| โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ |  6 สิงหาคม 2547 15:00 น. |  
โดย : กุ๊กเล็ก
               วันนี้อยู่ดีๆ “กุ๊กเล็ก”ก็นึกเปรี้ยวปากอยากกินอะไรเปรี้ยวๆ  ขึ้นมากระทันหันจนอยู่นิ่งไม่ได้  ต้องลุกขึ้นมาหาเมนูเด็ดที่มีรสเปรี้ยวอย่างที่ใจอยาก อย่าเข้าใจผิดว่า “กุ๊กเล็ก” กำลังแพ้ท้องหรือว่าอะไร ก็แค่อยากเพิ่มรสชาติให้ชีวิตเท่านั้นเอง
      
       ถ้านึกถึงของเปรี้ยวๆ ก็ต้องนึกถึงมะนาวก่อนอย่างอื่นใช่ไหมล่ะ  คิดไปคิดมาหัวสมองก็ปิ๊งเมนูนึ่งมะนาวขึ้นมาเป็นอันดับแรก  แต่จะเอาอะไรมานึ่งมะนาวดีล่ะ หมูนึ่งมะนาว  ปลานึ่งมะนาวก็กินกันบ่อยจนเบื่อแล้ว ลองเปลี่ยนมาเป็นปลาหมึกนึ่งมะนาวดูสิว่า จะเอร็ดอร่อยซักแค่ไหน
      
       ก่อนเข้าครัวเราก็มาเตรียมเครื่องปรุงให้พร้อมก่อน โดยเครื่องปรุงที่ต้องใช้ก็มี
      
       ปลาหมึกไข่ 3-4 ตัว
       กระเทียมโทนสับหยาบๆ 3 ช้อนโต๊ะ
       ผักชี 2 ช้อนโต๊ะ
       พริกขี้หนูซอย 2 ช้อนโต๊ะ
       น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
       น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
       น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
       แตงกวา 1 ลูก
       มะเขือเทศ 2 ลูก
       น้ำซุปไก่ 1/2 ถ้วยตวง
      
       เมื่อเตรียมเครื่องปรุงพร้อมแล้วก็เริ่มลงมือกันเลย  ก่อนอื่นเอาปลาหมึกไข่ลอกเยื่อออกแล้วล้างน้ำให้สะอาด  หั่นปลาหมึกตามขวางแต่ไม่ต้องถึงกับขาด เรียงใส่ภาชนะ แล้วใส่น้ำซุปไก่  และกระเทียม แล้วนำไปนึ่งนาน 5-7 นาที เสร็จแล้วก็ยกลง
      
       จากนั้นนำมาปรุงรสโดยใส่น้ำปลา มะนาว  พริกขี้หนูให้ได้รสเด็ดตามต้องการ เรียบร้อยแล้วก็โรยหน้าด้วยผักชี  ตกแต่งจานให้ดูน่ากินด้วยแตงกวา มะเขือเทศ
      
       เสร็จเรียบร้อยแล้วกับเมนูเด็ด “หมึกไข่นึ่งมะนาว” พร้อมเสิร์ฟบนโต๊ะอาหาร เมนูที่ทำได้ง่ายแสนง่าย ใช้เวลาทำเพียงแค่ประมาณ 10 นาทีก็เสร็จ แถมรสชาติก็ยังอร่อยอย่าบอกใคร งานนี้ “กุ๊กเล็ก” ได้กินของเปรี้ยวๆ สมใจอยากแล้ว ก็ต้องขอตัวไปคิดเมนูถัดไปก่อนก็แล้วกัน
 
 
 
| โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ |  20 สิงหาคม 2547 14:21 น. |  
โดย : กุ๊กเล็ก
               ถ้าจะถาม “กุ๊กเล็ก”  ว่า เนื้อสัตว์ทะเลประเภทใดกินยากที่สุด เราก็ตอบแบบไม่ลังเลเลยว่า  อันเจ้าเนื้อปูสีขาวๆนี่แหละกินยากชะมัด เพราะกว่าจะกินได้มันต้องแกะ  ต้องทุบ ต้องขบ ต้องบีบ  หรือต้องทำสารพัดวิธีเพื่อให้ได้เนื้อปูสีขาวๆหวานๆมาส่งใส่ปาก
      
       แต่ว่าเนื้อปูนั้นก็อร่อยนัก “กุ๊กเล็ก” กิน เท่าไหร่ไม่เคยเบื่อ และการกินปูนี่ ถ้าจะกินให้อร่อยมันต้องใช้มือ กับปาก  กัดแทะถึงจะอร่อยแบบถึงเนื้อถึงอรรถรส โดยที่ประเทศสิงคโปร์  เขายกให้ปูผัดพริกและปูผัดพริกไทดำ เป็น 2 ในเมนูประจำชาติยอดนิยม  และน่าลิ้มลองเมื่อไปเยือนสิงคโปร์
      
       สำหรับมื้อนี้ “กุ๊กเล็ก” ก็ถือโอกาสนำเอาเมนู “ปูผัดพริก”  สูตรสิงคโปร์มานำเสนอ ซึ่งถ้าเป็นแบบสูตรเมืองลอดช่องดั้งเดิม  ปูผัดพริกจะนิยมใช้ “ปูศรีลังกา”  ซึ่งเป็นปูเนื้อที่ตัวโตมาก(ส่วนมากจะคัดเกิน 1 กก.ขึ้นไปมาทำขาย)  และคนสิงคโปร์ก็นิยมกินปูผัดพริกแกล้มกับขนมปัง
      
       แต่ว่าสำหรับคนที่อยากกินปูผัดพริก แต่ไม่มีโอกาสไปเมืองลอดช่อง  หรือไม่อยากไปกินไกลถึงเมืองลอดช่อง  ก็สามารถเข้าครัวไปไปทำปูผัดพริกกินกันได้ โดยปูที่ใช้  ในบ้านเราเมื่อหาปูทะเลตัวโตไม่ได้ ก็เอาปูหลายๆตัวชั่งให้ได้ตามน้ำหนัก  ก็ถือว่าไม่ผิดกติกาและรสชาติแต่อย่างใด
      
       ส่วนวิธีทำก็ไม่ยากเย็นอะไร แต่ว่าก่อนอื่นต้องเตรียมเครื่องปรุงให้พร้อม โดยเครื่องปรุงเมนูปูผัดพริกก็มี
      
       ปูทะเล(ปูเนื้อ) 1 กิโลกรัม
       ไข่ไก่ 1 ฟอง
       ซอสมะเขือเทศ 2-3 ช้อนโต๊ะ
       ซอสพริก 2-3 ช้อนโต๊ะ
       หอมหัวใหญ่หั่นละเอียด 1 หัว
       กระเทียมสับละเอียด 3 กลีบ
       ขิงซอยละเอียด 1 แง่ง
       น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
       ผักกาดหอม ต้นหอม พริกชี้ฟ้า
       น้ำมันพืช เกลือป่น น้ำตาลทราย
       
       เมื่อได้ส่วนผสมพร้อมก็อย่ารอให้ท้องหิว ไส้กิ่ว เข้าครัวลงตะหลิวทำปูผัดพริกกันเลยดีกว่า
      
       ขั้นแรกก็แกะปูล้างให้สะอาด แล้วหั่นปูเป็นชิ้นพอคำ ตัดก้าม  ทุบส่วนแข็งของปูให้แตก เอาพอให้แกะเนื้อกินสะดวก  และให้น้ำผัดซึมสู่เนื้อใน
      
       จากนั้นผัดปูในไฟอ่อนๆให้พอสุก กระดองเปลี่ยนเป็นสีส้ม พักไว้
      
       แล้วค่อยๆ เร่งไฟ ใส่น้ำมัน ส่งหอม กระเทียม ขิง ลงไปผัด ประมาณ 3-4 นาที จนหอมสุกเหลือง
      
       จากนั้นตามด้วยซอสมะเขือเทศ ซอสพริก ค่อยๆเติมน้ำ เอาแค่พอขลุกขลิก  ปรุงรสด้วยน้ำตาล เกลือ ตามความชอบของแต่ละคน  แล้วลดความร้อนคลุกเคล้าซอสและเครื่องปรุงอื่นๆให้เข้ากันประมาณ 5 นาที
      
       ใส่ชิ้นปูลงไปผัดจนให้น้ำผัดซึมเข้าเนื้อปู แล้วตอกไข่ใส่และคลุกเคล้าให้เข้ากัน
      
       เสร็จสรรพแต่งจานด้วยผักกาดหอม ต้นหอม พริกชี้ฟ้า หรือผักที่ชอบ  แล้วเสิร์ฟปูผัดใส่จาน หม่ำกับข้าวสวยร้อนๆ  หรือใครจะกินกับขนมปังแบบคนสิงคโปร์ก็ถือว่าไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด
 
 
 
| โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ |  13 สิงหาคม 2547 16:55 น. |  
โดย : กุ๊กเล็ก
               “ไก่” กับ “ไข่”อะไรเกิดก่อนกัน? ปัญหาโลกแตกชวนปวดสมอง ที่แข่งกันหาคำตอบยังไงก็ไม่รู้จบ
      
       ที่ “กุ๊กเล็ก” เกริ่นนำมาแบบนี้  ไม่ใช่ว่าจะมาชวนปวดหมองหาคำตอบกันแต่อย่างใด แต่พอพูดถึงไข่ขึ้นมา  จำได้ว่า มีเมนูเกี่ยวกับไข่อยู่ ที่เรามักจะทำกินเล่นในวันว่างๆ  ซึ่งใช้เวลาในการทำไม่เท่าไหร่  แต่ได้รับความอิ่มอร่อยเต็มกระเพาะเสียทุกทีไป กับเมนูนี้ที่ชื่อว่า “ยำไข่ต้ม” รสชาติออกเปรี้ยวๆ มันๆ กลมกล่อมถูกลิ้น
      
       เครื่องปรุงสำหรับ “ยำไข่ต้ม”
       
       ไข่ไก่ต้มสุก 5 ฟอง
       หอมแดงซอย 4 ช้อนโต๊ะ
       มะม่วงดิบ 4 ช้อนโต๊ะ
       ใบสะระแหน่ 4 ช้อนโต๊ะ
       ต้มหอมหั่นยาว ½ นิ้ว 2 ช้อนโต๊ะ
       ผักกาดหอม กะหล่ำปลีซอย และแครอทซอย สำหรับรองถ้วย
       ยอดสะระแหน่สำหรับตกแต่ง
      
       เครื่องปรุงน้ำยำ
       
       พริกขี้หนูเขียวแดงปั่น 4 เม็ด
       กระเทียมดองซอยบางๆ 2 ช้อนโต๊ะ
       น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
       เกลือป่น 1 ช้อนชา
      
       เมื่อเตรียมเครื่องปรุงทั้งหมดพร้อมสรรพ  ก็ถึงเวลาลงมือปฏิบัติการกัน ก่อนอื่นก็มาทำน้ำยำกันก่อน โดยผสมน้ำมะนาว  กระเทียมดอง เกลือ และพริกขี้หนูเข้าด้วยกัน
      
       จากนั้นก็ปอกเปลือกไข่ต้มแล้วนำมาหั่นเป็นแว่นๆ ให้มีความหนาประมาณ ¼  นิ้ว แล้วก็จัดใส่จานที่รองด้วย ผักกาดหอม กะหล่ำปลีซอย และแครอทซอย
      
       ที่นี่ก็มาทำเครื่องยำกันโดยใส่หอมแดง มะม่วง ใบสะระแหน่ และต้มหอม  ลงในถ้วย ตามด้วยน้ำยำ แล้วเคล้าเบาๆ พอทั่ว จากนั้นก็ตักราดบนไข่ต้ม  ตกแต่งด้วยยอดสะระแหน่สักนิดเพิ่มความสวยงามน่ากิน
      
       หลังจากนั้นจะทำอะไรต่อไป ถ้าไม่ใช่การกิน  ซึ่งขอแนะนำอีกนิดว่าเวลากินให้คลุกเคล้าเบาๆ ให้ทั่วอีกรอบ  แล้วก็ตักอ้ำเข้าปาก จะกินเป็นของกินเล่น หรือจะกินกับข้าวสวยร้อนๆ  สักจานก็เข้ากั๊น เข้ากันดีนักเชียว
 
 
 
| โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ |  27 สิงหาคม 2547 16:44 น. |  
โดย...กุ๊กเล็ก
               วันนี้ “กุ๊กเล็ก”  ขอนำเสนอเมนูที่ดูจากหน้าตาสีสันแล้วเหมือนจะทำยาก เลยไม่ค่อยมีใครทำกัน  หรือถ้านึกอยากจะกินก็ตระเวนหาร้านข้างทางกินได้ไม่ยาก แต่ก็อีกล่ะนะ  ว่าทุกร้านใช่จะอร่อยใช้ได้เหมือนกันหมด  เพราะฉะนั้นลองมาประลองฝีมือทำเจ้าเมนูนี้ด้วยปลายจวักของเราเอง  คงจะเข้าท่ากว่า
      
       งงใช่ไหมล่ะ...ว่าเจ้าเมนูที่ว่าคืออะไรหนอ “กุ๊กเล็ก” มัวแต่วกไปวนมาอยู่นั่นแหละ เอ้า !?! เฉลยให้ก็ได้ว่า จะมาชวนทำ “กวยจั๊บ” กัน คำว่ากวยจั๊บเนี่ย มีหลายคนที่มักจะเขียนผิดเป็น “ก๋วยจั๊บ” ซึ่งก็คงจะเป็นเพราะคุ้นกับคำว่า “ก๋วยเตี๋ยว” เลยพาให้เขียนเป็นก๋วยจั๊บตามไปด้วย
      
       เอาล่ะ... เดี๋ยวคนที่คอยทำ “กวยจั๊บรสเข้มข้น” จะรอเก้อ ว่าแล้วก็เข้าครัวเตรียมเครื่องปรุงกันเลยดีกว่า
      
       เครื่องปรุง
       เส้นกวยจั๊บต้มสุก 2 ถ้วย
       ไข่ไก่ต้มปอกเปลือก 1 ฟอง
       หมูกรอบ 4 ชิ้น
       อบเชยป่น(หรือผงพะโล้) 1 ช้อนโต๊ะ
       ซีอิ้วดำอย่างหวาน 4 ช้อนโต๊ะ
       ซีอิ้วขาว 1/4 ถ้วย
       น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
       เกลือ 1 ช้อนชา
       น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง
       ต้นหอมและผักชีซอยสำหรับโรยหน้า 1 ช้อนโต๊ะ
       เต้าหู้สี่เหลี่ยมทอดกรอบหั่นชิ้นขนาดพอคำ ¼ ถ้วยตวง
       ตับหมู เลือดหมู เนื้อหมู อย่างละ 1-2 ชิ้น
      
       
       อันดับแรกก็ต้มน้ำให้เดือด ใส่อบเชยป่น ซีอิ้วดำ ซีอิ้วขาว  น้ำตาลทราย เกลือ ลงไป ตามด้วยไข่ไก่ต้มสุก เคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ ประมาณ 30  นาที จากนั้นก็ตักเส้นกวยจั๊บใส่ชาม ตักน้ำเครื่องปรุงราด  และตามด้วยไข่ไก่ผ่าซีก เต้าหู้ทอดกรอบ หมูกรอบ ตับหมู เลือดหมู เนื้อหมู  โรยหน้าด้วยต้นหอมและผักชี แค่นี้ก็เรียบร้อย
      
       แต่ถ้าอยากให้อลังการงานสร้างกว่านี้  ก็อาจจะใส่โคนปีกไก่และเห็ดหอมลงไปด้วย หรือถ้าอยากกินแบบกวยจั๊บน้ำข้น  ก็เพียงแค่ใส่แป้งข้าวเจ้าหรือแป้งข้าวโพดก็ได้  ใส่ลงไปตอนที่ต้มเส้นกวยจั๊บแล้วคนให้เป็นเนื้อเดียวกัน  ก็จะได้อีกหนึ่งรสชาติ
      
       ใส่เสน่ห์ปลายจวักไปเต็มๆ อย่างนี้ “กุ๊กเล็ก” รับรองว่ากวยจั๊บชามนี้จะต้องอร่อยเลิศยิ่งกว่าเจ้าไหนๆ แน่นอน
 
 
 
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 มิถุนายน 2547 21:23 น.โดย : กุ๊กเล็ก
              วันนี้ “กุ๊กเล็ก” เกิดครึ้มอกครึ้มใจ  อยากจะเพิ่มความสวยผ่องใสให้กับตัวเองบ้าง เลยลงทุนไปหาซื้อมะขามเปียกมา  แล้วก็จัดแจงเอามาขัดตัวเป็นการใหญ่  แต่ปรากฏว่าทำอย่างไรมะขามเปียกมันก็ไม่หมด เลยนั่งคิดตั้งนานสองนาน  ว่าจะทำอะไรกับเจ้าส่วนที่เหลือนี้อย่างไรดี เพราะถ้าจะทิ้งไปก็เสียดาย  จนนึกได้ว่าเชฟของโรงแรมดิ เอมเมอรัลด์ เคยให้สูตร กุ้งราดซอสมะขาม  ไว้นี่นา
      
       นึกได้ดังนั้น “กุ๊กเล็ก”  ก็เลยจัดการเตรียมสารพันเครื่องปรุงทั้งหลาย แล้วบึ่งเข้าครัว  ทำกุ้งราดซอสมะขาม ที่รับรองว่าต้องเด็ดแน่ เพราะมีตั้งสามรสชาติในจานเดียว  จะเป็นอย่างไร ไปทำกันเลยดีกว่า
      
       เครื่องปรุง
       กุ้งก้ามกราม                    5-6 ตัว
       พริกแห้งหั่นท่อนสั้นทอด    ¼ ถ้วย
       หอมแดงเจียว                  ¼ ถ้วย
       กระเทียมเจียว                 2 ช้อนโต๊ะ
       ใบมะกรูดทอด                 3-4 ใบ
       เส้นหมี่ทอด                    ¼ ถ้วย
       น้ำตาลปี๊บ                      1/4 ถ้วย
       น้ำปลา                          2 ช้อนโต๊ะ
       น้ำมะขามเปียก               ¼ ถ้วย
       น้ำเปล่า                         2 ช้อนโต๊ะ
       น้ำมันสำหรับทอดกุ้ง         4 ถ้วย
       
       ขั้นตอนการทำเริ่มแรกก็ล้างกุ้งให้สะอาด แกะเปลือกออก  ส่วนหัวกับหางนั้นให้เหลือไว้ จัดการผ่าหลังชักเส้นดำออกโดยผ่าให้ลึกๆ  แต่ไม่ให้ขาด กุ้งจะได้สวยๆ จากนั้นก็เอากุ้งไปทอดด้วยไฟร้อนปานกลาง  พอทอดกุ้งสุกเหลืองก็ตักขึ้นมาให้สะเด็ดน้ำมัน แล้วพักไว้ก่อน  เพราะต้องไปทำน้ำซอสมะขาม
      
       ซึ่งการทำน้ำซอสมะขามก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร ตั้งกระทะให้ร้อน  ใส่น้ำมัน 3 ช้อนโต๊ะ ตามด้วยน้ำตาล  จากนั้นก็เคี่ยวจนเริ่มมีสีเข้มและข้นขึ้น แล้วก็ใส่น้ำปลา น้ำมะขามเปียก  ตามด้วยน้ำเปล่า เคี่ยวต่อไปอีกสักครู่ ก็เป็นอันว่าทำน้ำซอสมะขามเรียบร้อย
      
       ต่อจากนั้นก็บรรจงจัดหอมแดงเจียว กระเทียมเจียว พริกแห้งทอด  ใบมะกรูดทอด เส้นหมี่ทอด วางที่มุมจาน ต่อด้วยกุ้งทอดวางเรียงให้สวย  ราดน้ำซอสมะขามลงบนตัวกุ้ง โรยด้วยพริกเหลือง พริกแดง พริกเขียว  ที่หั่นฝอยเล็กๆ เท่านี้ก็ได้กุ้งราดซอสมะขาม รสชาติเปรี้ยว หวาน เค็ม  สุดกลมกล่อมมาทานอีกหนึ่งจานแล้ว