มะเร็งระยะแพร่กระจาย (Metastatic cancer) หมายถึง มะเร็งที่มีการแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นในร่างกาย
รวมทั้งต่อมน้ำเหลืองในบริเวณที่ไกลจากมะเร็งปฐมภูมิ ซึ่งเซลล์มะเร็งมักไปยังส่วนอื่นทางกระแสเลือด หรือทางเดิน
น้ำเหลืองที่มีอยู่ทั่วร่างกาย โดยมะเร็งที่สามารถแพร่กระจายได้นั้น จำเป็นต้องมีคุณสมบัติสำคัญคือ การออกจากก้อน
มะเร็งปฐมภูมิและเข้าสู่กระแสเลือดหรือทางเดินน้ำเหลืองเพื่อไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย จากนั้นเซลล์มะเร็งจะแนบ
ติดกับผนังของหลอดเลือดหรือท่อน้ำเหลืองเพื่อผ่านไปยังอวัยวะอื่น ซึ่งเป็นที่ที่มะเร็งจะเจริญเติบโตขึ้นได้ในที่สุดจึงได้
มีความพยายามคิดค้นวิธีที่จะยับยั้งกระบวนการเติบโตและแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งเหล่านี้ขึ้น เช่น การผลิตยาเพื่อ
ป้องกันการกระจายของเซลล์มะเร็งเข้าสู่กระแสเลือด และยาเพื่อป้องกันการสร้างเส้นเลือดใหม่ที่เข้าไปเลี้ยงเซลล์มะเร็ง
เป็นต้น คุณสมบัติที่จำเป็นอีกอย่างหนึ่งสำหรับเซลล์มะเร็งได้แก่การหลบหลีกจากการถูกทำลายโดยระบบภูมิคุ้มกันของ
ร่างกาย ดังนั้นจะเห็นได้ว่าเซลล์มะเร็งได้มีการปรับตัวอย่างมากมายเพื่อการอยู่รอดในร่างกาย จึงมักเป็นเหตุให้การ
รักษามะเร็งในระยะนี้เป็นไปด้วยความยากลำบาก ความเชื่อที่ว่าหากงดอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งแล้วจะทำให้เซลล์มะเร็ง
ไม่เจริญเติบโตเป็นความเท็จ เพราะเซลล์มะเร็งมีความสามารถพิเศษที่จะเติบโตได้ในสภาวะแวดล้อมที่จำกัดอยู่แล้ว
ดังนั้นผู้ป่วยควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ตลอดจนทำจิตใจให้แจ่มใส
อวัยวะที่มักพบการแพร่กระจายของมะเร็ง ได้แก่ ปอด กระดูก ตับ และสมอง ซึ่งมะเร็งแต่ละชนิดมักมีลักษณะ
ของการแพร่กระจายแตกต่างกันออกไป จากการศึกษาพบว่ามีสารพันธุกรรมหรือสารบางอย่างบนผิวของเซลล์มะเร็ง
ที่เป็นตัวกำหนดว่าเซลล์มะเร็งนั้นจะแพร่กระจายไปยังอวัยวะใด เช่น มะเร็งปอดมักแพร่กระจายไปที่สมองหรือกระดูก
มะเร็งลำไส้ใหญ่มักแพร่กระจายไปที่ตับ มะเร็งต่อมลูกหมากมักแพร่กระจายไปที่กระดูก และมะเร็งเต้านมมักแพร่
กระจายไปที่กระดูก ปอด ตับ และสมอง เป็นต้น ในปัจจุบันจึงได้มีการวิจัยจำนวนมากมุ่งเน้นไปที่การยับยั้งการเปลี่ยน
แปลงของสารพันธุกรรมดังกล่าวเพื่อป้องการการเจริญเติบโตและแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง สำหรับมะเร็งเม็ดเลือด
เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาว (Leukemia, Multiple myeloma) และมะเร็งต่อมน้ำเหลือง (Lymphoma) นั้น เนื่องจาก
เม็ดเลือดสามารถเดินทางไปได้ทั่วร่างกาย จึงสามารถพบเซลล์มะเร็งได้ทุกที่ แต่มะเร็งกลุ่มนี้ก็ไม่จัดเป็นมะเร็งระยะ
แพร่กระจายแต่อย่างใด
การเรียกชื่อของมะเร็งที่มีการแพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่นๆนั้น จะเรียกตามชื่อของมะเร็งปฐมภูมิ หรือมะเร็งที่
เป็นจุดเริ่มต้น เช่น มะเร็งต่อมลูกหมากที่มีการแพร่กระจายไปยังกระดูก ก็ยังคงเรียกว่าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากไม่ใช่
มะเร็งกระดูก เนื่องจากลักษณะของเซลล์เป็นเซลล์จากต่อมลูกหมาก ในทำนองเดียวกัน มะเร็งเต้านมที่มีการแพร่
กระจายไปยังปอด ก็เรียกว่ามะเร็งเต้านม ไม่ใช่มะเร็งปอด เป็นต้น ซึ่งการแยกระหว่างมะเร็งปฐมภูมิกับมะเร็งที่แพร่
กระจายมานั้น ทำได้โดยการตัดชิ้นเนื้อที่สงสัยไปตรวจทางพยาธิวิทยา เพื่อให้ทราบว่าต้นกำเนิดของมะเร็งมาจาก
อวัยวะใด มะเร็งระยะแพร่กระจายอาจตรวจพบพร้อมกัน หรือหลังจากมะเร็งปฐมภูมินานเท่าไรก็ได้ และในบางครั้งก็
อาจตรวจพบมะเร็งที่แพร่กระจายไปยังอวัยวะต่างๆ โดยไม่ทราบว่าอวัยวะใดเป็นต้นกำเนิดที่เรียกว่า Cancer of
Unknown Origin
ผู้ป่วยบางรายที่เป็นมะเร็งระยะแพร่กระจายอาจไม่แสดงอาการใดๆ แต่พบโดยบังเอิญจากการตรวจภาพถ่าย
รังสีหรือการตรวจเลือด ในกรณีที่มีอาการจากมะเร็งระยะแพร่กระจาย อาการมักขึ้นอยู่กับขนาดและตำแหน่งที่มีการ
แพร่กระจาย เช่น มะเร็งที่มีการแพร่กระจายไปยังกระดูกมักทำให้มีอาการปวดและกระดูกหัก มะเร็งที่มีการแพร่
กระจายไปยังสมองอาจทำให้มีอาการปวดศีรษะ ชัก หรือมึนงง มะเร็งที่มีการแพร่กระจายไปยังปอดอาจทำให้มีอาการ
หายใจลำบาก มะเร็งที่มีการแพร่กระจายไปยังตับ อาจทำให้มีอาการตัวเหลือง ตาเหลือง ท้องบวมได้ เป็นต้น
การรักษามะเร็งระยะแพร่กระจายสามารถทำได้หลายวิธี เช่น การรักษาด้วยยาเคมีบำบัด การฉายแสง การรักษา
ทางชีวภาพ การรักษาด้วยฮอร์โมน การผ่าตัด และการผ่าตัดโดยใช้ความเย็น (Cryosurgery) หรือใช้หลายวิธีร่วมกัน
ขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็ง ขนาด และตำแหน่งที่มีการแพร่กระจาย นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงอายุ สภาพร่างกาย การรักษา
ที่เคยได้รับ และความเหมาะสมของผู้ป่วยแต่ละรายด้วย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมการเจริญเติบโตของมะเร็ง และ
เพื่อบรรเทาอาการอันเนื่องมาจากมะเร็ง โดยให้เกิดผลข้างเคียงจากการรักษาน้อยที่สุด เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย
http://coriolus8cancer.gagto.com