หม่ำอาหารจีน สไตล์ฝรั่งที่ "ไวท์โลตัส"

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 มิถุนายน 2548 16:51 น.
บรรยากาศในห้องอาหารจีนไวท์ โลตัส เมื่อมองออกไปจะเห็นท้องทะเลหัวหินในมุมสูง
       
      
       หมุน.. หมุน..หมุน จะต้องหมุนอีกซักกี่รอบ "ผู้จัดการตระเวนกิน" ถึง จะได้กินหมูหันแผ่นบางกรอบที่แค่เห็นน้ำลายก็พาลจะไหล หรือจะเป็นเป็ดย่างเนื้อนุ่มที่ทำท่าว่าใกล้จะหมด แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าโชคจะเข้าข้างเรา เพราะผู้ร่วมโต๊ะคนอื่นๆก็ยังตั้งหน้าตั้งตาคีบเอาๆ ทำเอาเรานั่งหน้าละห้อยมองตาปริบๆ เป็นอันว่าอาหารจีนมื้อนั้นจบลงด้วยความหิวโหย ทำเอา "ผู้จัดการตระเวนกิน" เข็ดกับการกินโต๊ะจีนไปอีกนาน
       

เป็ดปักกิ่งห่อฟองเต้าหู้ทอด+กุ้งผัดแอปเปิ้ลราดซอสส้มตะไคร้
       และแล้วเมื่อเพื่อนตัวดีชวนเราไปกินโต๊ะจีนอีก ความหลังฝังใจเมื่อครั้งกระนั้นก็ผุดขึ้นมา "ผู้จัดการตระเวนกิน" จึงส่ายหน้าพร้อมให้เหตุผลไปว่าคงจะกินไม่ทันคนอื่น แต่แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อเพื่อนคนเดิมบอกว่า เดี๋ยวนี้ที่ห้องอาหารจีน ไวท์โลตัส ซึ่งตั้งอยู่บนชั้นที่ 17 ของโรงแรมฮิลตัน หัวหิน รีสอร์ท แอนด์ สปา จ.ประจวบคีรีขันธ์นั้น มีการกินอาหารจีนแบบฝรั่งหรือในแบบที่เรียกว่า โมเดิร์น ไชนิส คืออาหารในแต่ละอย่างจะจัดและเสิร์ฟมาสำหรับ 1 คน ทำให้เกิดความเป็นส่วนตัวและถือเป็นความแปลกใหม่ในการกินอาหารจีน แถมรสชาติอาหารจีนที่นี่เป็นการผสมผสานกันระหว่างอาหารเสฉวนกับกวางตุ้ง
      
       พอ "ผู้จัดการตระเวนกิน" ได้ฟังมาถึงตรงนี้ ก็ไม่รอช้ารีบออกเดินทางไปยังหัวหินทันที แต่มีข้อแม้ว่าเพื่อนตัวดีต้องขับรถให้
ปลากะพงขาวอบซอสพริก
       ประมาณ 4 ชั่วโมงเศษๆจากกรุงเทพฯเราก็เดินทางมาถึงห้องอาหารจีนแห่งนี้ ด้วยความที่อยู่สูงถึงชั้นที่ 17 ทำให้สามารถมองเห็นชายหาดหัวหินในมุมสูง ดื่มด่ำกับบรรยากาศซักครู่ กระเพาะก็เริ่มส่งเสียงเตือนและเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา "ผู้จัดการตระเวนกิน" จึงเลือกสั่ง เป็ดปักกิ่งห่อฟองเต้าหู้ทอด+กุ้งผัดแอปเปิ้ลราดซอสส้มตะไคร้ (350บาท) มาลองลิ้นก่อน แล้วก็ไม่ผิดหวังเพราะกุ้งลายเสือเนื้อแน่น รสชาติออกหวานอมเปรี้ยวที่เวลาเคี้ยวจะได้กลิ่นแอปเปิ้ล หอมไปอีกแบบ ส่วนเป็ดปักกิ่งที่ห่อในฟองเต้าหู้ทอดนั้นก็รสชาติออกหวานๆเค็มเพราะนำเนื้อ เป็ดไปผัดให้แห้งแล้วปรุงรส เสร็จแล้วราดด้วยซอสเป็ดปักกิ่ง กินพร้อมฟองเต้าหู้ทอดทำให้เวลาเคี้ยวหนึบหนับในปาก หวานมันไปอีกแบบ
      
       มาต่ออารมณ์หวานๆมันๆกันด้วย ไก่เส้นผัดเปรี้ยวหวาน (150บาท) อกไก่เนื้อแน่นนำไปชุบแป้งแล้วทอดด้วยไฟแรง จากนั้นปรุงรสเปรี้ยวด้วยน้ำส้มสด ทำให้เวลาเคี้ยวได้กลิ่นหอมของส้ม จานนี้ทำให้ "ผู้จัดการตระเวนกิน" ต้องขอสารภาพว่าไม่เคยกินผัดเปรี้ยวหวานทีไหน รสชาติจัดจ้านถึงใจขนาดนี้มาก่อน
ไก่เส้นผัดเปรี้ยวหวาน
       มาถึงทะเลจะไม่กินปลาก็กระไรอยู่ "ผู้จัดการตระเวนกิน" สอดส่ายสายตามองหาเมนูปลาน่าเจี๊ยะ เลยไปสะดุดเข้ากับ ปลากะพงขาวอบซอสพริก (310บาท) ที่พอเห็นแล้วต้องรีบกลืนน้ำลาย เพราะเนื้อปลากะพงชิ้นหนา ที่พอส่งเข้าปากก็รู้สึกได้ถึงความนุ่มลิ้น เต็มปากเต็มคำของเนื้อปลาที่สด ไม่คาว แถมซอสพริกที่เผ็ดกำลังดี กินแกล้มกับหน่อไม้ฝรั่งผัดซีอิ้วจีนก็หอมอร่อยจนเคี้ยวไม่หยุด
      
       พออิ่มหนาสำราญกับอาหารคาวแล้ว ก็มาถึงคิวของหวานอย่างไอศกรีม+กล้วยหอมทอดราดซอสน้ำผึ้ง (140บาท) กันบ้าง ซึ่งไอศกรีมของไวท์ โลตัสนี้เป็นโฮมเมด สไตล์อิตาเลียน เพราะฉะนั้นรสชาติที่ได้จะเข้มข้น หวานมันถึงเครื่องไอศกรีม เสิร์ฟพร้อมกับเผือกทอดแถมตกแต่งด้วยเส้นหมี่ทอดดูสวยงามแปลกตา เวลากินให้ตักไอศกรีมเข้าปากพร้อมกับกล้วยหอมทอด เคี้ยวพร้อมกันรสชาติจะออกหอมๆมันๆ แถมได้กลิ่นหอมของน้ำผึ้งด้วย
ติ่มซำแฟนตาซี
       ตอนนี้ท้องของ "ผู้จัดการตระเวนกิน" อิ่มแปล้แล้ว แต่ก็ยังมองหาเมนูน่าสนใจอื่นๆ อาทิ ปลาหิมะนึ่งซอสเต้าซี่ (360บาท) เนื้อสันในผัดพริกไทยดำ (420บาท) เนื้อแกะราดซอสกระเทียม (420บาท) หรือจะเป็นติ่มซำแฟนตาซี อีกอย่างที่ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยและความแปลก เพราะเชฟจะบรรจงออกแบบติ่มซำให้เป็นรูปสัตว์ต่างๆดูแปลกตากว่า 20 ชนิด แต่จะมีเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์และในช่วงวันหยุดยาวเท่านั้น ไว้คราวหน้ามีโอกาสมาเยือนหัวหินอีกครั้ง รับรองไม่พลาด