ออกลายอร่อยที่ “เสือนอนกิน”

บรรยากาศชวนนั่งสบายๆ ของร้าน “เสือนอนกิน”
       ปีนี้เป็น “ปีเสือ” หลายๆ คนมักเกรงกลัวว่าจะเป็นปีเสือดุ “ตระเวนกิน” ว่าปีนี้เสือจะดุหรือไม่ดุ จะเป็นปีที่ดีมีความสุขมากน้อยแค่ไหน มันก็ขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตของตัวเราเองมากกว่า ที่จะต้องดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท มีสติ และใช้จ่ายแบบพอเพียง เพียงเท่านี้ก็จะมีแต่สิ่งที่ดีและมีความสุขกันแล้ว
      
       และเพื่อเป็นการเพิ่มความสุขให้กับชีวิตมากยิ่งขึ้น บวกกับเพิ่มความอิ่มให้กับท้องไปในตัวด้วย ในมื้อนี้เราจะขอพามิตรรรักนักกินไปตระเวนกินอาหารอร่อยๆ กันยังร้านอาหารน่ารักๆ ตั้งแต่ชื่อร้านที่มีชื่อเก๋ๆ ว่า “เสือนอนกิน” ซึ่งที่นี้มีทั้งอาหารดีรสเด็ด และบรรยากาศสบายๆ ราวกับเหมือนมานั่งกินข้าวอยู่ที่บ้านเพื่อน
โต๊ะเก้าอี้โซฟาเก๋ๆ มีให้เลือกนั่ง
       ร้าน “เสือนอนกิน” แห่งนี้เกิดขึ้นมาจากกลุ่มเพื่อนที่เป็นหุ้นส่วนทุกคนต่างเกิดปีเสือเหมือน กันหมด จึงได้นำเอามาตั้งเป็นชื่อร้าน และต่างมีความต้องการให้เป็นร้านอาหารที่มีบรรยากาศสบายๆ จึงได้นำเอาบ้านสีขาวหลังงามมาดัดแปลงเป็นร้านอาหาร ที่มีบรรยากาศให้เลือกนั่งถึง 2 โซนด้วยกัน คือด้านในตัวบ้านเป็นห้องแอร์นั่งเย็นสบาย ภายในมีโต๊ะเก้าอี้โซฟาแบบหลายหลากรูปแบบให้เลือนั่งตามใจชอบ แต่ถ้าใครชอบบรรยากาศแบบชิลล์ ชิลล์ รับลมธรรมชาติเย็นๆ แนะนำว่าเป็นโซนเทอเรซด้านนอก และมุมสวนเล็กๆ ที่จัดตกแต่งอย่างน่ารัก มีโต๊ะเก้าอี้โซฟาดีไซน์เก๋ๆ ให้เลือกนั่งแบบหลากหลายมุม แถมยังมีเพลงเพราะๆ เปิดให้ฟังด้วย และถ้าเป็นวันพุธ-วันเสาร์ ตั้งแต่ 21.00 น. เป็นต้นไป จะมีนักดนตรีมาเล่นเพลงสไตล์อะคูสติกให้ฟังแบบเพลินเพลินจำเริญใจ
      
       เมื่อได้สัมผัสกับบรรยากาศที่ดี ดนตรีที่ไพเราะแล้ว ก็ย่อมจะขาดอาหารที่เลิศรสไม่ได้ อาหารของที่นี่เน้นเป็นอาหารไทย ที่ทางเจ้าของร้านได้คัดสรรเอาแต่ของอร่อยๆ จากหลากหลายที่มารวมไว้เป็นเมนูจานเด็ดแบบมากมาย แถมยังปรุงอาหารแบบไม่ใส่ผงชูรสด้วย
เกี๊ยวปลาท่าฉลอม
       สำหรับเมนูจานเด่นที่เราได้ลองลิ้มแล้วโดนใจปาก และอยากแนะนำให้ลองชิมกันก็มีอยู่หลายเมนูด้วยกัน เมนูแรกเป็นของกินเล่นเบาๆ ท้องขายดีประจำร้าน นั่นคือ เกี๊ยวปลาท่าฉลอม (60 บาท) เป็นเกี๊ยวปลาชื่อดังจากท่าฉลอง ที่ใช้เนื้อปลามาบดทำเหมือนแผ่นเกี๊ยว และทางร้านนำมาทอดจนเหลืองกรอบชวนกิน หยิบชิ้นเกี๊ยวปลาส่งเข้าปากเคี้ยวกร้วมกรุบกรอบถูกปากดี มาพร้อมกับน้ำจิ้มหวานๆ เผ็ดๆ สูตรเด็ดของทางร้าน
หมึกย่างน้ำจิ้มถั่วตัด
       จานถัดมาใครที่ชอบกินหมึกเป็นต้องถูกใจ หมึกย่างน้ำจิ้มถั่วตัด (180 บาท) หมึกศอกสดๆ ที่สั่งตรงจากอ่าวประจวบฯ นำมาย่างบนเตาถ่านจนหมึกสุกได้ที่ แล้วหั่นมาเป็นชิ้นๆ เสิร์ฟพร้อมน้ำซีฟู้ดผสมกับถั่วตัดเพื่อให้ได้รสชาติที่หวานขึ้น กินหมึกย่างเนื้อนุ่มแน่นเคี้ยวหนึบปาก หวานสดไม่คาว กินเข้ากันกับน้ำจิ้มรสเด็ดออกหวานๆ เผ็ดนิดหน่อย
ปลาทูโป๊ะทอดราดพริกตำ
       จากนั้นมากินปลากันบ้างดีกว่า ชื่อเมนูว่า ปลาทูโป๊ะทอดราดพริกตำ (140 บาท) เป็นปลาทูสดจากแม่กลองนำมาทอด แล้วทางร้านก็นำพริกขี้หนู กระเทียม ผักชีมาโขลกรวมกันปรุงรสและนำมาราดบนตัวปลาทู ลิ้มรสชาติปลาทูทอดเนื้อแน่นมันๆ เข้ากันดีกับเครื่องพริกที่ราดมาออกรสเผ็ดลิ้นถูกปากดีแท้
ไก่บ้านตะนาวศรีรวนสมุนไพร
       ต่อมาขอนำเสนอเมนู ไก่บ้านตะนาวศรีรวนสมุนไพร (140 บาท) ทางร้านเลือกใช้ไก่บ้านตะนาวศรี นำมาสับและรวนกับสมุนไพรไทยหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น ข่า ตระไคร้ หอมแดง ใบมะกรูด และปรุงรสตามสูตรเด็ดเฉพาะของทางร้าน ชิมไก่ได้กลิ่นหอมของสมุนไพรอ่อนๆ ขึ้นจมูก พร้อมกับได้รสชาติของเครื่องสมุนไพรที่ปรุงได้กลมกล่อมเข้ากับเนื้อไก่นุ่มๆ
พริกยำไข่ยางมะตูม
       เมนูของอร่อยยังถูกเสิร์ฟมาอย่างต่อเนื่อง มากันที่เมนูนี้ พริกยำไข่ยางมะตูม(80บาท) เป็นไข่ต้มยางมะตูมที่ราดมาด้วยพริกยำสูตรเด็ดที่ทำมาจากพริกหนุ่มเผา แล้วปรุงกับน้ำยำสูตรเฉพาะของทางร้าน และใส่หมูสับกับกุ้งลวกด้วย กินไข่ต้มยางมะตูมเข้ากับรสชาติของพริกยำที่ออกรสกลมกล่อมถูกปากโดนใจนัก เชียว
แฮมซี่โครงอ่อนทอดพร้อมสลัดและมันบด
       แฮมซี่โครงอ่อนทอดพร้อมสลัดและมันบด (250บาท) เมนูนี้ก็ชวนกินไม่แพ้กัน เป็นแฮมซี่โครงอ่อนรสเด็ดที่ทางร้านเลือกสรรมาอย่างดีนำมาทอดให้สุก แล้วหั่นมาเป็นชิ้นๆ เสิร์ฟพร้อมกับมันบด และสลัดผัก ชิมแฮมซี่โครงอ่อนได้กลิ่นรมควันหอมๆ เนื้อแฮมนุ่มออกรสเค็มนิดๆ
ต้มส้มปลากระบอก
       มาส่งท้ายด้วยเมนูน้ำๆ ซดล่องคอ อย่างต้มส้มปลากระบอก (160 บาท) ทางร้านนำปลากะบอกเนื้อแน่นเอามาต้มส้มปรุงรสใส่กระเทียมเจียว ขิง น้ำมะขามเปียก น้ำตาลมะพร้าว ซดน้ำแกงต้มส้มร้อนๆ รสชาติเข้มข้นออกเปรี้ยวๆ หวานๆ เนื้อปลากระบอกก็นุ่มและไม่เหม็นคาวเลย
บรรยกาาศโต๊ะนั่งด้านใน
       และนี่ก็คือหลายเมนูเด็ดที่ชวนลองลิ้ม แต่ถ้าใครคิดว่ายังไม่อิ่มพอก็ขอเมนูมากางเปิดสั่งเพิ่มเติมอีกได้ เพราะว่ายังมีเมนูอื่นๆ ที่น่าสั่งมากินอีกมากมาย อาทิ ปลาสีกุนย่างเกลือ(140 บาท) กุ้งตะกาดอบเกลือ (160 บาท) เนื้อริบอายย่างจิ้มแจ่ว (180 บาท) ส้มตำปู (80 บาท) กะหล่ำผัดน้ำปลา (80บาท) ลอดช่องไทยวัดเจษฯ (40 บาท) และที่นี่ยังมีเครื่องดื่มแอลกฮอลล์ทุกอย่าง และค็อกเทลบริการด้วย เอาเป็นว่าสำหรับใครที่กำลังมองหาร้านอาหารที่ชวนนั่งด้วยบรรยากาศอันแสน สบาย พร้อมทั้งมีอาหารรสเลิศให้ได้อิ่มหนำสำราญใจ ขอแนะนำว่าร้าน “เสือนอนกิน” เป็นอีกหนึ่งร้านที่น่าสนใจไม่น้อยเลย