ไวรัสไข้หวัดใหญ่ 2009 (H1 N1) สิ่งที่ควรรู้ สิ่งที่ควรปฏิบัติ เกี่ยวกับไข้หวัดใหญ่ 2009 (สสส.)
โดย น.พ.วิชัย โชควิวัฒน และคณะ ถอดความจากเอกสาร PANDEMIC Flu influenza A (H1N1) Virus,สหประชาชาติ
เชื่อว่าการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสตัวใหม่นี้ เกิดในแบบเดียวกับการแพร่กระจายของไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล โดยมากเชื้อไข้หวัดใหญ่แพร่กระจายจากบุคคลหนึ่ง ไปยังบุคคลหนึ่งผ่านการไอ หรือจาม ของผู้ที่ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ บางครั้งผู้คนติดเชื้อโดยการสัมผัสกับสิ่งที่มีเชื้อไข้หวัดใหญ่ติดอยู่ แล้วมาสัมผัสกับปาก หรือจมูก
สิ่งแรกและสำคัญที่สุด คือ ล้างมือให้สะอาด พยายามรักษาร่างกายให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ไม่เครียด ดื่มน้ำมากๆ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พยายามไม่สัมผัสกับสิ่งของที่อาจมีการปนเปื้อนกับเชื้อไข้หวัดใหญ่ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับบุคคลที่แสดงอาการป่วย
การระบาดของไข้หวัดใหญ่ทั่วโลก เกิดขึ้นเมื่อเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ตัวใหม่ ในมนุษย์เกิดขึ้น และแพร่กระจายไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมนุษย์ไม่มีภูมิคุ้มกันต่อไวรัสตัวนี้มาก่อน
ไม่มีใครสามารถกล่าวได้ว่า สถานการณ์ปัจจุบันจะพัฒนาต่อไปเป็นการระบาดทั่วโลกหรือไม่ แต่ไม่ว่ามันจะกลายเป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรงเข้าขั้นมหันตภัย หรือเพียงแค่รุนแรงกว่าไข้หวัดใหญ่ที่มาตามฤดูกาลเท่านั้นก็ตาม เราก็ควรจะเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ที่แย่ที่สุด
เตรียมตัวคุณและครอบครัวของคุณให้พร้อมสำหรับโอกาสที่จะเกิดการระบาดทั่วโลก ทั้งนี้รวมถึงการรวบรวมและสำรองสิ่งของที่จำเป็นยามฉุกเฉิน สร้างสุขนิสัยที่ช่วยให้คุณและครอบครัวลดโอกาสเสี่ยงที่จะติดเชื้อและแพร่ไป ยังผู้อื่น (ตัวอย่างเช่น การล้างมือเป็นประจำ การปิดปากและจมูกเมื่อไอหรือจาม และไม่ถ่มน้ำลายในที่สาธารณะ)
เมื่อไข้หวัด2009 เกิดการระบาดทั่วโลก นั่นหมายถึงทุกคนตกอยู่ในภาวะเสี่ยง มิใช่เพียงแต่คนที่สูงอายุเท่านั้น ไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดทั่วโลก แพร่จากบุคคลหนึ่งไปสู่บุคคลหนึ่งได้ง่าย และรวดเร็วเท่ากับไข้หวัดตามฤดูกาล แต่ที่แตกต่างก็คือ ผู้คนไม่มีภูมิต้านทานต่อเชื้อไวรัสชนิดใหม่นี้ ดังนั้น ผู้คนจึงติดเชื้อนี้ได้มากกว่า นอกจากนั้นเป็นไปได้ว่า แม้แต่คนที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาวและมีสุขภาพแข็งแรง ซึ่งปกติจะไม่เกิดโรคแทรกซ้อนเมื่อเป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ก็อาจมีโรคแทรกซ้อนที่ร้ายแรง และอาจเสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดทั่วโลกได้
อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องสำคัญที่จะรู้ว่า คนส่วนใหญ่ที่ป่วยจากไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดทั่วโลก จะหายและมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสตัวใหม่นี้ในที่สุด
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับเชื้อไข้หวัดใหญ่ในคน ได้แก่
อาการของไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล
อาการของไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดทั่วโลก
ในขณะที่อาการระยะแรกของไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดทั่วโลกนั้น อาจจะมีลักษณะคล้ายกับไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล การเปลี่ยนแปลงของอาการขึ้นอยู่กับธรรมชาติของเชื้อไวรัส มีแนวโน้มว่า คนส่วนใหญ่จะหายได้เองโดยไม่ต้องได้รับการรักษาทางการแพทย์ แต่อาการต่อไปนี้ จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่า คุณควรไปพบแพทย์
อาการ | หวัดธรรมดา | ไข้หวัดใหญ่ |
ไข้ | มีน้อย | มีเสมอ เป็นอยู่ประมาณ 3-4 วัน |
ปวดหัว | มีน้อยมาก | พบบ่อย |
อาการปวดตามตัวทั่วไป | เล็กน้อย | มีเสมอ มักปวดมาก |
อาการอ่อนล้า ไม่มีแรง | เป็นบางครั้ง | มีเสมอ เป็นได้นานถึง 2-3 สัปดาห์ |
อาการอ่อนเพลียมาก | ไม่มี | มีเสมอ โดยเฉพาะในระยะแรกของการเจ็บป่วย |
คัดจมูก | พบบ่อย | เป็นบ้าง |
จาม | มีเสมอ | เป็นบ้าง |
เจ็บคอ | พบบ่อย | เป็นบ้าง |
อาการแน่นหน้าอก ไอ | มีอาการน้อยถึงปานกลาง | พบบ่อย บางครั้งรุนแรงขึ้นได้ |
ข้อมูลจากสถาบันโรคการติดเชื้อและภูมิแพ้ กระทรวงสาธารณสุขสหรัฐ กันยายน 2548
การ รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่เราสามารถทำ ได้ เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ ข้อควรปฏิบัติได้แก่
ในช่วงที่มีการระบาดทั่วโลก พนักงานที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานนอกสถานที่ ไม่ควรมาที่ทำงาน หากพวกเขาอยู่ในสถานการณ์ดังต่อไปนี้
พนักงานคนใดที่เริ่มป่วยควรจะพักอยู่บ้าน 7 วัน นับจากเริ่มมีอาการ และไม่ควรกลับมาที่ทำงาน จนกระทั่งครบ 2 วัน หลังจากที่อาการป่วยหายไป นอกจากนั้นพวกเขาควรจะสวมหน้ากากอนามัย เมื่อต้องออกไปพบปะกับผู้อื่นด้วย
สำหรับ บุคคลที่ได้สัมผัสกับผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ที่ระบาดทั่วโลก ควรจะถูกขอให้อยู่บ้านเป็นเวลาเจ็ดวัน หลังจากที่ทราบว่า ได้สัมผัสกับเชื้อไวรัสเพื่อระงับการแพร่เชื้อในระยะฟักตัว ช่วงที่ยาวนานที่สุด
หากพนักงานคนใดมีสมาชิกในครอบครัวหรือบุคคลในบ้านที่สงสัยว่า อาจจะติดเชื้อ ก็ควรจะต้องเฝ้าดูตนเองว่า มีไข้ หรือมีอาการป่วยในทางเดินหายใจหรือไม่ เป็นประจำอย่างน้อยทุกวัน และไม่ควรมาทำงานเป็นเวลา 7 วัน หลังจากที่สมาชิกในบ้านที่เจ็บป่วยหายไข้
http://health.kapook.com/view2025.html
ขอขอบคุณข้อมูลจาก