| บรรยากาศภายในร้าน LEE Cafe’ @ Number 1 |
| | “ตระเวนกิน” ได้พานักกินไปลองลิ้มอาหารจีนมาก็หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น อาหารจีนกวางตุ้ง อาหารจีนเสฉวน อาหารจีนไหหลำ อาหารจีนแต้จิ๋ว มาในมื้อนี้เราก็จะขอพาไปลองลิ้มอาหารจีนอีกสไตล์หนึ่งที่เรียกว่า อาหารจีนสไตล์เพอรานากัน ซึ่งมีความชวนกิน แถมยังหากินได้ยากด้วย
|
| บรรยากาศห้องส่วนตัว |
| | โดยเราขอพามาที่ร้าน “LEE Cafe’ @ Number 1” (ลีคาเฟ่แอทนัมเบอร์วัน) ซึ่งที่นี่มีอาหารจีนสไตล์เพอรานากัน คือ เป็นการนำเอาอาหารจีนมาผสมผสานกับอาหารของชาวมลายู หรือที่รู้จักกันดีในอาหารสไตล์เพอรานากัน ให้นักกินชาวไทยได้ลิ้มลองอาหารจีนแปลกใหม่กันบ้าง ซึ่งทุก ๆ เมนูจะมีกลิ่นอายการปรุงรสชาติของอาหารแบบจีนมาเลย์ ซึ่งนิยมกันมากในแถบแหลมมลายู และทางร้านก็ยังได้พัฒนารสชาติให้กลมกล่อมถูกปากนักกินคนไทยมากขึ้นอีกด้วย
|
| เนื้อสันย่างยี่หร่าสูตรเพอรานากัน |
| | สำหรับเมนูอาหารจีนสไตล์เพอรานากันของที่นี่มีหลายเมนูให้ลองชิม มื้อนี้ขอนำเสนอเมนูจานเด่นที่ไม่ควรพลาดสั่งมากินกัน เริ่มจากจานแรก เนื้อสันย่างยี่หร่าสูตรเพอรานากัน (140 บาท) ใครชอบกินเนื้อเห็นจะต้องถูกปาก เพราะทางร้านนำเนื้อสันมาหมักกับเครื่องสมุนไพรไทยอย่างยี่หร่า และขมิ้น หมักนานข้ามวันจนเข้าเนื้อ ก่อนจะนำมากริลล์ และราดด้วยน้ำหมักสูตรพิเศษ โรยหน้าด้วยต้นหอม กินเนื้อสันเคี้ยวนุ่มหนึบหนับปาก ได้รสชาติของเครื่องเทศที่เข้มข้นถึงเครื่องเอามากๆ
|
| ปลาแซลมอนย่างคั่วพริกเซี่ยงไฮ้ |
| | จานต่อมาขอแนะนำ ปลาแซลมอนย่างคั่วพริกเซี่ยงไฮ้ (180 บาท) ที่มีคุณค่าทางโภชนาการที่ดี เพราะเลือกใช้ปลาแซลมอนชิ้นโตสดๆ นำมากริลล์ให้สุก แล้วก็มีพริกเซี่ยงไฮ้สูตรพิเศษของมิสเตอร์ลี ที่นำมาคั่วและปรุงรสชาติขึ้นมาโดยเฉพาะ นำมาราดบนเนื้อปลา ลิ้มรสแล้วขอยกนิ้วให้ในความสดหวานของเนื้อปลาแซลมอนนุ่มลิ้น ละมุนรสชาติเข้ากับพริกเซี่ยงไฮ้หอมๆ
|
| ปลากะพงเพอรานากันหมักเครื่องเทศ |
| | ปลากะพงเพอรานากันหมักเครื่องเทศ (290 บาท) เป็นอีกหนึ่งเมนูปลาที่น่ากิน เพราะจะได้ลิ้มรสชาติเนื้อปลากะพงนุ่มหวาน ไม่ได้กลิ่นคาวปลาเลย เพราะว่าปลานั้นถูกหมักด้วยเครื่องสมุนไพรไทยหลายอย่าง แล้วนำมาย่าง แถมมีน้ำสลัดรสเด็ด และผัดสดให้กินเคียงกันด้วย
|
| สเต็กเนื้อสันผัดต้นกระเทียม |
| | นอกจากเมนูเพอรานากันที่ชวนกินทั้งหลายแล้ว ที่นี่ก็ยังมีเมนูอาหารจีนอย่างอื่นที่น่าลองลิ้มอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น สเต็กเนื้อสันผัดต้นกระเทียม (140 บาท) เสิร์ฟมาร้อนๆ บนกระทะจานร้อน เป็นเนื้อสันหมักกับเครื่องเทศจีน แล้วนำมาผัดกับต้นกระเทียม ต้นหอม แล้วปรุงรสชาติตามสูตรเด็ด ชิมเนื้อสเต็กเคี้ยวหนึบนุ่มปาก ได้รสชาติต้นกระเทียมหอมๆ ที่กินเข้ากันดี
|
| ขนมผักกาด |
| | ขนมผักกาด (70 บาท) เป็นอีกหนึ่งเมนูจานเด่นขายดีประจำร้าน ทางร้านทำตัวขนมผักกาดเองที่เน้นใช้หัวไชเท้าเยอะมากๆ นำมาปรุงรสชาติตามสูตรเฉพาะนึ่งจนสุกแล้วก็นำมาทอด พร้อมกับผัดใส่ถั่วงอก ไข่ และต้นหอม เสิร์ฟมาร้อนๆ กินขนมผักกาดเนื้อนุ่มนิ่มหวานหอม ได้รสชาติของหัวไชเท้าแท้ๆ ที่ละมุนลิ้น กินคู่กับซอสพริกถูกปากมากๆ
|
| ขนมปังสังขยา |
| | และยังมี ขนมปังสังขยาใบเตย (35 บาท) เป็นเมนูของหวานกินล้างปากที่ชวนกินมาก สังขยาของที่นี่เป็นสังขยาใบเตยสีเขียวอ่อนหอมๆ เสิร์ฟมาบนเตาอุ่นๆ อุณหภูมิคงที่เก็บความร้อนตลอดเวลาที่กิน และมีขนมปังนึ่งสูตรเด็ดของมิสเตอร์ลี มาให้จิ้มกินคู่กับสังขยาอุ่นๆ หอมหวานรสใบเตยโดนใจปากจริงๆ
|
| ด้านหน้าร้าน LEE Cafe’ @ Number 1 |
| | นอกจากนี้ลีคาเฟ่ฯยังมีเมนูแนะนำอื่นๆ ที่ชวนลองลิ้มอีกหลายจาน อาทิ เย็นตาโฟหม้อไฟ (65 บาท) บะหมี่ปลากะพง (170 บาท) บะหมี่กุ้งลายเสือ (140 บาท) กุ้ยฉ่ายทอด (ชิ้นละ 25 บาท) ติ่มซำรวม (125 บาท) ฯลฯ รวมถึงยังมีเมนูพิเศษ อาหารชุด Celebration 2011 ไว้ให้เลือกตามความชอบใจถึง 2 ชุด
|
| บรรยากาศโต๊ะนั่งแบบสบายๆ |
| | ชุดที่ 1 สำหรับ 5 คน ในชุดมีสุดยอดเมนูอาหารมาให้เลือกกว่า 30 เมนู และเลือกได้ถึง 9 เมนูราคา 1,102 บาท ชุดที่ 2 สำหรับ 10 คน เลือกอาหารได้ 15 เมนู ราคา 2,011 บาท เอาเป็นว่าหากใครอยากจะลองลิ้มอาหารจีนเลิศรสสไตล์เพอรานากันดูบ้าง ก็เชิญชวนมาลิ้มลองให้สมใจปากกันได้ที่ร้าน “LEE Cafe’ @ Number 1” ที่ชวนนั่งแบบสบายๆ ท่ามกลางบรรยากาศร้านที่ตกแต่งแบบเปิดโล่งแนวสไตล์ชิโนโปรตุกีสที่สวยงาม
|