8 สัญญาณ...รับมือกับริ้วรอยบนใบหน้า

(ไทยโพสต์)
การเรียนรู้ถึงสัญญาณเตือนที่นำไปสู่ริ้วรอย และสาเหตุที่แท้จริงของรอยยับย่นบนใบหน้าของเรานั้นเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะบางครั้งคุณสาวๆ ทั้งหลายอาจมองข้ามเรื่องเล็กๆ น้อย ที่อาจส่งผลให้เกิดริ้วรอยหรือรอยตีนกาบนใบหน้า เช่น การยิ้มหรือการหัวเราะในขณะที่เรากำลังมีความสุข หรือการที่ต้องสัมผัสแสงแดดบ่อยๆ ในระหว่างขับรถนั้น สิ่งต่างๆ เหล่านี้นอกจากจะทำให้ใบหน้าของคุณหมองคล้ำแล้ว ยังปรากฏริ้วรอยบนใบหน้าได้อีกด้วย เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ โดยการพึ่งครีมบำรุงหรือการใช้เซรุ่ม เพื่อช่วยให้ผิวกลับมาอ่อนเยาว์ดังเดิมนั้นอาจเป็นได้ยาก ดังนั้นการเตรียมตัวป้องกันนั้น ถือเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้คุณสาวๆ ห่างไกลจากปัญหาริ้วรอยบนใบหน้าได้ไม่มากก็น้อย

1. แม้กระทั่งในรถของคุณ คุณยังสามารถเพิ่มความเสี่ยง การเกิดริ้วรอยบนใบหน้าได้จากแสงอาทิตย์ที่ส่องเข้ามา

หน้าต่างรถของคุณสามารถเคลื่อนย้าย และเปิดรับสีที่เป็นอันตรายจากดวงอาทิตย์ได้ ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดเพื่อให้แน่ใจว่าคุณกำลังป้องกันแสงแดดในขณะที่คุณ กำลังอยู่บนท้องถนน นอกจากใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารกันแดดอย่าง “broad-spectrum” ทุกวันแล้ว คุณอาจพิจารณาการติดกระจกกรองแสง เพื่อช่วยป้องกันรังสี UVA ด้วยเช่นกัน

2. ถ้าคุณต้องการรู้ว่าอีกนานไหมหรือเมื่อใดที่คุณจะลดรอยเหี่ยวย่น ให้มองไปที่คนในครอบครัวของคุณ

การเกิดริ้วรอยนั้นมีองค์ประกอบทางพันธุกรรมร่วมด้วย การมองหาพ่อแม่และปู่ย่าตายายของคุณ เป็นวิธีของการทำนายที่มีศักยภาพ ที่ช่วยเตือนในเรื่องของการเกิดริ้วรอย และลดความเหี่ยวย่นให้แก่ผิวกาย ผิวหน้า รวมถึงคอและบริเวณคางของคุณ พูดง่ายๆ ว่าเราได้เรียนรู้การดูแลผิวของเราให้ดียิ่งขึ้น จากบรรพบุรุษของเราเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวเหี่ยวย่นหรือแก่ก่อนวัย เหมือนดังเช่นปู่ย่าตายายนั่นเอง

3. การที่คุณชอบนอนหลับโดยหันไปด้านใดด้านหนึ่งนั้น จะก่อให้เกิดริ้วรอยที่ฝังลึกลงบนใบหน้าของคุณได้

ถ้าคุณเปลี่ยนตำแหน่งการนอน จะสามารถลดรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าของคุณได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันริ้วรอยที่อาจเกิดขึ้นกับใบหน้าของคุณ แนะนำให้ลองปรับวิธีการนอนหลับของคุณเสียใหม่

4. เส้นขมวดบริเวณคิ้ว เป็นสิ่งที่บอกให้รู้ว่าคุณอาจมีปัญหาเกี่ยวกับสายตา

แทนที่สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวที่บอกถึงผลกระทบที่มาจากแสงแดด แต่เส้นขมวดบริเวณคิ้วนั้นเป็นรอยย่นระหว่างตา ในความเป็นจริงแล้วคุณอาจจะมีหนี้ที่ค้างชำระสำหรับตรวจสอบตา สำหรับบางคนที่เพ่งสายตามากจนเกินไป อาจพบกับปัญหามีน้ำพุ่งออกมาจากลูกตา และขังอยู่ในบริเวณเบ้าตา ซึ่งเป็นสัญญาณมาจากกล้ามเนื้อที่อยู่บริเวณหน้าผาก พูดง่ายๆ ว่าอาการดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นระหว่างคิ้วของคุณนั่นเอง การทำเช่นนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีกติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้รอยยับย่นเหล่านี้ทวีความรุนแรงขึ้น เธอกล่าวต่อว่า ถ้าคุณแก้ไขปัญหาสายตาตั้งแต่แรก คุณจะสามารถลดลักษณะรอยขมวดหรือรอยย่นที่ปรากฏบริเวณร่องคิ้วให้เป็นเส้นตรง ได้

5. อาหารที่มีสีสดใสจะช่วยปัดเป่าริ้วรอยได้

ผักและผลไม้ อย่างเช่น ลาสเบอรี่ บลูเบอรี่ พริกแดงหยวก และผักโขมนั้นจะมีสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งสามารถช่วยให้ผิวของคุณดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยปกป้องผิวของคุณจากมลภาวะ ช่วยให้ผิวของคุณอ่อนนุ่นและคงความกระจ่างใสตลอดไป อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สนับสนุนหรือเป็นอาหารที่ดีทั้งต่อสุขภาพและหัวใจนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารที่มีวิตามินซีและวิตามินอีสูง ซึ่งพบได้ในถั่วเหลืองและชาเขียว ที่สำคัญอาหารเหล่านี้ยังเป็นประโยชน์กับผิวของคุณด้วย

6. ดื่มผงปูนไฮเดรทที่มีส่วนประกอบของน้ำเป็นหลัก สามารถช่วยลดริ้วรอยที่บริเวณร่องแก้มได้

ทุกคนควรที่จะรู้ไว้ว่านอกจากการจิบน้ำที่เป็นส่วนประกอบสำคัญ หรือเป็นโครงสร้างโมเลเกุลทางเคมีของผงปูนไฮเดรทประจำทุกวันแล้ว ก็ควรที่จะดื่มของเหลวชนิดอื่นเข้าไปสู่ร่างกายด้วย เพื่อช่วยทำให้ผิวของคุณนุ่มชุ่มชื่น เมื่อผิวของคุณเริ่มแห้งนั้น ก็มีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดริ้วรอยหมองคล้ำได้ นอกจากนี้ ยังเป็นตัวการที่นำมาสู่ริ้วรอยและความเหี่ยวย่น ขณะเดียวกัน น้ำจะเป็นตัวที่เก็บรวบรวมและขับสารพิษออกจากร่างกาย ซึ่งก็อาจจะส่งผลกระทบเชิงลบกับผิวของคุณ ดังนั้นคุณจึงควรดื่มน้ำเป็นประจำวันละ 6-8 แก้ว เพราะน้ำจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิว และที่สำคัญยังช่วยลดริ้วรอยบริเวณร่องแก้มได้อีกด้วย

7. เมื่อสิ่งที่ปรากฏให้เห็นบนใบหน้าของคุณ เป็นสิ่งที่มากกว่าริ้วรอย

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องของอายุหรือพันธุกรรม เพราะมันเป็นริ้วรอยแรกที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของคุณ หลังจากที่คุณแสดงสีหน้าซ้ำกันหลายๆ ครั้ง ริ้วรอยที่เกิดขึ้นบนใบหน้านั้นส่วนหนึ่งมาจากการหัวเราะด้วยเช่นกัน ซึ่งรอยตีนกานั้นจะอยู่ตรงกลางหน้าผาก แนวโน้มของการเกิดรอยตีนกานั้นจะเพิ่มมากขึ้น หากคุณแสดงออกทางสีหน้าในลักษณะซ้ำๆ กันมากขึ้น อย่างเช่น การทำหน้าบึ้งตึง การยิ้มหรือยกขึ้นกล้ามเนื้อหน้าผากขึ้นลง ในขณะที่คุณรู้สึกประหลาดใจ อย่างไรก็ตาม เมื่อใบหน้าของคุณเริ่มมีริ้วรอย มันก็จะมีคงอยู่ในลักษณะนั้นตลอดไป

8. กระตุ้นให้คอลลาเจนที่มีอยู่ใต้ผิวไปช่วยลดริ้วรอยที่ปรากฏอยู่บนใบหน้า

อย่างที่ทราบกันดีว่าคอลลาเจนนั้นมีคุณสมบัติที่สำคัญในการสร้างและเก็บกัก ความกระชับและความยืดหยุ่นให้กับผิวหนัง เมื่อคุณบังคับให้เซลล์ถูกใช้งานมากขึ้น ก็จะมีการผลิตคอลลาเจนเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้คอลลาเจนยังเป็นตัวที่สร้างความเต่งตึง และช่วยฟื้นฟูสภาพผิว รวมถึงช่วยลดความหย่อนคล้อยลงได้เช่นกัน ดร.ซาดิกส์ เผยให้ทราบว่า สำหรับโลชั่นที่มีส่วนผสมของวิตามินซี เช่น เป็ปไทด์ หรือกรดเอเอชเอ (เป็นกรดที่พบในผลไม้และนม ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยทำให้ผิวเนียนขึ้นดูสดใสขึ้น) รวมถึงเรตินอยด์ (มีคุณสมบัติในการช่วยฟื้นฟูสภาพผิวที่เสื่อมสภาพจากแสงแดด) ซึ่งสารที่กล่าวมาทั้งหมดนี้จะช่วยในการเพิ่มการหมุนเวียนของเซลล์ในร่างกาย และช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้ในบางจุด