หญ้าปักกิ่ง...ทางเลือกใหม่ของผู้ป่วยมะเร็ง

“มะเร็ง” คือสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของคนไทย โดยในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตด้วยโรคนี้กว่าหกหมื่นคน

และอีกประมาณกว่าสองแสนคนที่ยังคงต่อสู้กับโรคนี้ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา อัตราการป่วยเป็นมะเร็งของคนไทยสูงขึ้นเกือบเท่าตัว
ในขณะที่ราคายาใหม่ที่ใช้รักษาโรคนี้ก็ติดสิทธิบัตร ทำให้ยามีราคาแพง และยังมีผลข้างเคียงสูงอีกด้วย

ปัจจุบันจึงมีความพยายามในการหาทางเลือกใหม่ๆ ให้กับผู้ป่วย ซึ่งนอกจากจะทำให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษามากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ลดผลข้างเคียงลง

หนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจคือ สมุนไพร “หญ้าปักกิ่ง” ที่ปัจจุบันได้มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในประเทศไทย ก็เพราะมีบุคคลที่ตระหนักในคุณค่า อย่าง คุณลุงณรงค์ สุทธิกุลพาณิช ผู้ที่อุทิศตนเพื่อการเผยแพร่ทั้งความรู้ ตัวยา และประสบการณ์ในการใช้หญ้าปักกิ่งอย่างจริงจังมากว่า 40 ปี

โดยคุณลุงณรงค์ได้นำหญ้าปักกิ่งที่มีการใช้ดั้งเดิม ในแคว้นสิบสองปันนาของจีน แนะนำให้ผู้ที่ป่วยเป็นมะเร็งใช้ และได้ขอให้ผู้ป่วยที่ได้รับแจกพันธุ์หญ้าปักกิ่ง จดบันทึกวิธีการใช้

ผลการใช้ ตลอดจนผลข้างเคียงอย่างละเอียดและเป็นระบบ จนกระทั่งได้ข้อมูลจากผู้ป่วยกว่า 80 คน

ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า

“ข้อมูลจากประสบการณ์การใช้จริงของผู้คนที่คุณลุงณรงค์ได้รวบรวมไว้ มีส่วนเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดการต่อยอดในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์อย่างจริงจัง

โดยเฉพาะการค้นคว้าเกี่ยวกับการออกฤทธิ์ทางยาของหญ้าปักกิ่ง เช่น มีการค้นพบว่า น้ำคั้นหญ้าปักกิ่งมีสารกลัยโคสฟิงโกไลปิดส์ (Glycosphingolipids)

ซึ่งมีฤทธิ์ต้านมะเร็ง ต้านการก่อกลายพันธุ์ นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์กระตุ้นภูมิต้านทาน ต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ และลดระดับน้ำตาลในเลือด

แม้ว่าการศึกษาวิจัยในคนโดยเฉพาะการวิจัยทางคลินิก จะยังมีไม่มากนัก แต่ข้อมูลดังกล่าวเป็นการติดตามการใช้ หญ้าปักกิ่งในลักษณะของกรณีศึกษาเป็นรายๆ

ซึ่งได้ผลการศึกษาที่มีความน่าสนใจ และน่าจะเป็นฐานในการศึกษาวิจัยทางคลินิกอย่างจริงจังต่อไป”

สำหรับงานเสวนาเรื่อง “หญ้าปักกิ่ง : สมุนไพรทางเลือกสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง บันทึกความเมตตาของคุณลุงณรงค์ สุทธิกุลพาณิช” ที่ได้จัดไปเมื่อเร็วๆ นี้

มีผู้ที่ได้ใช้หญ้าปักกิ่งในการรักษาโรคมะเร็ง และโรคสะเก็ดเงิน จนกระทั่งผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นในเวลาเพียงไม่นาน มาบอกเล่าถึงประสบการณ์ในการใช้หญ้าปักกิ่ง

อย่าง พระสันติพงษ์ เขมปัญโญ จากวัดป่าสุคะโต จ.ชัยภูมิ ได้ให้ข้อมูลว่า “คุณแป๊ะ เหล่าชำนิ อายุ 70 ปี ตรวจพบมะเร็งที่ปอดและเข้ารับการรักษากับแพทย์แผนปัจจุบัน เมื่อปี 2546

หลังจากมาพบที่วัดจึงได้แนะนำให้ผู้ป่วยปลูกหญ้าปักกิ่ง และดื่มน้ำหญ้าปักกิ่งเข้มข้น ตามหนังสือของคุณลุงณรงค์ พร้อมกับการรับประทานอาหารปลอดสารพิษ ผ่านไป 4 วัน พบว่าอาการเจ็บคอลดลง

จึงได้แนะนำให้รับประทานต่อจนครบ 6 เดือน และพบว่าอาการแสบร้อนหายไปเหมือนไม่เคยเป็นอะไรมาก่อน ภายหลังได้มีการรักษากับแพทย์แผนปัจจุบันและได้หยุดใช้หญ้าปักกิ่ง ปรากฏว่าอาการก็ทรุดลงอย่างรวดเร็ว

จึงได้แนะนำให้กลับไปใช้หญ้าปักกิ่ง จนอาการกลับมาดีขึ้นตามลำดับ จนกระทั่งปัจจุบันนี้กว่า 10 ปีแล้วที่ผู้ป่วยยังมีสุขภาพดีและแข็งแรง”

นอกจากนี้ ยังมีรายงานการประชุมวิชาการของกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เรื่อง “เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับหญ้าปักกิ่ง”
เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2548 ภญ.ปัทมา สุนทรศารทูล ได้นำเสนอผลการศึกษาทางคลินิกในผู้ป่วยมะเร็งหลังโพรงจมูก

โดยศึกษาผลทางคลินิกของน้ำคั้นหญ้าปักกิ่งในผู้ป่วยที่ได้รับการฉายแสงและเคมีบำบัด

เป็นการทดสอบประสิทธิผลในการลดผลข้างเคียงจากการฉายรังสีและเคมีบำบัดในผู้ป่วยมะเร็งหลังโพรงจมูก ระหว่างรับการรักษาด้วยวิธีรังสีรักษาและเคมีบำบัด จำนวน 10 ราย

โดยผู้ป่วย 5 รายได้รับน้ำคั้นหญ้าปักกิ่ง ส่วนอีก 5 รายได้รับยาหลอก โดยในการศึกษาดังกล่าว อาการสำคัญที่ใช้ในการประเมินผู้ป่วย คือ อาการคลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร แผลในปาก ปากแห้ง อ่อนเพลีย ปวดข้อและกล้ามเนื้อ ท้องเสีย ท้องผูก ผมร่วง และอาการไข้

ซึ่งจากการศึกษาพบว่าผู้ป่วยที่ได้รับน้ำคั้นหญ้าปักกิ่งมีอาการเหล่านี้น้อยกว่าในกลุ่มควบคุม ในขณะที่ดัชนีชี้วัดคุณภาพชีวิตด้านจิตใจ ครอบครัว และสังคมของผู้ป่วยที่ได้รับน้ำคั้นหญ้าปักกิ่ง สูงกว่าในกลุ่มควบคุมอย่างมาก

แม้ว่าในการศึกษาดังกล่าวจะมีจำนวนผู้ป่วยน้อย แต่พบว่าน้ำคั้นหญ้าปักกิ่งมีประสิทธิผลในการลดผลข้างเคียง ของการฉายรังสีและเคมีบำบัดค่อนข้างชัดเจน

ผู้สนใจข้อมูลความรู้เรื่องสมุนไพรหญ้าปักกิ่ง สอบถามรายละเอียดการใช้สมุนไพรได้ที่ ศูนย์ข้อมูล มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี โทร. 0-3721-1289.


ขอบคุณ ไทยโพสต์ออนไลน์