| โต๊ะนั่งแบบเคาน์เตอร์ที่เห็นเชฟปรุงอาหารไปด้วย |
| | เอ่ยถึง “วาซาบิ” ขึ้นมา แน่นอนว่าก็ต้องนึกถึงอาหารญี่ปุ่น เพราะวาซาบิจัดว่าเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของอาหารญี่ปุ่น วาซาบิเป็นเครื่องเทศที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศญี่ปุ่น มีรสชาติเผ็ดขึ้นจมูกเพียงชั่วครู่ และมีสรรพคุณเป็นยาและใช้ถอนพิษได้ด้วย จึงทำให้วาซาบิกลายเป็นวัตถุดิบที่ขาดไม่ได้ในอาหารญี่ปุ่น ที่ “ตระเวนกิน” พูดถึงวาซาบิขึ้นมา ก็เพราะว่าในมื้อนี้จะขอพาทุกคนไปลิ้มรสวาซาบิกัน และเป็นวาซาบิสดๆ ซึ่งหากินได้ยากในเมืองไทย แต่ว่ามีให้ลองลิ้มกันที่ร้าน “ทามารูยะ ฮอนเท็น” (Tamaruya Honten) ซึ่งมี มร.ฮิโรยูกิ โมชิซูกิ เป็นประธานบริษัทฯ ผู้เป็นเจ้าของไร่ วาซาบิที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดชิซึโอกะ ตั้งอยู่บริเวณเชิงภูเขาไฟฟูจิ ประเทศญี่ปุ่น และได้นำเอาวาซาบิสดๆ จากไร่ที่ญี่ปุ่นมาให้นักกินชาวไทยได้ลองลิ้มกินคู่กับอาหารสไตล์ปิ้งย่าง แบบญี่ปุ่นขนานแท้
|
| บรรยากาศโต๊ะนั่งแบบสบายๆ ของร้าน “ทามารูยะ ฮอนเท็น” |
| | ร้าน “ทามารูยะ ฮอนเท็น” มีความหมายถึง “ผลิตผลแห่งความอุดมสมบูรณ์” เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีบรรยากาศชวนนั่งภายในร้านตกแต่งสไตล์โมเดิร์นเจแป นนีส ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย มีโต๊ะนั่งหลายโซนให้เลือกนั่งตามใจชอบ มีโซนด้านหน้าร้านที่เป็นโต๊ะนั่งแบบเคาน์เตอร์ที่จะได้เพลิดเพลินไปกับการ ดูเชฟทำอาหาร โซนโต๊ะนั่งโซฟาแบบสบายๆ โซนโต๊ะนั่งด้านในติดกระจกชมวิวได้ หรือจะเป็นห้องวีไอพีแบบส่วนตัวก็มีบริการ
|
| เชฟแล่เนื้อแบบสดๆ เสิร์ฟแบบจานต่อจาน |
| | สำหรับอาหารปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นของที่นี่ ทางร้านเน้นคัดสรรเรื่องคุณภาพของวัตถุดิบทั้งเนื้อสัตว์ และผักต่างๆ ต้องได้มาตรฐาน และมีคุณภาพที่ดี สำหรับเนื้อนั้นทางร้านมีทั้งเนื้อนำเข้าจากญี่ปุ่น เนื้อออสเตรเลีย และเนื้อไทย–เฟรนช์ ที่ผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน และเนื้อของที่นี่จะไม่มีการแช่แข็งมาก่อน จะใช้เนื้อสดๆ แล้วเชฟจะแล่เนื้อสไลด์เป็นชิ้นๆ ให้มีขนาดหนาพอประมาณ แล่เสิร์ฟแบบจานต่อจาน และเมนูผักเน้นใช้เฉพาะผักออร์แกนิกเท่านั้น ส่วนอุปกรณ์ย่าง อย่างเตานั้นทางร้านทำเตาเป็นพิเศษมีระบบดูดควันที่ดีไม่ส่งกลิ่นติดตัว และตะแกรงย่างก็นำเข้าจากญี่ปุ่นออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้เกิดความร้อนส่ง ผ่านกระจายได้อย่างทั่วถึง ซึ่งจะช่วยดึงเอารสชาติความหวาน หอม อร่อยของเนื้อออกมาได้อย่างเต็มที่ แล้วใช้ถ่านไม้อย่างดี
|
| วาซาบิสดนำมาให้ฝนเอง |
| | และส่วนของวาซาบิสดที่บอกไว้นั้น เมื่อสั่งอาหารแล้วทางร้านจะเสิร์ฟชุดวาซาบิสดมาให้ฟรีทันที ในชุดมีวาซาบิที่หั่นเป็นท่อนๆ มาพร้อมกับที่ฝนวาซาบิที่สั่งมาจากญี่ปุ่นทำจากหนังปลาฉลามนำมาแปรรูปติดบน พื้นผิวของไม้ ซึ่งการฝนวาซาบิมีเทคนิคนิดหน่อยคือ ฝนวาซาบิเป็นวงกลม ยิ่งฝนละเอียดมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งได้รสชาติเผ็ด และกลิ่นหอมของวาซาบิมากขึ้นเท่านั้น แล้วยังมีวิธีการกินวาซาบิกับเนื้อย่างแนะนำด้วย คือ เตรียมโชยุและวาซาบิที่ฝนแล้วแยกกัน (ไม่ควรนำมาผสมกัน เพราะวาซาบิจะละลายไปกับโชยุได้ง่าย ซึ่งจะทำให้รสชาติที่แท้จริงของวาซาบิผิดเพี้ยนไป) ย่างเนื้อให้พอมีน้ำมันออกมา และไม่สุกจนเกินไป จากนั้นจิ้มโชยุโดยให้สัมผัสกับด้านล่างของเนื้อย่าง ใส่วาซาบิบนอีกด้านหนึ่งของเนื้อย่าง เพื่อไม่ให้วาซาบิสัมผัสกับโชยุ เพียงเท่านี้ก็จะได้สัมผัสกับกลิ่นหอมของวาซาบิและรสชาติดั้งเดิมของเนื้อ ย่างอย่างสมบูรณ์แบบ
|
| Premium Rosu |
| | ถึงเวลาลงมือสั่งเมนูอาหารมากินกันดีกว่า ที่นี่มีเนื้อให้เลือกกินสารพัดตามใจชอบ แต่ที่อยากแนะนำว่ามาแล้วไม่ควรพลาดสั่งมากินกันให้ได้ก็มี Premium Rosu (290 บาท++) เป็นเนื้อไทย-เฟรนช์ ส่วนของเนื้อสันในพิเศษ ที่คัดมาอย่างดีสไลด์มาเป็นชิ้นๆ เวลาย่างแล้วกินคู่กับวาซาบิสดและน้ำจิ้ม ขอบอกว่าเนื้อเคี้ยวนุ่มหนึบหนับปากได้รสชาติความหวานของเนื้อสดๆ และหอมกลิ่นวาซาบิขึ้นจมูกนิดๆ ออกรสเผ็ดหน่อยๆ สุดยอดมากๆ เลย
|
| Premium Kalbi |
| | จานต่อมา Premium Kalbi (290 บาท++) เป็นเนื้อสันนอกพิเศษที่นำเข้าจากออสเตรเลีย สไลด์มาเป็นชิ้นพอดี ย่างเนื้อสุกพอประมาณกินคู่กับวาซาบิสดและน้ำจิ้มของทางร้าน สัมผัสได้ถึงความหวานนุ่มเคี้ยวนุ่มปากของเนื้อที่สดจริงๆ ผสานกลมกลื่นเข้ากับรสชาติของวาซาบิที่เผ็ดลิ้นและมีกลิ่นขึ้นจมูก
|
| Samugyopusaru |
| | หากใครไม่กินเนื้อก็มี Samugyopusaru (150 บาท++) เป็นหมูสามชั้นสไลด์ เสิร์ฟมากับผักกาดหอม กระเทียมโทน หอมญี่ปุ่นปรุงรส พริกขี้หนู และน้ำจิ้มสูตรพิเศษ เวลากินก็ย่างหมูให้สุกแล้วนำมาห่อกินกับผักและเครื่องเคียงต่างๆ ใส่น้ำจิ้มลงไป ห่อกินเหมือยเมี่ยง เคี้ยวกร้วมเข้าปากตำโตได้รสชาติของหมูที่นุ่มหอม ผสานกับรสชาติน้ำจิ้มที่หอมหวานมันถูกปากจริงๆ
|
| Vegetables และ Assortment of Kimchee |
| | แล้วก็ควรสั่ง Vegetables (90 บาท++) ผักหลายอย่างมีทั้ง หอมญี่ปุ่น พริกยักษ์ เห็ดหอม เห็ดเอริงงิ ฟักทอง แครอท กะหล่ำปลี มะเขือม่วง หอมใหญ่ มาย่างกินแกล้มกับเนื้อย่าง และยังมี Assortment of Kimchee (100 บาท++) เป็นกิมจิรวม ที่มีทั้งแตงกวา หัวไชเท้า และผักกาดขาว ที่ทางร้านดองเองรสชาติดี
|
| Ishiyaki Bibimbab in Stone Pot |
| | หรือถ้าอยากจะกินอาหารญี่ปุ่นอย่างอื่นบ้างทางร้านก็มีให้กิน อย่าง Ishiyaki Bibimbab in Stone Pot (180 บาท++) เป็นข้าวหน้ายำผักรวมกระทะร้อน ที่เวลากินต้องคลุกเครื่องทุกอย่างให้เข้ากันมีผักรวมกิมจิ ถั่วงอก ผักกวางตุ้ง หมูสับ ข้าวญี่ปุ่น และไข่แดงดิบ กินแล้วถูกปากรสชาติกลมกล่อม
|
| Custard Pudding Homemade |
| | และก็ยังมีของหวานให้กินล้างปากด้วย Custard Pudding Homemade (80 บาท++) เป็นพุดดิ้งคัสตารด์ที่ทางร้านทำเอง หอมหวานนุ่มลื่นอร่อยถูกใจ
|
| อร่อยแต็มที่กับปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น |
| | นอกจากนี้ก็ยังมีเมนูอื่นๆ ให้สั่งมากินแบบอิ่มเต็มที่กันด้วย อาทิ Yukke เนื้อแดงคัดพิเศษ (160 บาท++) Liver Sashimi ตับสด (120 บาท++) Thick Cuts of Beef Tongue ลิ้นวัวหั่นหนา (400 บาท++) Seafood ซีฟู้ด (280 บาท++) Japanese Salad สลัด ผักสไตล์ญี่ปุ่น (100 บาท++) และอีกหลากหลายเมนู ที่รอให้ทุกคนมาปิ้งๆ ย่างๆ กับเนื้ออร่อยๆ พร้อมกับลิ้มรสวาซาบิสดแท้ๆ ที่ส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่น กันได้ที่ร้าน “ทามารูยะ ฮอนเท็น”
|
| เนื้อย่างร้อนๆ บนเตาชวนกิน |
| | |