"เรือนริมน้ำ" อาหารรสล้ำ ชวนลิ้มรส

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 มิถุนายน 2549 16:47 น. 
บรรยากาศโต๊ะนั่งกินข้าวสบายๆ ภายในร้านเรือนริมน้ำ
       แหม!! มื้อนี้ไม่รู้เป็นอะไร "ผู้จัดการตระเวนกิน" เกิดอาการนึกอยากกินอาหารไปเสียสารพัดอย่างทั้งไทย จีน และซีฟู้ดในมื้อเดียวกัน ครั้นจะออกตระเวนกินไปตามแต่ละร้านก็เกรงว่าจะต้องลำบากกายในการเดินทางไป ยังแต่ละร้านที่เลือกขายอาหารแตกต่างกันไป
ผัดโหงวก๊วยในรังผึ้ง
       แต่แล้วเราก็มีทางออกจนได้ เมื่อได้มาเจอเข้ากับร้านอาหารเข้าร้านหนึ่งที่ชื่อว่า "เรือนริมน้ำ" ที่สามารถตอบสนองความอยากของเราเข้าได้อย่างจัง เพราะว่าที่นี่มีทั้งอาหารไทย อาหารจีน และซีฟู้ดสดๆ ไว้บริการ โดยฝีมือเชฟอภิศักดิ์ หากะวี หรือ ป๋าเหลียง ที่เชี่ยวชาญในการทำอาหารมานาน
      
       สำหรับอาหารไทยของที่นี่เป็นอาหารไทยรสจัด ถ้าเป็นอาหารจีนก็ออกแนวจีนแท้โดยเน้นที่เป็นจีนกวางตุ้ง สำหรับซีฟู้ดนั้นสั่งตรงจากมหาชัย และมีบ่อเลี้ยงกุ้งและปลาอยู่ภายในร้าน เพื่อรับประกันว่าอาหารทะเลของที่นี่ร้านสดใหม่จริงๆ
      
       ว่าแล้วก็มาลองลิ้มรสชาติอาหารของที่นี่กันเลยดีกว่า เริ่มกันที่เมนูไทยเป็นอย่างแรก หลนปู(100 บาท) ที่ทางร้านพิถีพิถันทำเป็นพิเศษโดยนำกะทิมาเคี่ยวจากนั้นก็ใส่หัวหอมแดงผสม ด้วยตะไคร้หั่นซอย พริกขี้หนูสด ใบมะกรูดหั่นซอย ตามด้วยกุ้งสับและหมูสับ เติมน้ำส้มมะขามลงไปเล็กน้อยแล้วเคี่ยวให้เข้ากันก่อนจะเติมปูแสมดองเค็มลง ไปเคี่ยวต่อจนได้น้ำขลุกขลิก ออกมาเป็นหลนปูที่กินแกล้มคู่กับผักสดสารพัดอย่าง รสชาติหลนปูออกรสนำเค็มๆ มันๆ แซมด้วยรสหวานซ่อนเปรี้ยวนิดๆ
กุ้งสะดุ้งไฟ
       ต่อด้วยเมนูจีน ผัดโหงวก๊วยในรังผึ้ง (120 บาท) จานนี้พิเศษตรงที่รังผึ้งทำมาจากเผือกหั่นเส้นมาสานด้วยมือจากนั้นก็นำมาทอด ให้เหลืองกรอบแล้วจึงค่อยๆร่อนออกจากพิมพ์ที่สานนำขึ้นพักไว้ ส่วนผัดโหงวก๊วยนั้นมีไส้กรอก แห้ว แปะก้วย กุ้ง ไก่ พริกแห้งทอดกรอบ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ มาผัดรวมกันปรุงรสชาติและพิเศษใส่น้ำผึ้งด้วย ก่อนจะนำมาใส่ลงในรังผึ้งเผือกทอด และมีใบคะน้าทอดกรอบให้กินแกล้มอีกด้วย เมนูนี้เรียกว่ากินได้ทุกอย่างผัดโหงวก๊วยออกรสหวานโดดเด่นจากน้ำผึ้ง ส่วนรังผึ้งเคี้ยวกรุบกรอบ
เป็ดอบซอสพริกไทยดำ
       ตามมาด้วยเมนูซีฟู้ดจานเด็ดที่ไม่ควรพลาด กุ้งสะดุ้งไฟ (250 บาท) ที่แค่ชื่อก็ชวนลิ้มลองแล้ว เป็นกุ้งก้ามกรามสดๆ ทั้งตัวผ่าหลังแล้วนำมาผัดกับน้ำมันร้อน ขอบอกว่าร้อนมากๆ เพราะตอนพ่อครัวผัดนั้นเห็นไฟลุกท่วมสูงกว่า 2-3 ม. เลยทีเดียว พอผัดกุ้งสุกได้ที่ก็มีน้ำราดที่ทางร้านปรุงด้วยสูตรพิเศษราดมาบนตัวกุ้ง เสิร์ฟมาร้อนๆ กุ้งสีส้มสดเนื้อแน่นหวานได้รสชาติน้ำราดที่ออกรสเปรี้ยวอมหวาน
      
       จากเมนูกุ้งต่อด้วยเมนู เป็ดอบซอสพริกไทยดำ (เล็ก100 บาท ใหญ่200บาท) เป็นสไตล์จีน-ฝรั่งผสมกัน คือนำเป็ดมาตุ๋นจนเป็ดเปื่อยยุ่ยจากนั้นแบ่งครึ่งตัวและนำไปทอดกรอบ แล้วก็มีน้ำซอสพริกไทยดำราดจนทั่วตัวเป็ด เป็ดจานนี้โดดเด่นตรงที่เนื้อเป็ดนั้นหนังกรอบเนื้อนุ่มและชุ่มไปด้วยน้ำซอส พริกไทยดำ ที่รสชาติเข้มข้นครบเครื่อง 5 รส ทั้งเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม เผ็ดนิดหน่อยจากตัวพริกไทยดำ
       สุดท้ายต้องยกให้เมนูหม้อไฟเมนูนี้ ปลาเก๋าหม้อไฟพริกไทยดำ (250บาท) เสิร์ฟมาครบชุด มีหม้อไฟร้อนๆ ที่เป็นน้ำซุปพริกไทยดำปรุงรสชาติมาแล้ว และมีปลาเก๋าสด ๆ หนึ่งตัวนำมาแล่ผ่าเอาก้างออกเหลือแต่เนื้อ พร้อมกับผัดสดสารพัดอย่าง เวลากินก็ใส่ผักลงไปในหม้อไฟ และก็ค่อยลวกปลาเก๋าลงไปในน้ำซุป พอปลาสุกก็ส่งเข้าปากลิ้มรสชาติปลาสดเนื้อนุ่มหวาน หรือจะจิ้มกินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเผ็ด เปรี้ยว หวาน เค็ม น้ำจิ้มเต้าเจี้ยวรสชาติเค็มและเผ็ดก็อร่อยเพิ่มรสชาติไปอีกแบบ อ้อแล้วอย่าลืมซดน้ำซุปร้อนๆ ตามที่หอมกลิ่นพริกไทยดำและเผ็ดพริกไทยดำชุ่มชื่นคอดี
      
       นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเมนูแนะนำที่น่าลองลิ้ม อาทิ ยำตะไคร้ปลาสลิดกรอบ (80 บาท) ต้มแซ่บกกระดูกหมูอ่อน (80บาท) ผัดนกกระจอกเทศพริกไทยดำ (180 บาท) ออส่วน(100 บาท) พล่ากุ้งก้ามกราม (250 บาท) รวมมิตรทะเลเผา (200 บาท)
      
       หากแฟนานุแฟนท่านใดเกิดนึกอยากกินทั้งอาหารไทย จีน และซีฟู้ดขึ้นมาในคราวเดียวกันเหมือนอย่าง"ผู้จัดการตระเวนกิน" แล้วล่ะก็ ลองแวะมาที่ร้าน เรือนริมน้ำ แห่งนี้แล้วจะรู้ว่าที่นี่สามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ แบบ แถมบรรยากาศร้านก็ชวนนั่งตกแต่งแบบสบายๆ มีดนตรีสดเล่นให้ฟังทุกวันตั้งแต่ 19.00-23.00 น. และยังมีห้องคาราโอเกะบริการอีกด้วย