โดย เอมอร คชเสนี | 13 ธันวาคม 2552 11:53 น. | |
หากเรากินอาหารให้เหมาะกับฤดูกาลแล้ว อาหารนั้นก็จะยิ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพนะคะ ตัวอย่างเช่น สมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อนอันที่จริงโดยทั่วไปก็กินกันได้ทุกฤดู แต่ก็เหมาะอย่างยิ่งที่จะกินในช่วงฤดูหนาว ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น สมุนไพรฤทธิ์ร้อนมีหลายชนิด เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ กระชาย กะเพรา โหระพา พริก พริกไทย ฯลฯ แต่ที่จะกล่าวถึงในวันนี้ ก็คือ “ขิง” ค่ะ ขิงเป็นสมุนไพรที่เรารู้จักกันดีและใช้กันมานาน สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายอย่าง เช่น ไก่ผัดขิง ปลานึ่ง ปลาต้มส้ม โจ๊กใส่ขิง เมี่ยงคำ เต้าฮวย บัวลอยน้ำขิง หรือหากใครชอบน้ำผลไม้ปั่น ลองเพิ่มรสชาติด้วยขิงก็หอมอร่อยดีค่ะ สรรพคุณของขิง ตำรายาไทยมีการนำขิงมาใช้ประโยชน์แทบทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นต้น ใบ ดอก ราก ผล แต่ส่วนมากที่นำมาใช้กันก็คือ เหง้าขิง ซึ่งนิยมใช้เหง้าแก่สด เพราะขิงยิ่งแก่จะยิ่งมีรสเผ็ดร้อน มีกลิ่นหอม และมีใยอาหารมาก นอกจากขิงจะช่วยขับเหงื่อ ไล่ความเย็น ทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นแล้ว ยังมีสรรพคุณอื่นๆ อีกมากมาย ได้แก่ ช่วยขับลม แก้ท้องอืด จุกเสียด แน่นเฟ้อ คลื่นไส้ อาเจียน เมารถเมาเรือ บรรเทาอาการไอ ขับเสมหะ บรรเทาอาการท้องร่วง ท้องเสีย บำรุงน้ำนม ช่วยย่อยอาหาร และช่วยเจริญอาหาร นอกจากนี้ผู้ที่เป็นหวัดหรือปวดศีรษะ กินขิงสดๆ จะช่วยได้มาก | ||||
ในประเทศอินเดียใช้ขิงในการบำบัดรักษาสุขภาพมานานกว่า 2,000 ปีแล้ว โดยอาศัยสารสำคัญที่ออกฤทธิ์ช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ บางตำราก็ระบุว่ามารดาที่ให้นมบุตรหากได้กินขิง สารสำคัญจากขิงสามารถผ่านไปยังน้ำนม ช่วยทำให้ทารกไม่มีอาการปวดท้องได้อีกด้วย วิธีการนำมาใช้ บรรเทาอาการจุกเสียด ท้องอืดเฟ้อ คลื่นไส้อาเจียน เมารถเมาเรือ : นำขิงแก่สดประมาณ 2-3 เหง้ามาทุบพอแตก แล้วนำไปต้มกับน้ำ บรรเทาอาการหวัด : นำขิงแก่ขนาดประมาณหัวแม่มือ ทุบให้แตก ต้มกับน้ำ 1 แก้ว ใช้ไฟอ่อนๆ ต้มให้เดือดนาน 5 นาที แล้วเติมน้ำเล็กน้อย ดื่มขณะยังอุ่น 3 เวลา เช้า-กลางวัน-เย็น หรือนำขิงแก่มาปอกเปลือก ฝานเป็นชิ้นบางๆ แล้วนำไปตากในที่ร่มประมาณ 2 วันจนแห้ง แล้วนำขิงแห้ง 3 กรัมต้มกับน้ำ 1 แก้วจนเดือดนาน 3 นาที ดื่มบรรเทาอาการหวัด หรือจะใช้ขิงแก่ 2-3 เหง้า นำมาทุบให้ละเอียดต้มกับน้ำอาบเพื่อขับเหงื่อ ลดอาการไข้เนื่องจากหวัด บรรเทาอาการไอ ขับเสมหะ : นำขิงสดมาตำ คั้นน้ำให้ได้ประมาณครึ่งถ้วย ผสมน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา ต้มกับน้ำ 2 ถ้วย ดื่มวันละ 3 ครั้ง หรือใช้ขิงสดฝนกับมะนาว เติมเกลือเล็กน้อย ใช้กวาดคอหรือจิบบ่อยๆ บรรเทาอาการท้องเสีย ท้องร่วง : ใช้ขิงแห้งชงกับน้ำอุ่น ดื่มวันละครั้ง น้ำขิงจะช่วยให้การอักเสบที่เกิดจากพิษของเชื้อโรคลดลง และช่วยขับเชื้อโรค บรรเทาอาการปวดประจำเดือนในช่วงก่อนหรือระหว่างมีประจำเดือน : นำขิงแก่แห้งมาต้มกับน้ำ ดื่มบ่อยๆ รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก : ตำขิงสดให้ละเอียดแล้วนำกากมาพอกที่แผล บรรเทาอาการอักเสบเป็นหนอง กำจัดกลิ่นรักแร้ : นำเหง้าขิงแก่มาทุบ คั้นเอาแต่น้ำขิง ทารักแร้เป็นประจำจะช่วยกำจัดกลิ่นได้ | ||||
การใช้น้ำสกัดจากขิงที่เข้มข้นมากๆ จะให้ผลในทางตรงข้าม คือจะไประงับการบีบตัวของลำไส้ ดัง นั้นไม่ควรดื่มน้ำสกัดจากขิงที่เข้มข้นมากเกินไป เพราะจะไม่ให้ผลในการรักษาตามที่ต้องการ และเนื่องจากขิงมีฤทธิ์ร้อน หากกินมากเกินไป อาจทำให้แสบคอ เจ็บคอ และร่างกายร้อนจนเกินไป นอกจากขิงแล้ว ก็อย่าลืมสมุนไพรฤทธิ์ร้อนตัวอื่นๆ ด้วยนะคะ จะช่วยให้ร่างกายของคุณอบอุ่นขึ้น กระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต หากป่วยไข้ไม่สบาย ก็จะช่วยบรรเทาอาการให้หายเร็วขึ้น นอกจากนี้ ฤดูนี้ยังเหมาะที่จะรับประทานอาหารรสเปรี้ยวและรสขม เช่น ต้มยำ ยำต่างๆ แกงส้มดอกแค แกงขี้เหล็ก สะเดาน้ำปลาหวาน ซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันและบรรเทาอาการหวัดได้แล้ว ยังช่วยให้เจริญอาหารอีกด้วยค่ะ ติดตามฟังรายการ “Happy & Healthy” ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11.00-12.00 น. ทางคลื่นของประชาชน คนนำปัญญา FM 97.75 MHz และ www.managerradio.com |