|
||
นักวิจัยศึกษาจากเด็กสวีเดน 877,000 คน โดยเปรียบเทียบผลการเรียนขณะเป็นวัยรุ่นกับคะแนน Apgar และสุขภาพหลังคลอด
การทดสอบ Apgar เป็นการตรวจสุขภาพของทารกแรกเกิดเพื่อพิจารณาว่า ทารกต้องการการดูแลจากแพทย์มากน้อยแค่ไหน โดยมีคะแนน 1-10
นักวิจัยพบความเชื่อมโยงระหว่างคะแนน Apgar ที่ต่ำกว่า 7 กับความบกพร่องในการรับรู้เมื่อทารกโตขึ้น ซึ่งนักวิจัยเชื่อว่า การทำความเข้าใจความเชื่อมโยงนี้อาจทำให้ได้ข้อมูลเชิงลึกว่าปัญหาใดที่เป็น ต้นเหตุของความบกพร่องดังกล่าว
ดร.แอนเดรีย สจ๊วร์ต สูติแพทย์จากโรงพยาบาลเซนทรัลในสวีเดน ระบุว่าคะแนน Apgar ไม่ได้เป็นปัจจัยทำให้ความสามารถในการรับรู้ลดต่ำ แต่ปัญหามาจากสิ่งที่ทำให้คะแนนนี้ต่ำ อาทิ การได้รับโปรตีน การขาดอากาศหายใจ การใช้ยาของมารดาขณะตั้งครรภ์ ฯลฯ ที่อาจมีผลต่อการทำงานของสมองทารกในอนาคต
การทดสอบ Apgar กระทำเมื่อทารกคลอดออกมา 1-5 นาที โดยการประเมินอัตราการเต้นของหัวใจ การหายใจ ความตึงตัวของกล้ามเนื้อ สีผิว และการตอบสนองต่อการกระตุ้น แต่ละส่วนมีคะแนน 2 คะแนน คะแนนสูงกว่า 8 ถือว่าเป็นสัญญาณของสุขภาพที่ดี
งานวิจัยชิ้นนี้พบว่า เด็กที่มีคะแนน Apgar ต่ำกว่า 7 มีแนวโน้มต้องเข้าเรียนโรงเรียนพิเศษ 2 เท่า เนื่องจากความบกพร่องในการรับรู้หรือปัญหาอื่นๆ
อย่างไรก็ดี นักวิจัยสังเกตว่ามีทารกเพียง 1 ใน 44 ที่มีคะแนน Apgar ต่ำที่ต้องการการศึกษาพิเศษ ดังนั้น แม่ที่มีลูกมีคะแนนนี้ต่ำจึงไม่จำเป็นต้องกังวลมากเกินไป
คะแนน Apgar พัฒนาโดยดร.เวอร์จิเนีย แอปการ์ ในปี 1952 เพื่อพิจารณาว่าทารกแรกเกิดจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือในการหายใจหรือไม่ นับจากนั้น มีการศึกษาการทดสอบนี้เพื่อค้นหานัยทางสุขภาพระยะยาว
แม้การศึกษานี้ที่อยู่ในวารสารออบสเตทริกส์ แอนด์ ไกเนโคโลจี้ฉบับเดือนปัจจุบัน อาจไม่ได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงแนวทางการรักษาพยาบาลปัจจุบัน แต่นับได้ว่าเป็นประโยชน์ในแง่การศึกษาปัญหาอย่างใกล้ชิดขึ้นเกี่ยวกับปัญหา ที่อาจมีผลต่อความบกพร่องด้านความสามารถในการรับรู้เมื่อทารกโตขึ้น