เท้าเบาหวาน...ไม่อยากถูกตัด ต้องหมั่นดูแล (ไทยรัฐ)
ผู้ที่เป็นเบาหวานมานาน เท้าอาจเริ่มมีอาการชา จากปลายเท้าชามากขึ้นเรื่อยๆ ชาตลอดเวลา รู้สึกเหมือนฝ่าเท้าไม่สะอาด เหมือนเหยียบกรวดทราย หลายคนไม่ชาอย่างเดียว ยังปวดแสบปวดร้อนร่วมด้วย ปวดกระตุกตอนกลางคืน พอเคลิ้มจะหลับก็กลับปวดจนตื่น แต่กลางวันไม่ค่อยเป็น อาการเช่นนี้เข้าข่ายปลายประสาทอักเสบถามหา เมื่อเป็นแล้วจะลุกลามไปเรื่อยๆ ทำให้ไม่มีความรู้สึก เวลามีแผลเลือดออกก็ไม่รู้ตัว ไม่รู้สึกปวด แต่จะมีอาการบวมแดง เพราะติดเชื้อรุนแรง และอาจใช้ขาไม่ได้อีกต่อไป
ทำไมเท้าเบาหวานจึงเกิดอาการเช่นนี้
หลอด เลือด...เส้นทางลำเลียงอาหาร ออกซิเจน และสารอื่นๆ เมื่อเกิดการติดเชื้อ หลอดเลือดจะเป็นเส้นทางส่งเม็ดเลือดขาว และอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อต่อสู้และฆ่าเชื้อโรคให้แผลหายเร็วขึ้น แต่จากผลต่อเนื่องของการเป็นเบาหวานที่ยาวนาน ทำให้หลอดเลือดมีปัญหา ทั้งตีบ ทั้งขรุขระ และเป็นหลุมเป็นบ่อ ส่งผลให้แผลไม่หาย กลายเป็นแผลเรื้อรัง เส้นเลือดยังอุดตันจากผลการอักเสบเกิดเป็นเนื้อเน่าตาย เชื้อโรคร้ายลุกลามถึงกระดูก และสุดท้ายก็ถูกตัดขาเพื่อรักษาชีวิตไว้
อันตรายจากเบาหวานกับเท้าที่พึงตระหนักไว้เสมอ คือ
เบา หวานทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนของปลายประสาทอักเสบและหลอดเลือดแดงตีบปลายประสาท อักเสบนำไปสู่การเกิดแผลที่เท้าได้ง่าย เบาหวานทำให้ติดเชื้อได้ง่าย หลอดเลือดแดงตีบทำให้การอักเสบลุกลามง่าย แผลหายยากเมื่อเกิดเนื้อตาย เชื้อกินถึงกระดูก โอกาสถูก ตัดเท้า สูง ผลกระทบสูงทั้งด้านการเงิน เวลา การทำงาน ความทุกข์ทรมานทั้งร่างกายและจิตใจ
ทั้ง หมดสามารถป้องกันได้ ถ้ารักษาเบาหวานให้ดี และดูแลเท้าอย่างสม่ำเสมอ เช่น ตัดเล็บเท้า ดูเหมือนของง่าย แต่ต้องระวัง เพราะถ้าตัดลึกเกินไป เกิดแผลเลือดออก มีโอกาสติดเชื้อ โดยเฉพาะผู้ที่ตาไม่ดี หรือเท้าชาจนไม่รู้สึกเจ็บ ตัดไม่ถูกต้อง ทำให้เกิดเล็บขบ บางรายก็มีเล็บงอกแทงเข้าไปในเนื้อ ถ้าอักเสบจะตามมาด้วยปวด บวม แดง เป็นหนอง และลุกลามได้ หรือกรณีตัดไม่ถึง เพราะอ้วนเกินไปก้มไม่ลง ตัดไม่ได้ เพราะตามองไม่เห็น หรือเป็นอัมพาต บางคนเลยปล่อยเล็บ ยาว แห้ง แข็ง ดำ สกปรก หรือฉีกขาด แล้วมีโอกาสติดเชื้ออักเสบลุกลามเป็นเรื่องใหญ่ภายหลัง การดูแลเล็บเท้าให้สะอาด และตัดเล็บเท้าให้สั้นพอดี เป็นส่วนหนึ่งการดูแลสุขภาพเท้า
ทดสอบความรู้สึก การทรงตัว การสั่นสะเทือน ความรู้สึกสัมผัส ร้อนเย็น เจ็บ หากมีอะไรผิดปกติ นั่นแสดงว่าเท้าเริ่มเสี่ยงต่ออันตรายมากขึ้น เช่น ความรู้สึกสัมผัสต่อการกระตุ้นด้วยเส้นใยฟิลาเม้นเดี่ยวผิดปกติ หมายถึงเริ่มมีปลายประสาทอักเสบแล้ว และมีโอกาสดำเนินโรคต่อไปเรื่อยๆ จนเกิดอาการชา และเป็นลางบอกเหตุที่ถึงเวลาต้องควบคุมเบาหวานให้ดี เพื่อชะลอการเกิดโรคแทรกซ้อนให้นานที่สุด
http://health.kapook.com/view1502.htmlขอขอบคุณข้อมูลจาก