สธ. เปิด คอนดอม พ้อยท์ บริการถุงยางอนามัยและสารหล่อลื่นฟรี กลุ่มชายรักชาย (ข่าวเพื่อสื่อมวลชน สำนักงานสารสนเทศและประชาสัมพันธ์ กระทรวงสาธารณะสุข)
สาธารณสุขเผย ปัจจุบันพบเยาวชนชายร้อยละ 3 เป็นกลุ่มชายรักชาย ในปี 2553 ครองแชมป์ติดเชื้อเอชไอวีสูง เกือบ 1 ใน 3 ของผู้ติดเชื้อรายใหม่ปีละกว่าหมื่นคน หวั่นทำให้เชื้อเอชไอวีหวนระบาดหนักในอนาคต เร่งป้องกัน โดยขยายบริการ "คอนดอม พ้อยท์" สัญลักษณ์กล่องสีม่วง รูปร่มสีรุ้ง ให้บริการถุงยางอนามัย 3 ขนาด และสารหล่อลื่นฟรี ในสถานที่ที่กลุ่มชายรักชายนิยมไปเที่ยว เช่น ดิสโก้เธค คาราโอเกะ ฟิตเนส ซาวน่า และร้านเสริมสวย ปี 2553 มีแล้ว 188 แห่งใน 30 จังหวัด ปีนี้ ตั้งเป้าขยายเพิ่มอีก 18 จังหวัด
วันนี้ (30 มีนาคม 2554) นายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรคนายกิตตินันท์ ธรมธัช นายกสมาคมฟ้าสีรุ้งแห่งประเทศไทย และประธานเดอะบีช กรุ๊ปแถลงข่าว เปิดตัวจุดบริการถุงยางอนามัยและสารหล่อลื่น หรือคอนดอม พ้อยท์ ( Condom Point ) ในงานสัมมนาระดับชาติเรื่องโรคเอดส์ครั้งที่ 13 ที่ อิมแพ็ค คอนเวนชั่น เมืองทองธานี
นายแพทย์ไพจิตร์ กล่าวว่าสถานการณ์การติดเชื้อเอชไอวีในกลุ่มชายรักชาย มีแนวโน้มสูงขึ้น โดยขณะนี้มีประชากรกลุ่มนี้ ประมาณร้อยละ 3 ของเยาวชนชายไทย และมีโอกาสติดเชื้อเอชไอวีจากพฤติกรรมเสี่ยง สาเหตุหนึ่ง เนื่องจากไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารเรื่องการป้องกันโรคเอดส์ รวมทั้งการเข้าถึงบริการ การป้องกัน และการตรวจรักษาในปี 2553 คาดว่ามีผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ประมาณ 10,853 ราย ในจำนวนนี้ เป็นกลุ่มชายรักชายมากถึงร้อยละ 33 หรือเกือบ 1 ใน 3 ชี้ให้เห็นจะเป็นกลุ่มหลักของการระบาดเชื้อเอชไอวีในประเทศไทยในอนาคต หากยังมีพฤติกรรมเสี่ยงคือมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย มีการคาดการณ์ว่าในปี 2568 หรืออีก 14ปีข้างหน้าผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่กว่าร้อยละ 50 จะเป็นกลุ่มชายรักชาย
กระทรวง สาธารณสุขและภาคีเครือข่าย ได้มีนโยบายเชิงรุกเร่งแก้ไขป้องกัน จัดทำโครงการส่งเสริมการเข้าถึงถุงยางอนามัยและสุขอนามัยในกลุ่มชายรักชาย ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของกลุ่มที่มีพฤติกรรมเสี่ยงเพื่อป้องกันโรค โดย จัดจุดบริการถุงยางอนามัยและสารหล่อลื่นฟรี หรือคอนดอม พ้อยท์ (Condom Point) กระจายลงในสถานที่ที่กลุ่มชายรักชาย นิยมไปเที่ยวหรือพบปะกัน เช่น ดิสโก้เธค คาราโอเกะ ฟิตเนส ซาวน่า และร้านเสริมสวย เป็นต้น ในปี 2553 นำร่องใน 30 จังหวัด มีสถานประกอบการเข้าร่วมโครงการ 188 แห่ง ในปี 2554 ตั้งเป้าขยายพื้นที่อีก 18 จังหวัด รวมเป็น 48 จังหวัด
นายแพทย์ไพจิตร์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้กระทรวงสาธารณสุข ยังได้จัดทำโครงการป้องกันในรูปแบบ เพื่อนช่วยเพื่อน และการให้บริการที่เป็นมิตรในพื้นที่ที่มีสถานการณ์การติดเชื้อสูง ได้แก่ กทม. ภูเก็ต เชียงใหม่ อุดรธานี ขอนแก่นและชลบุรี โดยพัฒนาแกนนำกลุ่มชายรักชายในระดับอุดมศึกษา และจัดทำหลักสูตรการสอนทักษะชีวิตให้กับกลุ่มชายรักชาย ให้แก่ครูที่สอนในระดับมัธยมศึกษา และดึงภาคประชาสังคมให้มีส่วนร่วมป้องกันมากขึ้น
โดย ได้รับสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนโลกใน 43 จังหวัด ผลการดำเนินการตั้งแต่กรกฏาคน 2552 - มิถุนายน 2553 สามารถข้าถึงกลุ่มเกย์ในพื้นที่เป้าหมาย 13,000 คน สาวประเภทสอง 10,000 คน แจกถุงยางอนามัย 500,000 ชิ้น และสารหล่อลื่น 270,000 ชิ้น โดยร้อยละ 50 ของกลุ่มที่เข้าถึงเป็นเยาวชนอายุ 16-25 ปี
สำหรับคอนดอมพ้อยท์ จะสังเกตได้ง่าย คือ กล่องบรรจุถุงยางและสารหล่อลื่น จะใช้สีม่วง มีรูปร่มสีรุ้ง และตัวอักษรเขียนว่า Condom Point มีถุงยางอนามัย 3 ขนาด คือ 49, 52 , 54 และสารหล่อลื่น สามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการ แต่ละกล่องบรรจุถุงยางได้ประมาณ 300 ชิ้น สถานประกอบการที่สนใจจะเข้าร่วมโครงการ สอบถามรายละเอียดและสมัครเข้าร่วมโครงการได้ที่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเป้าหมาย 48 จังหวัด และที่ สำนักโรคเอดส์ วัณโรค และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 0-2590-3216 ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขพร้อมสนับสนุนเต็มที่
ทางด้านนพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรคได้กล่าวถึงมาตรการเสริมการจัดจุดบริการถุงยางอนามัย และสารหล่อลื่น โดยมีมาตรการ Condon Standard Organization หรือ CSO ซึ่งเป็นแนวทางให้สถานที่ที่ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชายนิยมไปใช้บริการ โดยจัดจุดบริการถุงยางอนามัยและสารหล่อลื่น (Condom Point) ในบริเวณที่ลูกค้าจะเข้าถึงได้โดยสะดวก ซึ่งเจ้าของสถานที่จะต้องสมัครเข้าร่วมโครงการ เพื่อจะได้มีส่วนร่วมในการดูแลจุดบริการถุงยางอนามัยและสารหล่อลื่น ทั้งนี้เป็นไปโดยสมัครใจ รวมทั้งมีสื่อประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกัน
ทั้งนี้ กรมควบคุมโรคจะมีหนังสือรับรองให้สถานบริการที่เข้าร่วมโครงการเพื่ออำนวย ความสะดวกในการจัดจุดบริการ นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนถุงยางอนามัยและสารหล่อลื่นฟรี ซึ่งผลที่คาดว่าจะได้รับจากมาตรการการจัดจุดบริการดังกล่าว จะเป็นรูปธรรมของการส่งเสริมการเข้าถึงถุงยางอนามัยและสารหล่อลื่นโดยสะดวก ในกลุ่มประชากรชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย และจะเป็นผลลดอัตราการติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ลงได้ตามเป้าหมาย
http://health.kapook.com/view24784.html
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ข่าวเพื่อสื่อมวลชน สำนักงานสารสนเทศและประชาสัมพันธ์ กระทรวงสาธารณสุข