อร่อยหรู ดูวิวเจ้าพระยา ที่ “จักรพงษ์ไพรเวทไดนิ่ง”

บรรยากาศชวนกินที่จักรพงษ์ไพรเวทไดนิ่ง
       หากใครเคยผ่านไปที่ถนนมหาราช บริเวณท่าเตียน คงจะเคยสังเกตเห็น "บ้านจักรพงษ์" หรือ “วังจักรพงษ์” ที่ร่มรื่นไปด้วยแมกไม้ มีสถาปัตยกรรมอิทธิพลตะวันตกอันสวยงาม ซึ่งเมื่ออดีตสถานที่แห่งนี้เป็นวังของ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานารถ เพื่อใช้เป็นเรือนรับรองในโอกาสที่ต้องเสด็จมาร่วมงานพิธีต่างๆ ที่พระบรมราชวัง รวมถึงใช้เป็นสถานที่ปิกนิก ต่อมาเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนารถได้ประทานให้เป็นวังของ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์
โต๊ะนั่งริมแม่น้ำชมวิวเจ้าพระยารับลมเย็นๆ
       แต่ ณ ปัจจุบันนี้วังจักรพงษ์เป็นที่พำนักและดูแลโดย หม่อมราชวงศ์นริศรา จักรพงษ์ และได้มีการเปิดวังให้เป็นบูติกโฮเต็ลที่มีชื่อว่า “จักรพงษ์ วิลล่า” อีกด้วย และอีกหนึ่งความพิเศษที่จะขอกล่าวถึงวังจักรพงษ์แห่งนี้ก็คือ “จักรพงษ์ไพรเวทไดนิ่ง” สถานที่นั่งรับประทานอาหารในบรรยากาศแบบไพรเวท มีความเป็นส่วนตัวสุดๆ และมีความโรแมนติกสูง เพราะอยู่ติดกับริมแม่น้ำเจ้าพระยา ได้ชมพระอาทิตย์ตกยามเย็น มองเห็นวิวที่สวยงามอย่างวัดอรุณ
อิ่มกับอาหารแบบเป็นเซ็ต
       สำหรับผู้ที่จะมากินอาหารดื่มด่ำบรรยากาศที่นี่นั้น ต้องโทรศัพท์จองก่อนล่วงหน้า เพราะด้วยเนื้อที่จำกัดรองรับแขกได้จำนวนไม่เกิน 30 คน ในบรรยากาศศาลาริมน้ำตกแต่งอย่างหรูหรา ภายในห้องแอร์เย็นฉ่ำมีโต๊ะอาหารจัดตกแต่งอย่างสวยงาม นอกจากนี้ยังมีระเบียงด้านนอกที่สามารถจัดให้เป็นโต๊ะนั่งทานอาหารได้ ซึ่งจะได้สัมผัสกับสายลมเย็นๆ มองชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาอันงดงาม
หลนกุ้ง
       ในส่วนอาหารของที่นี่ เป็นอาหารไทยแท้โบราณต้นตำรับวังจักรพงษ์ มีเชฟฝีมือดีที่สืบทอดอาหารมาจากต้นตำรับแต่ก็มีบางเมนูที่มีการปรับรสชาติ ให้ทันสมัยขึ้น โดยพิถีพิถันและเน้นเป็นพิเศษในเรื่องการคัดสรรวัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพมาปรุง อาหาร มีการจัดแบบเป็นเซตอาหารให้เลือกอยู่ 4 เซตด้วยกัน โดยในแต่ละเซตก็จะมีอาหารที่หลากหลายให้กินกัน ซึ่งราคาอาหารของที่นี่อยู่ที่เซตละ 2,000 บาท/คน รวมเครื่องดื่มซอฟต์ดริงก์ แต่ถ้าใครอยากดื่มไวน์ที่นี่ก็มีไวน์ไว้บริการให้เลือกดื่มกันอย่างหลากหลายจากทั่วโลก
ผัดคะน้าน้ำมันหอย
       ว่าแล้วก็มาดูเมนูอาหารเซตพิเศษที่อยากจะนำเสนอกัน เริ่มจากจะมีเมนูเรียกน้ำย่อยก่อน เป็นอาหารที่แล้วแต่เชฟจะทำออกมา และจะหมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เช่น ถุงทอง ปอเปี๊ยะ ข้าวตังหน้าตั้ง ช่อม่วง แล้วจึงเสิร์ฟมาด้วยเมนูหนักท้องอย่างเมนูแรกเป็น หลนกุ้ง หน้าตาน่ากินมากๆ เป็นหลนกุ้งที่มีส่วนผสมของกุ้งสับ หอมแดง พริกชี้ฟ้าเขียว เหลือง แดง ปรุงกับน้ำมะขาม น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา น้ำกะทิ ปรุงรสชาติรวมกัน ออกมาเป็นหลนกุ้งรสกลมกล่อม หวาน เปรี้ยว เค็ม มัน กินแนมกับผักสดสารพัด ทั้งขมิ้นขาว แตงกวา ถั่วพู มะเขือ ยอดผักบุ้ง
ลาบปลาดุกทอดกรอบ
       ตามมาด้วยเมนูผัดผักอย่าง ผัดคะน้าน้ำมันหอย ผักคะน้าฮ่องกงยอดอ่อนก้านอวบเอามาลวก และผ่านน้ำเย็นเพื่อรักษาความสดและกรอบของผักไว้ แล้วจึงนำมาผัดกับกระเทียม ใส่น้ำมันหอย และเห็ดหอมสด กินผักคะน้าเคี้ยวกรอบกรุบผักหวานไม่ขมปาก ได้รสชาติน้ำมันหอยรสกลมกล่อมลิ้น
      
       จากนั้นมาชิมเมนูเด็ดชื่อว่า ลาบปลาดุกทอดกรอบ เป็นการนำปลาดุกที่แล่เอาก้างออกแล้วมาหมักและทอดจนกรอบ แล้วจึงนำมาปรุงกับเครื่องลาบรสเด็ด ที่คั่วข้าวคั่วเอง และพริกป่นก็ป่นเอง กินแล้วลาบปลาดุกเนื้อกรุบกรอบถึงเครื่องรสลาบเข้มข้น
ฉู่ฉี่กุ้งแม่น้ำ
       เมนูจานเด่นต่อมานำเสนอ ฉู่ฉี่กุ้งแม่น้ำ กุ้งแม่น้ำสดๆ ตัวโตเอามาทอด และทำเครื่องฉู่ฉี่มาราดบนตังกุ้ง ราดด้วยหัวกะทิอีกที ชิมแล้วกุ้งเนื้อแน่นสดหวาน เคล้ากับรสชาติเครื่องฉู่ฉี่ที่เข้มข้นถึงเครื่องแกงกำลังดี
      
       ต่อมาเป็นเมนูซดน้ำร้อนให้ชุ่มคออย่าง ต้มข่าทะเล เป็นต้มข่าใส่กะทิแบบครบเครื่อง และใส่พวกอาหารทะเลอย่างหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ กุ้งกุลาตัวโต ปลาหมึก เนื้อปลากะพง กินแล้วซดน้ำต้มข่าร้อนๆ หอม เปรี้ยว หวาน เค็ม มัน กินเข้ากันกับอาหารทะเลสดๆ
ต้มข่าทะเล
       และอีกหนึ่งเมนูเด็ดที่ขาดไม่ได้คือ มัสมั่นเนื้อ ที่ถ้าใครชอบกินเนื้อเป็นโดนใจ เพราะเป็นเนื้อสันในเกรดเอมาหมักกับผงเครื่องแกง เครื่องเทศไทยและกะทิ ต้มตุ๋นนานกว่า 2 ชม. แล้วจึงนำเนื้อมาเคี่ยวกับเครื่องแกงมัสมั่นสูตรเด็ด ได้ออกมาเป็นมัสมั่นเนื้อที่หอมกลิ่นเครื่องแกง รสชาติเข้มข้นถึงเครื่องแกง เนื้อเคี้ยวนุ่มนิ่มปาก
      
       ส่งท้ายด้วยเมนูของหวาน ซึ่งแล้วแต่ว่าเชฟจะนำเสนออะไร อาจจะเป็นข้าวเหนียวมะม่วง หรือขนมไทยต่างๆ แล้วก็ยังมีผลไม้ตามฤดูกาลให้กินปิดท้ายมื้ออิ่มกันด้วย
มัสมั่นเนื้อ
       โดยนี่คือ 1 เซตในจำนวนอาหารที่มีทั้งหมด 4 เซ็ต ส่วนเซตอื่นๆ จะมีอาหารอะไรที่ชวนกินบ้างนั้น เห็นทีว่าคงจะต้องเดินทางมาพิสูจน์รสชาติกันเอาเอง จะได้มาอิ่มเอมกับอาหารไทยรสดี ในบรรยากาศริมแม่น้ำจ้ำพระยาที่มีความเป็นส่วนตัวสูงที่ “จักรพงษ์ไพรเวทไดนิ่ง” แห่งนี้
      
       
*    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    * 
       
      
       "จักรพงษ์ไพรเวทไดนิ่ง"
ตั้งอยู่ที่ 396/1 ถ.มหาราช ท่าเตียน พระนคร กทม. การเดินทางถ้ามาจากท่าพระจันทร์วิ่งตรงมาที่ถ.มหาราช ผ่านท่าเตียน เลยวัดโพธิ์มาจะเห็นวังจักรพงษ์อยู่ทางขวามือ อยู่ติดกับ โรงเรียนราชินี สามารถนำรถเข้าไปจอดได้ เปิดทุกวัน เวลา 18.00-23.00 น. ถ้าจะมาทานอาหารต้องโทร.มาจองล่วงหน้าที่เบอร์ 0-2622-1900,0-2224-6686, 0-2225-0139 และที่นี่ยังรับจัดงานเลี้ยง ให้เช้าสถานที่ และมีห้องพักบริการด้วย