| บรรยากาศภายในห้องอาหารบานบุรี |
| | อยู่กรุงเทพฯ มีแต่เรื่องร้อนๆ ให้วุ่ยวายใจ ไหนจะอากาศที่แสนจะร้อนอบอ้าว การเมืองที่ร้อนระอุและรุนแรง ทำเอา "ตระเวนกิน" ต้องขอแอบหนีความร้อนในเมืองกรุง ขอไปเที่ยวผ่อนคลายให้หายร้อนกายร้อนใจยังจังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีทั้งทะเลสวยๆ และบ้านเมืองที่งดงามไปด้วยทัศนียภาพที่สวยงามชวนให้มาเที่ยว การมาเที่ยวภูเก็ตของ "ตระเวนกิน" ในครั้งนี้ได้รับทั้ง ความสนุกสนานและเพลิดเพลินใจจากการได้ไปเที่ยวยังสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง ของภูเก็ตมากมาย และก็ยังได้รับการพักผ่อนที่แสนจะสบาย เพราะว่าเราได้ไปพักที่โรงแรมดวงจิตต์ รีสอร์ท แอนด์ สปา ที่ตั้งอยู่ที่หาดป่าตอง ซึ่งขอบอกว่าเป็นโรงแรมที่สงบและร่มรื่นไปด้วยธรรมชาติ ทำให้ได้พักผ่อนอย่างผ่อนคลายสบายใจ แถมยังสบายท้องถูกใจกับอาหารการกิน
|
| สุบิน โพรงทอง เชฟประจำห้องอาหารบานบุรี |
| | เพราะที่นี่มีห้องอาหารประจำโรงแรมที่ชื่อว่า "ห้องอาหารบานบุรี" เป็นห้องอาหารขนาดใหญ่ มีส่วนโต๊ะนั่งด้านในห้องแอร์นั่งสบาย และส่วนเทอเรสด้านนอกให้นั่งรับลมเย็นๆ จากธรรมชาติ สำหรับอาหารของที่นี่จะบริการอาหารแบบอินเตอร์เนชั่นแนลอันหลากหลาย แต่อาหารที่ถูกปากและถูกใจเราเป็นอย่างมาก ก็เห็นจะไม่พ้นอาหารไทยปักษ์ใต้พื้นถิ่น ที่บางเมนูนั้นหากินได้ยาก แต่ว่ามาที่นี่รับรองว่าจะได้ลิ้มรสอย่างแน่นอน เพราะว่ามีคุณสุบิน โพรงทอง เป็นเชฟประจำห้องอาหารบานบุรี ที่มีฝีมือดี สามารถปรุงอาหารได้หลากหลายและมีรสชาติดี เป็นอะไรที่ถูกปากและโดนใจ "ตระเวนกิน" มากๆ จนต้องขอนำมาเสนอให้ได้รับรู้กัน
|
| น้ำพริกกุ้งเสียบ |
| | สำหรับอาหารใต้ท้องถิ่นที่เราได้ลองลิ้มในมื้อนั้นก็มีอยู่หลายเมนู ด้วยกัน ซึ่งเชฟสุบินได้แนะนำให้ชิมอยู่หลายอย่าง เริ่มจากเมนูแรกเป็นเมนูเด็ดประจำห้องอาหารที่ถ้าแล้วไม่ควรพลาดสั่งด้วย ประการทั้งปวง นั่นคือ น้ำพริกกุ้งเสียบ (150 บาท) เป็นน้ำพริกสูตรเด็ดเฉพาะที่เชฟสุบินปรุงขึ้นมาเอง นำเอากุ้งเสียบมาตำหยาบๆ กับกะปิอย่างดี พริกขี้หนู หอมแดง และปรุงรสชาติเน้นรสจัดสไตล์คนใต้ขนานแท้ และโรยหน้าน้ำพริกด้วยกุ้งเสียบตัวโต ชิมแล้วขอบอกว่ารสชาติจัดจ้านเผ็ดลิ้นเอาการ กินแกล้มกับผักสดหลายๆ อย่างที่เสิร์ฟเคียงมา หรอยจังฮู้จริงๆ
|
| หมูฮ้อง |
| | กินน้ำพริกจนเผ็ดลิ้นแล้ว ต้องขอคั่นความเผ็ดด้วยเมนูนี้ หมูฮ้อง (200บาท) เป็นหมูสามชั้นหั่นชิ้นหนาหน่อย นำมาผัดกับเครื่องเทศที่มีรากผักชี กระเทียม พริกไทยนำมาโขลกรวมกัน และผัดปรุงรสชาติใส่ซีอิ้ว น้ำตาลทราย ผัดเคี่ยวนานกว่า 1 ชม. จนเครื่องทุกอย่างซึมถึงเนื้อในหมู ได้หมูฮ้องเนื้อนุ่มนิ่มออกรสหวานๆ กินแก้เผ็ดได้ดี
|
| ผัดผักเหมียงกุ้งเสียบ |
| | จานถัดมาเป็นอีกหนึ้งเมนูไม่เผ็ด คือ ผัดผักเหมียงกุ้งเสียบ (160 บาท) ผักเหมียง หรือผักเหลียง เป็นพักพื้นบ้านที่ชาวใต้นิยมกินกัน ซึ่งเชฟสุบินนำเอาเฉพาะใบผักเหมียงที่ไม่แก่เกินไป นำมาผัดกับกระเทียม น้ำมันหอย ใส่หัวกะทิลงไปด้วยเพื่อให้มีรสชาติมันๆ และผักเหมียงจะแววสวยน่ากิน พร้อมกับใส่กุ้งเสียบตัวโตลงมาผัดด้วย ลิ้มรสชาติผัดผักเหมียงเคี้ยวมันไม่ขมปาก ได้รสชาติที่กลมกล่อมถูกลิ้นดี
|
| แกงเลียง |
| | เมนูต่อมามาชิมเมนูน้ำๆ กันบ้าง เป็น แกงเลียง (160 บาท) เป็นสไตล์เฉพาะของที่นี่ที่ใส่ไข่ไก่มาด้วยทั้งฟอง และเป็นแกงเลียงแบบน้ำน้อย ใส่เห็ดฟาง ฟักทอง บวบ ใบแมงลัก ตำลึง ส่วนน้ำแกงเลียงจะตำกะปิกับหอมแดงให้เป็นเครื่องแกงเลียงที่มีความเข้มข้น และส่งกลิ่นหอม ซดน้ำแกงร้อนๆ รสชาติกลมกล่อมกินแล้วดีต่อสุขภาพเพราะเต็มไปด้วยผักมากมาย
|
| แกงส้มปลาแซลมอน |
| | ส่วนอีกหนึ่งเมนูแกงที่เป็นการประยุกต์อาหารใต้ได้อย่างลงตัวนั่นก็คือ แกงส้มปลาแซลมอน (300 บาท) เป็นแกงส้ม(แกงเหลือง)รสจัดจ้านแบบคนใต้ เข้มข้นน้ำน้อย เครื่องแกงส้มนั้นเชฟสุบินโขลกเองกับมือ มีส่วนผสมของพริก ขมิ้น กระเทียม พริกไทยดำ และส้มควายตากแห้งที่ใส่เพื่อให้รสเปรี้ยว และยังใส่ปลาแซลมอนชิ้นใหญ่มาด้วย ลิ้มรสชาติแกงส้มโดนใจปากมากๆ ตรงที่น้ำแกงส้มเข้มข้นถึงเครื่องแกงออกรสเปรี้ยวเผ็ดลิ้น ส่วนเนื้อปลาแซลมอนก็หวานนุ่มชุ่มรสน้ำแกง กินคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ขอบอกว่าหรอยแรง
|
| โอเอ๋ว |
| | เมนูสุดท้ายมาปิดมื้ออิ่มล้างปากกันด้วยของหวานที่มีชื่อว่า โอเอ๋ว (60 บาท) เป็นของหวานที่มีให้กินเฉพาะที่ภูเก็ต ลักษณะเหมือนน้ำแข็งใส โอเอ๋วเป็นของหวานทำมาจากวุ้นของเมล็ดโอเอ๋ว (คล้ายเมล็ดแมงลัก) ที่แช่น้ำและนำมาผสมกับกล้วย ออกมาเป็นวุ้นใสๆ แล้วก็ ใส่ถั่วแดง น้ำเชื่อม และน้ำแข็งป่น กินแล้ววุ้นเคี้ยวนุ่มลื่นคอ หวานเย็นสดชื่นปาก กินแล้วช่วยคลายร้อนได้ดี
|
| โต๊ะนั่งด้านนอกรับลม |
| | ทั้งหมดที่ได้ชิมมานี้ถือว่าเป็นเมนูเด่นจานเด็ดที่ชวนกินเอามากๆ แต่ก็ยังมีอาหารจานเด่นอีกหลายอย่างที่น่าลิ้มลอง อาทิ ไก่ผัดเม็ดมะม่วง (180 บาท) ผัดไท (160 บาท) เปปเปอร์สเต็ก (600 บาท) ไทเกอร์พอนบาร์บีคิว (660 บาท) และอีกหลากหลายอาหารที่ชวนกิน ซึ่งทางห้องบานบุรี โรงแรมดวงจิตต์ รีสอร์ท แอนด์ สปา นั้นยินดีมอบความอิ่ม พร้อมความอร่อย ให้กับนักกินทุกคนที่แวะเวียนมา * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * ห้องอาหารบานบุรี ตั้งอยู่ภายในโรงแรม ดวงจิตต์ รีสอร์ท แอนด์ สปา เลขที่ 18 ถ.ประชานุเคราะห์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 18.30-23.00 น. ครัวปิด 22.00 น. ตอนเช้ามีบุฟเฟต์อินเตอร์เนชั่นแนล บริการ เวลา 06.30-10.00 น. ทางห้องอาหารรับจัดงานเลี้ยงต่างๆ ด้วย โทร. 0-7634-0778 ถึง 9 |