โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ | 19 กุมภาพันธ์ 2548 10:22 น. |
โดย...แม่ช้อยนางรำ | |||||
ว่ากล้ากิน “ปลาปักเป้า” เสี่ยงตายอะปล่าว ถ้าปากอยากแต่ใจไม่กล้า??? ก็ถอยออกมาดีกว่า ไม่ต้องอ่านรายงานนี้” พออีชั้น รู้ข่าวว่าจะมี “ปลาปักเป้า” จากญี่ปุ่นส่งมาให้ท้าทาย...(แฮะ แฮะ ก็เสี่ยงกับความตายนั้นล่ะเจ้าค่ะ) อีชั้นก็รีบติดต่อคุณ “นันทิรัตน์ ประเสริฐทรัพย์” หรือ “หนูต้อม” ประชาสัมพันธ์ “โรงแรมเวสทิน แกรนด์ สุขุมวิท” ทันที อะฮา..ถึงเวลาที่เราจะได้อิ่มอร่อยแบบเสี่ยง..เสี่ยงกับความตาย ซึ่งชั่วชีวิตนี้เราจะเสี่ยงแบบนี้ มีไม่กี่ครั้งด้วยกันหร๊อก !! เพราะฉะนั้น อีชั้นพลาดไม่ได้ * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * | |||||
อันว่า “ปลาปักเป้า” ที่บ้านเรา คนกินแล้วชัก...ชักตายให้เป็นข่าวมาก็หลายครั้ง แต่ที่เมืองยี่ปุ่น-ยุ่นปี่ เขากินกันเป็นเรื่องธรรมดา ทั้งยังถือว่า ลูกผู้ชายถ้าไม่ได้กินเนื้อปลาปักเป้า ยังไม่สามารถจะยอมรับ นับถือกันได้ ก็คล้ายๆ ของคนจีนเขาว่า “ถ้ายังไม่ได้มาเหยียบกำแพงเมืองจีน ยังไม่ถือว่าเป็นลูกผู้ชาย” ของญี่ปุ่นก็คงจะว่าอย่างนี้ “ถ้ายังไม่ได้กินฟูหงุ ยังไม่ถือว่าเป็นลูกผู้ชาย” ถามว่าทำไมต้องกิน คำตอบก็คือ..มันอร่อยที่สุดในบรรดาเนื้อปลาทั้งหลายในโลกมนุษย์ และก็อันตรายที่สุด มนุษย์มีสิทธิต้องตายเพราะกินเนื้อมัน * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * | |||||
คนญี่ปุ่นรู้จักกินกันมานานแล้ว และทุกวันนี้ก็ยังกินอยู่ ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันเสี่ยง แต่เพราะความอร่อยนี่ไง ถึงเสี่ยงก็ต้องยอมตาย แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเสี่ยงกันสักเท่าไหร่ ประเทศญี่ปุ่นเขามีบริษัทรับผิดชอบ ส่งเนื้อเจ้าฟูหงุไปขายภัตตาคารญี่ปุ่นทั่วโลก นอกจากนั้นกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่น ยังกำหนดว่าพ่อครัวที่จะทำเมนูปลาปักเป้าได้จะต้องมีประกาศนียบัตรรับรองจากทางการ เพราะฉะนั้นหลายสิบปี นับตั้งแต่อีชั้นได้ลองกินเจ้าฟูหงุก็ยังไม่เห็นมีใครกินปลาปักเป้าแล้วตาย เลยสักคนเดียวเลย...จริงจริง... อีชั้นเคยกินเจ้าฟูหงุ ครั้งแรกที่โตเกียว ตอนบินกลับมาจากอเมริกา แล้วพักหนึ่งคืนเปลี่ยนเครื่องบินที่นั่น เมื่อปี คศ. 1970 ก็สามสิบกว่าปีมาแล้ว กินครั้งที่สองกับ “คุณพินิจ สมบัติศิริ” ที่โรงแรมฮิลตัน ตอนนี้เขาเปลี่ยนชื่อ “โรงแรมนายเลิศ” ไปเรียบร้อยแล้ว มากินครั้งล่าสุดก็ที่ห้องอาหารญี่ปุ่นชื่อ “คิสโซะ” ที่ “โรงแรมเวสทิน แกรนด์” สุขุมวิทเมื่อวันก่อน กินแล้วก็คิดถึงเจ้านาย เพราะปลาปักเป้าฟูหงุไม่ได้มีขายให้เรากินบ่อยครั้งซะเมื่อไหร่ นานๆ จึงมีร้านอาหารญี่ปุ่นใจกล้า สั่งมาให้ท้าทาย.. อีชั้นกินเจ้าปลาปักเป้าฟูหงุอย่างไร ลองพิจารณาดูกันนะเจ้าค่ะ * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * | |||||
เมนูปลาปักเป้า จานแรก “ปลาปักเป้าซาซิมิ” เนื้อปลาแล่บางๆ ราวกับแผ่นกระดาษจิ้มกับน้ำซอสพอนสึ รสเปรี้ยวๆ เค็มๆ หวานๆ จานสอง “ปลาปักเป้าหม้อไฟ” สับเนื้อปลาปักเป้า เนื้อหนาๆ เอามาเคี่ยวกับน้ำซุปญี่ปุ่นมีผักเห็ดญี่ปุ่นต้มรวมมา จานสาม “ปลาปักเป้าย่างเกลือหรือทอด” คราวนี้ใช้ปลาติดกับก้างหรือหัวปลาฟูหงุ กินได้เนื้อได้หนัง จานท้าย “ข้าวต้มปลาปักเป้า” ใช้ปลาทั้งหัว ทั้งเนื้อ ทั้งกระดูกก้าง ต้มเคี่ยวกับข้าวญี่ปุ่น ใส่เหล้าสาเกเป็นจาน สุดท้ายให้ทั้งอร่อยทั้งอิ่ม * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * นี่ล่ะ..เจ้าค่ะ ที่อีชั้นอยากจะเรียนเชิญเจ้านาย เพราะลูกผู้ชาย ถ้ายังไม่เคยกินปลาฟูหงุเสี่ยงตาย คนญี่ปุ่นเขาว่ายังถือเป็นลูกผู้ชายไม่ได้ เมนูกล้าวัดใจสำหรับคนหาญ มีบ่อยครั้งซะเมื่อไหร่ แล้วก็มีให้แค่เดือนกุมภาพันธ์นี้เท่านั้น ...นี่คือรายการอาหารที่ท้าทายเจ้านาย ถ้าไม่กล้ากินก็อยู่บ้านกินปลาทูเข่งละห้าบาท..สิบบาทไปก็แล้วกันเจ้าค่ะ..เจ้านาย. * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * ห้องอาหารญี่ปุ่น “คิสโซะ” โรงแรม “เวสทิน แกรนด์ สุขุมวิท” เปิดบริการ 11.30 -14.00 น. และ 18.00-22.30 น. บุฟเฟ่ต์วันอาทิตย์ 11.30-14.30 น.โทรศัพท์ 0-2651-1000 ต่อ 6010 |