3 แบบ 3 รส กับ "ฟองดู" โรงแรมคลาสสิค เพลส

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 พฤศจิกายน 2548 16:31 น.

ห้องเดอะเพลส คอฟฟี่ ช็อปฯ ช่วงมื้อเที่ยงจะมีบุฟเฟต์นานาชาติบริการ
       เอ่ยถึง "ฟองดู" (fondue) ขึ้นมา "ผู้จัดการตระเวนกิน" เชื่อว่านักกินส่วนใหญ่ต้องคิดว่าเป็นอาหารฝรั่งเศสเป็นแน่ แต่คุณโฆษิต โชคไชย จากโรงแรมคลาสสิค เพลส ได้ให้ข้อมูลว่า ฟองดูดั้งเดิมนั้นเป็นอาหารสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งคำว่า fondue ที่แปลว่า "ละลาย"
       

       ชาวสวิสฯจะนิยมกินฟองดูกันในฤดูหนาว โดยนำเอาเศษชีสมาตั้งไฟหลอมละลายรวมกับไวน์ขาว แล้วเอาส้อมหรือเหล็กแหลมเสียบขนมปังลงไปจุ่ม อาบชีสจนทั่วแล้วเอาเข้าปาก กินร้อนๆ เพื่อให้พลังงานและแคลอรีที่สูงมากเอาการ
ห้องเดอะ เพลส คอฟฟี่ ช็อปฯ นั่งกินอาหารในบรรยากาศสบายๆ
       จนกระทั่งต่อมาเมื่อความนิยมฟองดูชีส ของชาวสวิสฯ ได้แพร่หลายเข้าไปในฝรั่งเศส แล้วชาวฝรั่งเศสก็ได้ประยุกต์การกินฟองดูชีสของชาวสวิสฯ มาเป็นฟองดูเนื้อ เรียกว่า Fondue bourguignonne เป็นการนำเอาเนื้อที่หั่นเป็นก้อนสี่เหลี่ยมขนาดพอคำจิ้มจุ่มลงในหม้อน้ำมัน ร้อนๆ แล้วจิ้มกินกับซอสนานาชนิด ซึ่งจากจุดนี้เองก็ทำให้ฟองดู กลายเป็นอาหารที่มีชื่อเสียงขึ้นมา
      
       เหตุที่ "ผู้จัดการตระเวนกิน" พล่ามมาเสียยาวอย่างนี้ไม่ใช่อะไร แค่อยากจะให้แฟนานุแฟนทั้งหลายรู้จักกับ ฟองดู กันสักหน่อย ก่อนที่เราจะพาไปกินฟองดูอร่อยๆ กันที่ โรงแรมคลาสสิค เพลส
       

ชีสฟองดู
       เพราะว่าที่ห้องเดอะเพลส คอฟฟี่ ช็อป แอนด์ ไฟน์ ไดน์นิ่ง ของโรงแรมฯ ได้จัดเมนู "คลาสสิค ฟองดู สเปเชี่ยล" ไว้บริการ ซึ่งมีฟองดูให้เลือกกินถึง 3 แบบ ทั้งแบบต้นตำรับของสวิสฯและแบบประยุกต์ของชาวฝรั่งเศส
      
       เอาเป็นว่ามาดูกันที่เมนูแรก ชีสฟองดู (Cheese Fondue) เป็นฟองดูแบบต้นตำรับของชาวสวิส คือ เป็นการนำเอาชีสนานาชนิดมาละลายอยู่ในหม้อร้อนๆ ซึ่งชีสนั้นเป็นชีสที่ใช้กับการกินฟองดูโดยเฉพาะ ซึ่งมีส่วนผสมของ เหล้า กระเทียม และไวน์ขาว และก็มีขนมปังเสิร์ฟมาให้กินคู่กัน เวลากินก็แค่เอาเหล็กแหลม ซึ่งเป็นอาวุธที่ใช้ในการกิน จิ้มขนมปังแล้วก็จุ่มลงไปในหม้อชีสที่ละลายไว้แล้วแบบร้อนๆ จนทั่ว แล้วส่งเข้าปากทั้งคำแบบร้อนๆ อาจจะลวกปากนิดหน่อย แต่ขอบอกเลยว่ารสชาตินั้น ทั้งหอมกลิ่นชีสและไวน์อ่อนๆ ขนมปังนิ่มนุ่มละลายในปาก ผสานกับชีสร้อนๆ ที่รสชาติเข้มข้น เค็ม มันละมุนลิ้น และมีผักดองให้กินแก้เลี่ยน
เนื้อทอดฟองดู
       ฟองดูเมนูที่สองเป็น เนื้อทอดฟองดู แบบของฝรั่งเศส จัดเสิร์ฟมาแบบครบชุด คือ มีหม้อน้ำมันร้อนๆ และมีเนื้อหมู เนื้อไก่ หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาดพอดีคำ การกินเนื้อทอดฟองดูก็คือ นำเหล็กแหลมจิ้มเนื้อที่ต้องการจะกิน แล้วนำลงทอดในน้ำมันร้อนๆ พอสุกได้ที่ ก็ส่งเข้าปากกินได้เลย หรือจะเพิ่มรสชาติก็มีน้ำซอส ถึง 4 แบบ ให้เลือกกินคู่กัน มีทั้ง ทาร์ทาร์ซอส เทาซันด์ ไอส์แลนด์ซอส ค็อกเทลซอส และน้ำจิ้มแจ่วแบบไทยๆ แถมยังมีสลัดผักเสิร์ฟมาให้กินแก้เลี่ยนอีกด้วย
      
       สุดท้ายเป็นเมนู ฟองดูน้ำซุป ที่ดูๆ แล้วก็เหมือนจิ้มจุ่มบ้านเรา คือ มีหม้อน้ำซุป และก็มีเนื้อที่แล่เป็นชิ้นบางๆ มีผักและบะหมี่เหลืองเสิร์ฟมา การกินฟองดูนี้ จะใช้เหล็กแหลมจิ้มเนื้อแล้วนำไปจุ่มในน้ำซุปที่ปรุงรสมาเป็นพิเศษใส่ สมุนไพรจีน และเห็ดหูหนูดำมาด้วย พอจุ่มเนื้อได้ที่ก็ส่งเข้าปากเคี้ยว เนื้อเหนียวนุ่ม เคี้ยวหนึบ ซดน้ำซุปร้อนๆ รสกลมกล่อมคล่องคอ และถ้าอยากกินผักกับบะหมี่ก็นำลงไปจุ่มลวกได้ในน้ำซุป และถ้าอยากเพิ่มรสชาติให้กับเนื้อก็มีน้ำจิ้ม 4 แบบเหมือนเนื้อทอดฟองดูให้จิ้มกินด้วยเหมือนกัน สำหรับเมนูนี้ถ้าใครไม่กินเนื้อจะเปลี่ยนเป็น หมู ไก่ หรือว่าซีฟู้ดก็ได้
ฟองดูน้ำซุป
       สนนราคาของฟองดู หนึ่งอย่างต่อหนึ่งท่าน ราคา 450 ++ บาท ถ้ามา 2 ท่าน 600 ++ บาท สำหรับ ใครที่ชื่นชอบการกิน ฟองดูหรือนักกินที่อยากจะลองลิ้มรสชาติของฟองดูว่าเป็นอย่างไร ก็แวะมาตระเวนกินกันได้ ที่โรงแรมคลาสสิค เพลส