซึ่งที่นี่จะคัดสรรเนื้อจระเข้อย่างดีนำมาปรุง โดยเฉพาะเนื้อตรงส่วนบริเวณโคนหางที่เรียกว่า "บ้องตัน" เพราะเนื้อมันจะเด้ง มีความมันและความเหนียว จัดว่าอร่อยที่สุดกว่าเนื้อส่วนอื่นๆ นำมาปรุงเป็นเมนูเด็ดๆ ได้หลากหลายอย่าง ว่าแล้วคุณส่วนก็จัดแจงสั่งเมนูเนื้อจระเข้มาให้เราได้ลิ้มลองรสชาติกัน เมนูแรกที่เสิร์ฟมาอุ่นเครื่องเป็น จระเข้แดดเดียว (300 บาท) หน้าตาเหมือนหมูแดดเดียวไม่ผิดเพี้ยน ส่วนรสชาติก็ไม่ทิ้งกัน ถ้าไม่บอกว่าเป็นเนื้อจระเข้ก็ไม่รู้หรอก เพราะเนื้อนั้นเคี้ยวนุ่ม เหนียวหนึบกำลังดี และได้รสชาติเครื่องหมักกระเทียมพริกไทยที่ซึมถึงเนื้อใน แม้กินเปล่าๆ โดยไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มก็เด็ดแล้ว | |||||
เลยต้องรีบเสิร์ฟ ผัดเผ็ดจระเข้ (500 บาท) มาทันที เมนูนี้กินกับข้าวสวยร้อนๆ สุดยอดความเอร็ดอร่อย เนื้อจระเข้ผัดกับเครื่องแกงเผ็ดใส่พริกไทยอ่อนและมะเขือพวง โรยหน้าด้วยใบกระเพราทอดกรอบอีกที ตักคลุกกินกับข้าวสวยร้อนๆ รสชาติเด็ดดวง เนื้อจระเข้เหนียวนุ่มเผ็ดจัดจ้านเข้ากับเครื่องแกง | |||||
ทว่าคุณส่วนบอกว่าเนื้อจระเข้ยังเอาไปทำเมนูอื่นๆ ได้อีก อาทิ สเต็กจระเข้ (500 บาท) จระเข้ทรงเครื่อง (500 บาท) ไข่เจียวจระเข้ (200 บาท) ไข่เจียวจระเข้สับ(500 บาท) บาร์บีคิวจระเข้ (500 บาท) แต่เห็นทีว่ามื้อนี้ "ผู้จัดการตระเวนกิน" คงต้องขออิ่มท้องกับเมนูเนื้อจระเข้แต่เพียงเท่านี้ ส่วนถ้าใครสนใจอยากจะลิ้มลองรสชาติเนื้อจระเข้ขึ้นมากันบ้าง ก็หาโอกาสแวะมาชิมกันได้ที่ "ห้องอุทยานหิน" ของ "อุทยานหินล้านปีและฟาร์มจระเข้พัทยา" ถือว่าลองมาเปลี่ยนรสชาติ หาความแปลกใหม่ให้กับการกิน |