ประกันสังคมดันผู้ประกันตนรักษาได้ทุก รพ.สังกัด สธ.


สุขภาพ

รพ.สังกัดสธ.อ้าแขนรับ ผู้ประกันตนประกันสังคม (ไทยโพสต์)

          สธ.จับ มือประกันสังคมเดินหน้าผลักดันให้ผู้ประกันตนสามารถเข้ารับการ รักษาได้ทุกโรงพยาบาลสังกัด สธ. เชื่อไม่มีปัญหากระจุกตัวในโรงพยาบาลใหญ่ แต่ขอเวลาทำงาน 1 เดือน

          นพ.ไพ จิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยหลังการประชุมร่วมกับ นพ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เพื่อเตรียมความพร้อมในการให้ผู้ประกันตน ในระบบประกันสังคมสามารถเข้ารับ บริการทางการแพทย์ได้ทุกโรงพยาบาลสังกัด สธ.ว่า ที่ประชุมมีข้อตกลงในหลักการให้สำนักงานประกันสังคม เข้ามาช่วยดูแลค่าใช้ จ่ายของโรงพยาบาลที่เพิ่มสูงขึ้น เพราะเชื่อว่าเมื่อเริ่มดำเนินการแล้วจะมีผู้มาใช้บริการมากขึ้น แต่ยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ เบื้องต้นได้มีการตั้งคณะทำงาน ติดตามเรื่องดังกล่าวขึ้นมาดูแลเรื่องดัง กล่าวแล้ว

          นพ.ไพจิตร์กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาผู้ประกันตน สามารถเข้ารับบริการทางการแพทย์ได้ในโรงพยาบาลสังกัด สธ. ได้ทุกโรงพยาบาลอยู่แล้วจำนวน 3.8 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 38 แต่เนื่องจาก สธ.เป็นผู้ดำเนินการเอง ซึ่งที่ผ่านมายังไม่มีการเตรียมระบบรองรับอย่างเต็มที่ ทำให้เกิดความล่าช้า ไม่ได้รับความสะดวก ผู้มาใช้บริการจึงเลือกที่จะไม่ไปใช้บริการ รวมถึงที่ผ่านมาในโรงพยาบาลขนาดเล็ก ที่มีผู้ประกันตนมาใช้บริการเป็นจำนวน น้อย จึงได้รับงบประมาณน้อย รวมถึงไม่มีผู้เข้ามาดูแล ทางโรงพยาบาลจึงไม่อยากให้มีการใช้ระบบกันกันสังคมในโรงพยาบาลของตน

          ปลัด สธ.กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ยังมีความจำเป็นต้องหารือในรายละเอียดกันอีกครั้ง โดยในส่วนของ สธ.จะมีการหารือในที่ประชุมบอร์ดวันจันทร์ที่ 9 พ.ค.นี้ เชื่อว่าผู้ ประกันตนส่วนใหญ่อยู่ในวัยหนุ่มสาวที่ไม่อยากเสียเวลาการทำงาน แต่ยังห่วงว่าหากเกิดปัญหาขึ้นมาจริงจะแก้ไขอย่างไร นพ.ไพจิตร์กล่าว

          ด้าน นพ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า สำนักงานประกันสังคมมีนโยบายพัฒนางานบริการทางการแพทย์ให้ดีขึ้น โดยความร่วมมือกับ สธ.ในครั้งนี้ สำนักงานประกันสังคมจะเข้ามาดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายที่จะเพิ่มสูงขึ้น จากการเปิดให้ผู้ประกันตนสามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลได้ทุก รพ.ในสังกัด สธ. แต่ยังไม่ได้กำหนดจำนวนเงิน

          นอกจากนี้จะเข้ามาช่วยพัฒนาระบบสารสนเทศ ให้มีประสิทธิภาพเพื่อรองรับการใช้ บริการให้ได้รับความสะดวกมากขึ้น ทั้งนี้โครงการดังกล่าวจะดำเนินการในเฉพาะโรงพยาบาลสังกัด สธ.เท่านั้น แต่ในอนาคตอาจจะขยายเพิ่มเติมไปยัง รพ.เอกชน และอื่นๆ โดยตนจะนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ สำนักงานประกันสังคมอีกครั้งในวัน อังคารที่ 10 พ.ค.54 เพื่อหารือในเรื่องค่าใช้จ่าย และรายละเอียดอื่น ๆ คาดว่าน่าจะใช้ระยะเวลาในการดำเนินการทั้งหมดประมาณ 1 เดือน




http://health.kapook.com/view25926.html
ขอขอบคุณข้อมูลจาก