หลายคนอาจจะบอกว่าเคย และอีกหลายคนอาจจะบอกว่าไม่เคย สำหรับ “ผู้จัดการตระเวนกิน” แล้วบอกได้เลยว่าความรู้สึกที่ว่านี้เพิ่งจะเกิดขึ้น เมื่อได้ไปตระเวนกินที่ร้านอาหารชื่อว่า “คูพู คูพู บาร็อง” (KUPU KUPU BARONG) มา | |||||
| |||||
อย่างที่ “ผู้จัดการตระเวนกิน” ได้ลองสั่งมาลองลิ้มชิมรสชาติก็มีหลายเมนู เริ่มที่เมนูนี้ กรีนบาหลี (100 บาท) หน้าตาเหมือนเมี่ยงก๋วยเตี๋ยวจัดมาเป็นคำๆ เป็นแผ่นก๋วยเตี๋ยวที่ห่อด้วยไส้ข้างในมีเนื้ออกไก่ฉีกที่คลุกเคล้ากับ เครื่องเทศไทย ใส่เห็ดหอมกับแห้ว และมีน้ำซอสพริกเขียวราดหน้ามาอีกที เวลากินส่งเข้าปากเคี้ยวกร้วมทั้งคำแป้งก๋วยเตี๋ยวนุ่มเข้ากับไส้ไก่ข้างใน ที่รสชาติกลมกล่อมได้ที่ ผสานกับน้ำซอสที่ออกเผ็ดนิดหน่อยกำลังดี เคี้ยวเพลินแบบส่งเข้าปากคำต่อคำกันเลย ถัดมาเป็น สะเต๊ะกุ้ง (160 บาท) หน้าตาชวนหม่ำไม่น้อย เป็นกุ้งแม่น้ำสดๆ หมักกับพริกแกงของอินโดนีเซียและผงกะหรี่นานกว่า ครึ่งชม. และเสียบด้วยตะไคร้ (ซึ่งใช้ตะไคร้ทุบเพราะกลิ่นตะไคร้จะซึมเข้าไปในตัวกุ้ง) แล้วนำไปย่างจนเนื้อกุ้งสุกได้ที่กำลังดี พร้อมเสิร์ฟราดด้วยซอสพริกเขียวที่ผสมกับเครื่องสมุนไพรไทย (ตัวน้ำซอสคล้ายๆ น้ำจิ้มซีฟู้ด) ลิ้มรสชาติเนื้อกุ้งหวานได้รสชาติเครื่องแกงที่หมักถึงเนื้อใน หอมกลิ่นเครื่องแกงและผงกะหรี่อ่อนๆ ส่วนน้ำซอสที่ราดมาออก3 รสเปรี้ยว เค็ม เผ็ด | |||||
ปิดท้ายมื้อด้วยเมนูปลาชื่อเก๋ไก๋ว่า ซีบาส บาร็อง (240 บาท) เป็นปลากะพงขาวแร่เอาก้างออกหมดแล้วมาทอดกรอบ แล้วราดด้วยเครื่องยำน้ำสมุนไพร เครื่องที่ราดมาคล้ายๆ กับเครื่องเมี่ยงคำ มีทั้งกุ้งแห้ง ขิง ตะไคร้ หัวหอม มะนาว พริก ตักชิ้นปลาพร้อมกับเครื่องยำเข้าปาก เคี้ยวแล้วสัมผัสได้ถึงรสชาติที่คล้ายๆ กับกินเมี่ยง แต่รสชาติออกเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดกว่า และเนื้อปลากะพงเคี้ยวกรุบกรอบ | |||||
สำหรับมิตรรักนักกินทั้งหลาย ถ้าหากกำลังมองหาร้านอาหารที่มีบรรยากาศสบายๆ ราวกับว่าได้มานั่งกินข้าวอยู่ในสวนที่บ้านของตัวเอง พร้อมกับมีเมนูอาหารรสเลิศให้ได้ลิ้มลองแล้วล่ะก็ ลองแวะมาที่ร้าน “คูพู คูพู บาร็อง” แห่งนี้กันดู แล้วจะรู้ว่าเวลาได้นั่งกินข้าวในบรรยากาศสวน (สไตล์บาหลี) สวยๆ อย่างนี้มันช่างสำราญใจเสียจริง |