ม่วนซื่นอาหารอีสาน ที่ “คาเฟ เดอ ลาว”

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 มกราคม 2548 11:40 น.
กินกันไปคุยกันไป ทั้งอร่อยทั้งสนุก
       แม้ว่าจะช้าไปนิด แต่ “ผู้จัดการตระเวนกิน” ก็ขอกล่าวสวัสดีปีใหม่ ปีที่เริ่มต้นด้วยความเศร้าสลด แต่กระนั้นก็ได้แต่ภาวนาให้หลังฝันร้ายที่ผ่านพ้นไป มีแต่ฝันดีเข้ามาในชีวิตเราทุกเมื่อเชื่อวัน
มุมหนึ่งในบ้านไม้สักเก่าแก่ที่ดัดแปลงมาเป็นร้านอาหาร
       ก็เหมือนเช่นดังหลายปีที่ผ่านมา ในปีนี้“ผู้จัดการตระเวนกิน” ยังคงทำหน้าที่แนะนำร้านอาหารแก่แฟนานุแฟนนักกินเหมือนเช่นดังเดิม โดยในมื้อนี้ขอเปิดปฐมฤกษ์ปีไก่ด้วย ร้าน"คาเฟ เดอ ลาว" ร้านอาหารแถวสีลมที่นำเสนอเมนูอีสานรสชาติจัดจ้านถึงใจ ที่แฝงตัวอยู่ย่านวุ่นวายอย่างสีลม
      
       บรรยากาศของร้านนี้ร่มรื่นไปด้วยแมกไม้ ตัวร้านเป็นบ้านไม้สักอายุเก่าแก่ร่วมร้อยปี ที่ปรับปรุงใหม่ให้เป็นร้านอาหาร ส่วนภายในตัวบ้านถูกจัดสรรพื้นที่นั่งได้อย่างเหมาะเจาะลงตัว มีหลายมุมให้เลือกนั่ง และด้านนอกที่จัดเป็นโต๊ะเก้าอี้ไม้เข้ากับบรรยากาศที่โอบล้อมไปด้วยต้นไม้ ที่จัดตกแต่งให้เข้ากันสร้างบรรยากาศอันรื่นรมย์ชวนนั่ง
      
       สำหรับอาหารของ “คาเฟ เดอ ลาว”ใคร ที่เห็นชื่อร้านก็น่าจะเดาไม่ยากว่าที่นี่ เน้นอาหารอีสานเป็นหลัก แต่ที่ชื่อร้านออกอินเตอร์ผสมไทยก็เพราะว่าหลายเมนูของร้านนี้ เป็นอาหารอีสานประยุกต์ที่เมื่อได้ลองสั่งหลายเมนูมาลิ้มรสแล้วก็ขอบอกว่า ต้องบอกต่อให้มาสั่งมาหม่ำกัน โดยเมนูเด่นก็มีอยู่หลายอย่าง
ตำมะม่วงปลากรอบ
       “ผู้จัดการตระเวนกิน” ขอเปิปเมนูแรกกันที่ ตำมะม่วงปลากรอบ (120 บาท) แค่เห็นชื่อก็รู้ว่าต้องเปรี้ยว เป็นมะม่วงน้ำดอกไม้ดิบ นำมาตำรวมกับปลากรอบ โรยหน้าด้วยถั่วลิสง ตกแต่งด้วยใบชะพลูสวยงาม รสชาติตำมะม่วงนี้ออกเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดจากมะม่วงดิบและรสชาติน้ำตำเปรี้ยวแซบ นักเชียว
      
       ปลาช่อนหลวงพระบาง (250 บาท) เสิร์ฟตามติดๆ จานนี้มีประโยชน์จากคุณค่าของเนื้อปลา เป็นปลาช่อนสดๆ ตัวโต นำมานึ่งจนเนื้อปลานุ่มสุกได้ที่ ยกเสิร์ฟพร้อมกับน้ำพริก ที่เป็นพริกย่าง หอมย่าง มะเขือเทศย่าง นำมาตำรวมกันเป็นน้ำพริกรสเด็ด ที่จิ้มกินกับเนื้อปลาช่อนเนื้อแน่นนุ่มหวาน พร้อมกับมีผักต้มหลายชนิด ไข่ต้ม มาเป็นเครื่องเคียง
      
       ต่อกันที่กุ้งแม่น้ำนึ่งสมุนไพร (คิดตามน้ำหนักกุ้ง กก.ละ 1,400 บาท) จานนี้เป็นที่โปรดปรานของคนชอบกุ้ง กุ้งแม่น้ำตัวโตๆ สดๆ นำมานึ่งจนเนื้อกุ้งสุก แล้วจึงนำเครื่องสมุนไพร มีทั้งพริกขี้หนู ข่า รากผักชี ตะไคร้ กระเทียม ใบสะระแหน่ ทั้งหมดซอยจนละเอียดปรุงรส และนำมาราดลงบนตัวกุ้ง รสชาติจานนี้เด่นตรงที่เนื้อกุ้งหวานกรอบเข้ากับเครื่องสมุนไพรเข้มข้นเผ็ด ลิ้น
ปลาช่อนหลวงพระบาง
       ปิดท้ายด้วยของเด็ด คาเฟเนื้อเซอร์ลอยย่าง (250 บาท) จานนี้คงถูกใจคนชอบเนื้อ เพราะเป็นเนื้อเซอร์ลอย (เนื้อโคขุน) ที่นำมาย่างจนสุกได้ที่ หรือจะสั่งทางร้านมาเอาสุกมากสุกน้อยก็ได้ แล้วนำมาแล่เป็นชิ้นบางๆ จิ้มกินคู่กับน้ำจิ้มแจ่วอีสานรสเด็ด เคี้ยวกันหนึบหนับปาก
คาเฟเนื้อเซอร์ลอยย่าง
       ส่วนถ้าใครอยากจะสั่งแบบอิ่มทีเดียวได้หลายเมนู แนะนำว่าให้สั่งอาหารแบบเป็นเซ็ทมีทั้งหมด 6 เซ็ท อย่างLunch set 5 (150 บาท) เซ็ทนี้มีทั้งลาบไก่ย่าง คอหมูย่าง ส้มตำไทย ข้าวเหนียว ที่เป็นอาหาคาว รสชาติแต่ละเมนูแซบสมชื่ออาหารอีสาน และมีผลไม้รวมให้กินล้างปากด้วย
      
       นอกจากนี้ก็ยังมีเมนูอื่นๆ ที่น่าสั่งมาหม่ำลองลิ้มชิมรส อาทิ ปูนิ่มทอดตะไคร้ใบมะกรูดกรอบ (200 บาท) ส้มตำปูม้า (150 บาท) เมี่ยงปลาช่อนเกล็ดหิมะ (300 บาท) สเต็กเนื้อเซอร์ลอยกะทะร้อน (250 บาท) ทะเลพิโรธ (280 บาท) อ้อ! ลืมบอกไปว่าถ้ามาหม่ำอาหารที่นี่ถ้าสั่งข้าวสวยหรือข้าวเหนียวที่นี่เขาจะ จัดเสิร์ฟเป็นแบบบุฟเฟ่ต์เติมได้ไม่อั้นอีกต่างหาก และที่สำคัญอาหารของที่นี่ทุกจานจะไม่ใส่ผงชูรสในการปรุง
      
       เห็นอย่างนี้แล้วถ้าใครชมชอบในอาหารรสชาติจัดจ้าน อย่างอาหารอีสาน และก็ชื่นชอบในบรรยากาศที่นั่งหม่ำอาหารสบายๆ แล้วละร้าน "คาเฟ เดอ ลาว" แห่งนี้อาจจะเป็นอีกหนึ่งร้านที่น่าสนใจ พากันมาอิ่มหนำม่วนซื่นกับอาหารอีสานกัน
      
       *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    * 
      
       
"คาเฟ เดอ ลาว" ตั้งอยู่ที่ 16 ซ.สีลม 19 (ตรอกเวท) แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00-14.00 น. และ 17.00-22.00 น. ถ้าจะไปคาเฟ เดอ ลาว ควรโทร.จองโต๊ะล่วงหน้า นอกจากนี้ที่นี่ยังรับจัดงานเลี้ยงด้วย โทร.0-2635-2338-9 และยังมีเปิดอีก 1 สาขา อยู่ที่ สยามสแควร์ซอย 3 โทร. 0-2251-0533