นักวิจัยพบว่า คนที่ชอบใช้แท็บเล็ตคอมพิวเตอร์โดยวางบนตัก มักเกิดอาการปวดคอและปวดไหล่เพราะนั่งไม่ถูกท่า ทำให้ต้องก้มคอมากขณะมองหน้าจอ แนะให้วางเครื่องบนเคสที่มีมุมเงยสูง เพื่อจะได้ไม่ต้องก้มดูเป็นเวลานาน ๆ
รายงานที่ตีพิมพ์ในวารสาร Work : A Journal of Prevention, Assessment, and Rehabilitation ระบุว่า คณะสาธารณสุขศาสตร์ของฮาร์วาร์ด ร่วมกับไมโครซอฟท์ และโรงพยาบาลหญิงบริกแฮม ได้ทำการวิจัยพบว่า การวางแท็บเล็ตในมุมเอียงแนวตั้งโดยใช้เคส จะช่วยลดอาการปวดคอได้ โดย ดร.แจ็ก เดนเนอร์เลน จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด บอกว่า เวลาใช้แท็บเล็ต ผู้คนมักก้มคอมากกว่าตอนที่ใช้คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ซึ่งทำให้ปวดคอและไหล่
ทีมวิจัยได้ขอให้ผู้ใช้แท็บเล็ต 15 คนใช้ Apple iPad 2 และ Motorola Xoom ซึ่งแท็บเล็ตทั้งสองยี่ห้อนี้ต่างมีเคสที่สามารถปรับระดับองศาของความเอนได้หลายระดับ โดย Apple Smart Cover สามารถปรับได้ 150-730 องศา ขณะที่ Motorola Portfolio Case สามารถปรับได้ 450-630 องศา
อาสาสมัครได้ถูกจัดให้นั่งในท่าต่าง ๆ กัน 4 แบบ คือ Lap-Hand ซึ่งวางแท็บเล็ตบนหน้าตักของผู้ใช้, Lap-Case ซึ่งวางแท็บเล็ตบนหน้าตักของผู้ใช้ แต่วางบนเคสซึ่งตั้งในมุมเอนต่ำ ๆ, Table-Case ซึ่งวางแท็บเล็ตบนโต๊ะ โดยตั้งบนเคสที่มีมุมเอนต่ำ, และ Tablet-Movie ซึ่งวางแท็บเล็ตบนโต๊ะ โดยตั้งบนเคสที่มีมุมเอนสูง
ในการทดลองนี้ผู้ใช้ได้ใช้งานทั่วไป เช่น ท่องอินเทอร์เน็ต, อ่านข้อความ, เล่นเกม, ตอบอีเมลและดูหนัง โดยระบบวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของร่างกายแบบสามมิติ จะวัดระยะห่างระหว่างศีรษะ มุมก้มของลำคอ และหน้าจอคอมพิวเตอร์
ปรากฏว่า ในการทดสอบการใช้แท็บเล็ตทั้งสองยี่ห้อ พบว่า ผู้ใช้มีการก้มศีรษะและคอแตกต่างกันมาก โดยผู้ใช้ iPad 2 มีการก้มคอมากกว่าเมื่อวางบนเคส ซึ่งเป็นเพราะดีไซน์ของเคสนั่นเอง ขณะที่การวางแท็บเล็ตในท่าของ Table-Movie นับว่ามีการก้มคอที่น้อยที่สุด ดังนั้นผู้ใช้ควรวางแท็บเล็ตบนเคสที่ตั้งในมุมชันแทนการวางบนหน้าตัก
อย่างไรก็ดี การวางเครื่องในมุมชันมาก ๆ นั้นอาจส่งผลเสียต่อแขนและข้อมือเมื่อใช้งานพิมพ์ตัวอักษรเป็นเวลานาน ๆ ได้เช่นกัน ซึ่งต้องมีการศึกษากันต่อไปถึงผลของท่วงท่าในการใช้แท็บเล็ตที่มีต่อแขนและข้อมือ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก