ชาวสวิสฯจะนิยมกินฟองดูกันในฤดูหนาว โดยนำเอาเศษชีสมาตั้งไฟหลอมละลายรวมกับไวน์ขาว แล้วเอาส้อมหรือเหล็กแหลมเสียบขนมปังลงไปจุ่ม อาบชีสจนทั่วแล้วเอาเข้าปาก กินร้อนๆ เพื่อให้พลังงานและแคลอรีที่สูงมากเอาการ | |||||
เหตุที่ "ผู้จัดการตระเวนกิน" พล่ามมาเสียยาวอย่างนี้ไม่ใช่อะไร แค่อยากจะให้แฟนานุแฟนทั้งหลายรู้จักกับ ฟองดู กันสักหน่อย ก่อนที่เราจะพาไปกินฟองดูอร่อยๆ กันที่ โรงแรมคลาสสิค เพลส | |||||
เอาเป็นว่ามาดูกันที่เมนูแรก ชีสฟองดู (Cheese Fondue) เป็นฟองดูแบบต้นตำรับของชาวสวิส คือ เป็นการนำเอาชีสนานาชนิดมาละลายอยู่ในหม้อร้อนๆ ซึ่งชีสนั้นเป็นชีสที่ใช้กับการกินฟองดูโดยเฉพาะ ซึ่งมีส่วนผสมของ เหล้า กระเทียม และไวน์ขาว และก็มีขนมปังเสิร์ฟมาให้กินคู่กัน เวลากินก็แค่เอาเหล็กแหลม ซึ่งเป็นอาวุธที่ใช้ในการกิน จิ้มขนมปังแล้วก็จุ่มลงไปในหม้อชีสที่ละลายไว้แล้วแบบร้อนๆ จนทั่ว แล้วส่งเข้าปากทั้งคำแบบร้อนๆ อาจจะลวกปากนิดหน่อย แต่ขอบอกเลยว่ารสชาตินั้น ทั้งหอมกลิ่นชีสและไวน์อ่อนๆ ขนมปังนิ่มนุ่มละลายในปาก ผสานกับชีสร้อนๆ ที่รสชาติเข้มข้น เค็ม มันละมุนลิ้น และมีผักดองให้กินแก้เลี่ยน | |||||
สุดท้ายเป็นเมนู ฟองดูน้ำซุป ที่ดูๆ แล้วก็เหมือนจิ้มจุ่มบ้านเรา คือ มีหม้อน้ำซุป และก็มีเนื้อที่แล่เป็นชิ้นบางๆ มีผักและบะหมี่เหลืองเสิร์ฟมา การกินฟองดูนี้ จะใช้เหล็กแหลมจิ้มเนื้อแล้วนำไปจุ่มในน้ำซุปที่ปรุงรสมาเป็นพิเศษใส่ สมุนไพรจีน และเห็ดหูหนูดำมาด้วย พอจุ่มเนื้อได้ที่ก็ส่งเข้าปากเคี้ยว เนื้อเหนียวนุ่ม เคี้ยวหนึบ ซดน้ำซุปร้อนๆ รสกลมกล่อมคล่องคอ และถ้าอยากกินผักกับบะหมี่ก็นำลงไปจุ่มลวกได้ในน้ำซุป และถ้าอยากเพิ่มรสชาติให้กับเนื้อก็มีน้ำจิ้ม 4 แบบเหมือนเนื้อทอดฟองดูให้จิ้มกินด้วยเหมือนกัน สำหรับเมนูนี้ถ้าใครไม่กินเนื้อจะเปลี่ยนเป็น หมู ไก่ หรือว่าซีฟู้ดก็ได้ | |||||
|