ชี้อุณหภูมิแปซิฟิกต้นตอนกครึ่งหมื่น-โลมาเกือบพันตายเกลื่อนชายฝั่งเปรู


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 พฤษภาคม 2555 02:10 น.


       เอเอฟพี - รัฐบาลเปรูเผยเมื่อวันพุธ (9) ว่านกกว่า 5,000 ตัว ส่วนใหญ่เป็นนกกระทุงและโลมาเกือบ 900 ตัวที่พบตายเกลื่อนตามแถบชายฝั่งทางเหนือของประเทศ มีความเป็นไปได้ที่อาจมีสาเหตุมาจากระดับอุณหภูมิที่สูงขึ้นของน้ำใน มหาสมุทรแปซิฟิก
     
       เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ชายหาดต่างๆ ทางเหนือของเปรูถูกประกาศให้เป็นเขตห้ามเข้า ขณะที่เหล่า
       นักวิทยาศาสตร์เร่งดำเนินการสรุปว่าอะไรคือสาเหตุของปรากฏการณ์แปลก ประหลาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นกรณีที่อาจเกิดจากเครื่องจักรขนาดใหญ่ ซึ่งองค์กรเอกชนไม่แสวงหาผลกำไรกล่าวโทษโครงการสำรวจหาแหล่งน้ำมันในทะเล
     
       อย่างไรก็ตาม ทาง กาเบรียล กวิจานเดรีย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมของเปรู โต้แย้งว่าน้ำที่อุ่นขึ้นน่าจะเป็นสาเหตุของโลมาเกยตื้นและนกตายมากกว่า เนื่องจากมันก่อผลกระทบต่อแหล่งอาหารของสัตว์เหล่านี้
     
       เขาบอกว่าแม้ผลชันสูตรโลมา 877 ตัวที่เกยตื้นตามชายฝั่งยังไม่แล้วเสร็จ แต่เบื้องต้นพบว่าการปนเปื้อนโลหะหนักหรือติดเชื้อแบคทีเรียไม่เกี่ยวข้อง กับการตายของสัตว์เหล่านั้น

       กวิจานเดรีย บอกต่อว่ามีความเป็นไปได้ที่ปรากฏการณ์นี้จะแผ่ลามไปยังพื้นที่ชายฝั่งอื่นๆ และผลก็คืออาจพบนกและสัตว์ทะเลอื่นๆ ตายมากกว่านี้
     
       ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขของเปรูได้ประกาศเตือนและเรียกร้องให้ประชาชนอยู่ห่างจาก ชายหาดต่างๆ ทั่วเมืองลิมาและชายฝั่งทางเหนือของประเทศจนกว่าจะทราบสาเหตุการเสียชีวิต ของฝูงโลมา
     
       ก่อนหน้านี้องค์กรเอกชนไม่แสวงหาผลกำไร ORCA กล่าวโทษการตายของโลมาว่าเกิดจากการทดสอบคลื่นสั่นสะเทือนเพื่อหาแหล่ง น้ำมันในพื้นที่ ซึ่งจะก่อเสียงใต้น้ำที่สามารถทำร้ายโลมาได้
     
       อย่างไรก็ตาม คาร์ลอส ยาเพน ตัวแทนของกลุ่มเผยในวันพุธ (9) ว่าจากการตรวจสอบซากโลมา 30 ตัวพบว่ามีสภาพกระดูกหูแตกและอวัยวะบางส่วนได้รับความเสียหายสอดคล้องกับ สัตว์ที่ป่วยเป็นโรคลดความกด
       (เมาความกดอากาศ)
     
       ด้าน อับราฮัม เลวี ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอากาศบอกกับเอเอฟพีเมื่อวันอังคาร (8) ว่าอุณหภูมิที่อุ่นขึ้นของน้ำ
       ในมหาสมุทรแปซิฟิกสืบเนื่องจากปรากฏการณ์เอลนิโญ น่าจะเป็นต้นตอการตายของโลมาและนกตามชายฝั่ง