homeowners insurance Claim home insurance Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim commercial insurance Claim cheap auto insurance Claim cheap health insurance Claim indemnity Claim car insurance companies Claim progressive quote Claim usaa car insurance Claim insurance near me Claim term life insurance Claim auto insurance near me Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim progressive renters insurance Claim state farm insurance quote Claim metlife auto insurance Claim best insurance companies Claim progressive auto insurance quote Claim cheap car insurance quotes Claim allstate car insurance Claim rental car insurance Claim car insurance online Claim liberty mutual car insurance Claim cheap car insurance near me Claim best auto insurance Claim home insurance companies Claim usaa home insurance Claim list of car insurance companies Claim full coverage insurance Claim allstate insurance near me Claim cheap insurance quotes Claim national insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim health insurance quotes Claim ameritas dental Claim state farm renters insurance Claim medicare supplement plans Claim progressive renters insurance Claim aetna providers Claim title insurance Claim sr22 insurance Claim medicare advantage plans Claim aetna health insurance Claim ambetter insurance Claim umr insurance Claim massmutual 401k Claim private health insurance Claim assurant renters insurance Claim assurant insurance Claim dental insurance plans Claim state farm insurance quote Claim health insurance plans Claim workers compensation insurance Claim geha dental Claim metlife auto insurance Claim boat insurance Claim aarp insurance Claim costco insurance Claim flood insurance Claim best insurance companies Claim cheap car insurance quotes Claim best travel insurance Claim insurance agents near me Claim car insurance Claim car insurance quotes Claim auto insurance Claim auto insurance quotes Claim long term care insurance Claim auto insurance companies Claim home insurance quotes Claim cheap car insurance quotes Claim affordable car insurance Claim professional liability insurance Claim cheap car insurance near me Claim small business insurance Claim vehicle insurance Claim best auto insurance Claim full coverage insurance Claim motorcycle insurance quote Claim homeowners insurance quote Claim errors and omissions insurance Claim general liability insurance Claim best renters insurance Claim cheap home insurance Claim cheap insurance near me Claim cheap full coverage insurance Claim cheap life insurance Claim

“คืนคริสต์มาส”เมนูไข่ปลาคาร์เวียร์ / แม่ช้อย นางรำ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 ธันวาคม 2547 13:20 น.




โดย : แม่ช้อย นางรำ






“ไข่ปลาคาร์เวียร์”จาก “อีหร่าน” จานนี้ใครกินก็แฮปปี้..
       โฮ..โฮ..โฮ เจ้านาย
      
       คืนนี้เรามาฉลองความสุขก่อนหน่อย
      
       เอาให้อร่อยเหาะเมนูเฉพาะ
      
       เพราะฉะนั้นเราจะกินไข่ปลาคาร์เวียร์กัน

      
       คริสต์มาสคืนนี้..เราจะฉลองกันที่ไหนดีเจ้านาย
      
       อะ..อะ อย่าชวนอีชั้นไปกินเค้กคริสต์มาสแข็ง..แข็ง ชนิดปาหัวหมาร้องเอ๋ง!!! เชียวนะเจ้าค่ะกินอย่างนั้น อยู่บ้านกินส้มตำ ซกเล็ก ลาบ ลู้ เห็นจะดีกว่า
      
       คริตสต์มาสอย่างคืนนี้ อีชั้นไม่รบกวนเจ้านาย จะต้องพาลูกน้องไปกิน“ไก่งวงอบ” อย่างพวกฝรั่งมังค่า
      
       เขาจะต้องกินกันเป็นธรรมเนียมหรอก!! อย่างนั้นมันรบกวนเจ้านาย
      
       เอาอย่างนี้ดีกว่า ไก่งวงไม่เอา งั้นเรามาฉลองกันด้วยไข่ปลาคาร์เวียร์กับแชมเปญเลยเป็นไงเจ้านาย
      
       ก่อนอื่นอีชั้นจะต้องเล่าให้เจ้านายตัดสินใจก่อนว่า ทำไมเราจึงต้องคาร์เวียร์กันในคืนนี้
      
       เรื่องก็มีอยู่ว่า การกินไข่ปลาคาร์เวียร์นี่ สังคมคนตะวันตกทั้งหลายเขาถือกันว่า เป็นเมนูพิเศษของเหตุการณ์สำคัญกันจริงๆ
      
       เขาไม่ได้กินทิ้งกินขว้าง กินกันอย่างพร่ำเพื่อซะเมื่อไหร่ ก็จะทำอย่างนั้นกันได้อย่างไร ไข่ปลาคาร์เวียร์จัดเป็นอาหารกินเล่นจานแพงที่สุดในโลกเห็นจะว่าได้ ขนาดอีชั้นไปงานของรัสเซียทีไร เดี๋ยวนี้เขาไม่ได้เสริฟไข่ปลาคาร์เวียร์กับวอลก้ากันอีกแล้ว ถ้าอยากกินก็ให้กลับบ้านไปกินไข่ปลาดุกนึ่งคลุกกับข้าวเหยาะน้ำปลา มะนาว พริกกินแทนก็แล้วกัน





       ไหน..ก็ไหนไหน เจ้านายจะต้องพาอีชั้นไปกินไข่ปลาคาร์เวียร์ ไม่ของอีหร่านก็ของรัสเซียกับแชมเปญฝรั่งเศส
      
       เพื่อการรับประทานให้สุนทรีย์ อีชั้นก็เลยมีเรื่องราวของไข่ปลาคาร์เวียร์มาฝากเล่า
      
       เพื่อเจ้านายจะได้รู้ว่า ชื่อว่าไข่ปลาคาร์เวียร์ แต่ไม่ได้มาจากปลาที่ชื่อว่าคาร์เวียร์หรอกเจ้าค่ะ ปลาที่ฝรั่งแขกเอามาใช้ไข่ เป็นปลาที่ชื่อว่า “ปลาสเตอร์เจียน” ส่วนใหญ่จะมีในทะเลสาบ “แคสเปี้ยน” ทะเลสาบน้ำเค็มใหญ่ที่สุดในโลกอยู่ใจกลางของทวีปเอเชีย
      
       และที่น่าจะรู้กันไว้ก็คือ เจ้าปลาปลาสเตอร์เจียนนี้เป็นปลาพันธุ์โบราณล้านปี เป็นปลายุคเดียวกับสมัย “จูราสสิค” คนรู้จักกันมาตั้งแต่สมัยกรีกโรมันกันแล้ว
      
       ตำนาน “ไข่ปลาคาร์เวียร์” สมัย “พระเจ้าอิวาน” กษัตริย์รัสเซียที่ได้ชื่อว่า “อิวานจอมโหด”โทษ อย่างหนึ่งที่ท่านจะใช้ประหารวิเสทหรือ พ่อครัวของท่านก็คืออาหารมื้อนั้นไม่มีไข่ปลาคาร์เวียร์ ซึ่งถือว่าเป็นอาหาร อร่อยที่มีค่าเท่ากับวัวหรือแกะพันตัวต่อไข่ปลา หนึ่งจานเล็กๆ
      
       ความเอร็ดอร่อยของเจ้าไข่เม็ดเล็กๆซึ่งจับกันเป็นก้อน อยู่ที่รสชาติเค็ม..เค็ม มัน..มัน แล้วก็หอม..หอม เบื้องหลังความอร่อยอยู่ที่การดองไข่ปลาปลาสเตอร์เจียนกับเกลือในถังไม้โอ๊ค ที่คัดเลือกมาเฉพาะเจาะจงเท่านั้น
      
       ส่วนการรับประทานก็มีทั้งเอามากินกับขนมปังกรอบที่ทาเนย หรือเป็นส่วนหนึ่ง ในการปรุงอาหาร ที่ต้องรสชาติเค็มๆมันๆและกลิ่นหอมซึ่งมีเฉพาะในไข่ปลาพันธุ์นี้ เท่านั้น
      
       สมัยอีชั้นเล่าเรียนอยู่เมืองฝรั่ง เอาไข่ปลาคาร์เวียร์มาโรยหน้าไข่ลวกใส่แทนซอส อร่อยอย่างไม่รู้จะอธิบายอย่างไรดี เจ้านายจะตัองทำกินเองก็จะรู้ได้ ส่วนอาหารจานอื่น ไม่ว่าจะเป็นอาหารทอดที่ต้องมีซอสอร่อยราด ถ้าขาดคาร์เวียร์ละก็ ไม่กินกันเลยจะดีกว่า
      
       คืนคริตสต์มาส..คืนนี้เมนูพิเศษของเรา ลูกน้องกับเจ้านายจะต้องกินไข่ ปลาคาร์เวียร์กับจิมแชมเปญไปพลางๆ
      
       อร่อยอย่างมีระดับสำหรับคืนประทับใจ เมนูไข่ปลาคาร์เวียร์ที่เจ้านายเลือกสั่งให้อีชั้น ก็มีหลานจานอย่างปลาสเตอร์เจียนบดโรยหน้าด้วยไข่ปลาคาร์เวียร์กับซอสบีทรูท ,หรือจะเป็นปลาแซลมอนสลัดผักโรยกับไข่ปลาคาร์เวียร์ , ปลากระพงหมักมะนาวเสริฟกับไข่ปลาคาร์เวียร์ ไข่ปลาคาร์เวียร์กินสดกับมะเขือเทศก็ไม่เบา เลือกเอาสักจานเอาสักอย่าง ใครได้กินไข่ปลาคาร์เวียร์คืนนี้ รับรองว่าแฮปปี้ แมรี่คริสตมาสทั้งนั้น
      
       ..คนได้กินแฮปปี้เจ้าค่ะ ส่วนคนจ่ายสตางค์แฮปแค่ไหนก็ต้องดูตอนจ่ายบิลแล้วกันนะเจ้าค่ะ
      
       “เมนูไข่ปลาคาร์เวียร์ คริสตมาส” มีที่โรงแรมแกรนด์ เวสติน ปากซอยวัฒนา ถนนสุขุมวิท เท่านั้น สนใจติดต่อคุณ “นันทิรัตน์ ประเสริฐทรัพย์” โทรศัพท์ 0-2651-1000 ต่อ 6020

“เปอรานากาน”อาหารแห่งความรัก

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 มกราคม 2548 11:54 น.





โดย : แม่ช้อย นางรำ






อร่อยแค่ไหน อย่าดูที่นิ้วหัวแม้โป้ง ให้ดูจานที่เกลี้ยงบนโต๊ะก็แล้วกัน
       “กุมภาพันธ์...เดือนหน้า
      
       ก็จะถึง“วันวาเลนไทน์”
      
       เมืองมะละกา...ที่นั่นมี
      
       อาหารแห่งความรักเจ้าค่ะ”

      
       เริ่มต้นปีใหม่ เจ้านายขา ขอให้อีชั้นเริ่มต้น “เมนูผู้จัดการ”ด้วยอาหารที่มีความหมายแห่งความรักนะเจ้าค่ะ
       เพราะความรักทำให้โลกหมุน
      
       ปีเก่าผ่านไป ปีใหม่เข้ามา ก็เพราะเรารักกันไงเจ้าค่ะ จึงทำให้โลกต้องเคลื่อนไหว โลกคงจะหยุดทันใด ถ้าโลกนี้คนไร้ความรักทันที
      
       เพราะฉะนั้น อีชั้นจึงเลือกที่จะเขียนอาหารแห่งความรัก อยากให้คนในโลกรักกัน
      
       เดินทางมาแล้วแทบจะรอบโลก กินอาหารมาแล้วทุกสถานที่ มีแห่งเดียวในโลกนี้เท่านั้น คนที่นั่นเขาเรียกอาหารที่เขารับประทานว่า...“เลิฟ ฟู้ด ( Love Foods)”
       

       อาหารแห่งความรักที่ว่านี้ อยู่เมืองมะละกา ไม่ใกล้..ไม่ไกลจากเมืองไทยเราเท่าไร สมัยกรุงศรีอยุธยา เคยเป็นเมืองของเราเสียด้วยซ้ำ
      
       มาเสียไปตอนที่ ฝรั่งปอร์ตุเกสมาล่าเมืองขึ้น ได้เมืองกัว อินเดีย แล้วก็มาได้มะละกา จากไทย จากนั้นก็ไปได้เมืองมาเก๊า จากจีนสองแผ่นดินที่เป็นเมืองขึ้นปอร์ตุเกส คือ เมืองกัว เมืองเก๊า อีชั้นเคยเขียนแนะนำไปแล้วเหลือแต่กานี่เท่านั้น( น่าแปลกมั๊ยเจ้าค่ะ เมืองขึ้นของปอร์ตุเกส มักใช้ตัว ก. ไก่เป็นชื่อเมือง)






อาหาร “เปอรานากาน” จีนก็กินได้ แขกก็กินดี ไม่มีปัญหา
       วันนี้..อีชั้นจะพาเจ้านายไปกิน อาหารแห่งความรักที่เมือง “มะละกา”ประเทศมาเลเซีย
      
       มะละกา เมือง “มะละกอ” ถ้ามีคนสงสัยถามว่า มะละกอมาจากไหน อีชั้นก็ตอบด้วยหลักฐานประวัติศาสตร์ว่า มาจากเมืองมะละกา
      
       เรื่องนี้มีอยู่ว่า “มะละกอ”เป็นพืชผลของอเมริกา ใต้ นักเดินเรือปอร์ตุเกส นำมาเผยแพร่เมืองนี้ คนไทย เอาไปสับและโขลกโปก..โปกเป็น ตำส้ม..ส้มแล้วว่าอร่อยดี แต่ลิ้นไทยก็เรียกเจ้าผลไม้นี้ว่า “มะละกอ” เพราะได้มาจาก “มะละกา”
       

       “เมืองมะละกา”อยู่ตรงช่องแคบมะละกา ตรงกันข้ามกับเกาะสุมาตรา ก่อนที่ปอร์ตุเกสจะมายึดเป็นเมืองขึ้น เพราะต้องการคุมเส้นทางเดินเรือจากมหาสมุทรอินเดียเข้ามหาสมุทรแปซิฟิก
      
       คนจีนเคยเดินทางมาที่นี่ก่อน ตั้งแต่สมัย”ซำปอกง”ยกกองทัพเรือเป็นพันลำผ่านมา จากนั้นอิทธิพลของนักเดินเรืออาหรับ พวกกะลาสีซินแบดก็เข้ามาปักหลักแทน
      
       เมืองนี้ก็เลยมีคนสองสัญชาติ คือเป็นคนจีนไม่กินเนื้อ แล้วก็อาหรับไม่กินหมู แต่คนทั้งสองวัฒนธรรม สองศาสนา ก็สามารถอยู่ร่วมกันได้ ไม่มีปัญหาโดยเฉพาะอาหารการกิน
      
       นี่ล่ะเจ้าค่ะ ที่มาของอาหารแห่งความรักที่เรียกว่า “เปอรานากาน”
       







บ้านของชาวบ้าบา ที่มาของอาหารเปอรานากาน
       เมื่อสาวจีนต้องแต่งงานกับหนุ่มแขก หรือสาวแขกต้องแต่งงานกับหนุ่มจีน จะอยู่จะกินกันได้ เพราะทั้งสองฝ่ายคิดค้นเมนูอาหารขึ้นมาเปิบร่วมกัน
      
       “อาหารเปอรานากาน”..เป็นอาหารที่ไม่มีทั้งเนื้อหมู และไม่มีทั้งเนื้อวัว
      
       คนจีนนับถือเจ้าแม่กวนอิมก็กินได้ คนแขกไม่กินเนื้อหมูก็กินได้
      
       บทสรุปทั้งหลายจึงมาลงที่กินอาหารซีฟู้ด อาหารทะเลประเภท กุ้ง หอย ปู ปลาแทน เกิดเป็นเมนูอาหารที่เรียกว่า “เปอรานากาน” แทนนี่ไง
      
       อาหารที่ว่านี้ กำเนิดเกิดขึ้นที่เมืองมะละกาแห่งนี้ แล้วก็ขยายไปถึงสิงคโปร์ บางทีก็มีบางทางจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ถ้าจะว่ากันถึงต้นตำรับแล้วไซร้ก็ต้องไปกินที่เมืองมะละกา มาเลเซียนี้เท่านั้น ถึงจะได้รสชาติดังเดิม
      
       อาหารแห่งความรักจะมีเครื่องเทศแบบแขก รวมทั้งมีพริกเผ็ดๆ แต่ก็มีรสชาติเค็มๆเลี่ยนๆ มันๆ แบบคนจีน
      
       ถ้าเจ้านายผ่านไปที่นั่น แวะไปกินร้านไหนที่มะละกาเมนูก็จะคล้ายๆกันทุกเรื่องคือมี กุ้งทะเลผัดพริกแกง ปูทะเลผัดพริกไทยดำ ปลาหมึกผัดน้ำหมึก(ความจริงเป็นสูตรของคนจีนฮกเกี้ยน)
      
       แล้วที่จะต้องสั่งให้ได้คือ ผักบุ้งจีนผัดกะปิแขก ที่เรียกว่าปาราจัน อาหารแห่งความรัก “เปอรานากาน” จะจบลงด้วยของหวาน จะชื่อเป็นมาเลย์หรือเป็นชื่อของพวกบาบ้า (หมายถึงลูกครึ่งผสมแขกจีนในมาเลย์) อย่างไร อย่าไปสนใจ
      
       แต่เมื่อกินเข้าไปแล้ว คนไทยจะต้องร้องว่า.... “ลอดช่องนี่หว่า”
       

       ก็ลอดช่องนั่นล่ะเจ้าค่ะ อิทธิพลของคนอยุธยาก็ยังอยู่ในเมืองมะละกา ด้วยลอดช่องน้ำกะทิแบบคนไทยโบราณดั้งเดิมเจ้าค่ะ...เจ้านาย

อาหาร “แมคเคนนีส” มาเก๊า-ปอร์ตุกีส”

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 สิงหาคม 2547 13:47 น.






 โดย : แม่ช้อยนางรำ






“ซุปแมคเคนนีส” ใส่ลงมาในก้อนขนมปัง
       
       คนปอร์ตุกีสกินขนมปัง คนจีนกินข้าว
      
       เมื่อรวมกันเข้าก็เป็นอาหารแปลกใหม่
      
       เรียกกันว่า “แมคเคนนีส” กวางตุ้งก็ไม่ใช่
      
       ปอร์ตุเกสก็ไม่เชิง

      
       ไปมาเก๊าคราวนี้...อีชั้นไม่ได้กิน “หมูนึ่งปลาเค็ม” เจ้าอร่อยที่เราเคยกินหรอกเจ้าค่ะ...เจ้านาย
      
       แล้วร้าน “ตาปินโหวง” หรือร้านหม้อไฟแบบคนมาเก๊าที่คนฮ่องกงลอกไปทำตาม อีชั้นก็ไม่ไป แล้วก็รวม...รวมไปถึงขนมที่ฝรั่งเรียกว่า “เอ๊กซ์ทาสต์” หรือคนไทยเรียกว่า “พายไข่” ที่ขึ้นชื่อของมาเก๊า อีชั้นก็ไม่ไป เพราะมาคราวนี้ตั้งใจไว้ว่าจะไปกินอาหาร “แมคเคนนีส”
      
       หลายปีดีดักที่อีชั้นมาที่นี่ ไม่เคยมีโอกาสได้ไปกินอาหารท้องถิ่น ที่ไม่ใช่อาหารปอร์ตุเกสแท้ๆ แล้วก็ไม่ใช่อาหารกวางตุ้งจริงๆ สักครั้ง






บรรยากาศภายในร้าน “OPORTOINTERIOR”
       เจ้านายมาที่นี่ก็จะกินแต่อาหารจีนทุกที
      
       เดี๋ยวนี้กินอาหารจีนแบบกวางตุ้งไม่ต้องมาถึงมาเก๊าหรือฮ่องกงหร๊อก!!
      
       บ้านเราก็ทำอร่อยเหมือนเขาทุกอย่างและที่สำมะคัญก็คือ ราคาถูกกว่า และบริการก้มมาตรฐานกว่า
      
       ประเภทโยนจานใส่ กระแทกแก้วน้ำโครมครามตรงหน้า บ้านเรารู้มารยาทไม่ทำกันแบบพวกมาเก๊า ฮ่องกงเขาถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา...”ลื้อไม่พอใจ ก็ไม่ต้องกิน ยังมีคนเขารอโต๊ะว่างอยู่อีกเยอะ” ไอ้ตี๋...อีหมวยมันคงคิดอย่างนั้น
      
       “อาหารแมคเคนนีส”...ก็คืออาหารเมนูพิเศษที่เกิดขึ้นเฉพาะเกาะมาเก๊า อ่าวอาม้าแห่งเดียวเท่านั้นในโลก
      
       เป็นอาหารผสมปนเปกันระหว่างคนจีนกวางตุ้งกับคนปอร์ตุเกส ซึ่งจะเรียกว่าอาหารจีนก็ไม่ใช่ หรืออาหารปอร์ตุเกสก็ไม่เชิง เพราะฉะนั้นอาหารเมนูนี้ จึงมีที่นี่
      
       ใครอยากจะรู้ว่าคนจีนปอร์ตุเกสเขากินอย่างไรกัน ก็จะต้องมาที่มาเก๊าแห่งเดียว
      
       ไปปอร์ตุเกสที่ยุโรปไม่มีขาย ไปเมืองจีนแผ่นดินใหญ่ก็ไม่มีให้กิน
      
       บินไปมาเก๊าคราวนี้กับสายการบิน “แอร์ เอเชีย” เที่ยวบินปฐมฤกษ์ ค่าบินจากกรุงเทพ มาที่นี่แค่ 1,000 เดียวเท่านั้น บินสบายๆ เพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้นก็ถึงมาเก๊าแล้ว
      
       ในมาเก๊า มีอาหารแมคเคนนีสอยู่หลายเจ้า แต่ถ้าใครรู้จักคนมาเก๊าก็บอกให้เขาทำกินก็ยังได้ บ้านไหนครัวไหนก็ทำได้ทั้งนั้น
      
       วัตถุดิบที่สำคัญก็คือ พวก กุ้ง หอย ปู ปลา เป็นแบบจีนแต่เครื่องปรุงรสชาติกลับเป็นแบบคนปอร์ตุเกสไปเสียนี่
      
       เพราะฉะนั้นจึงเป็นอาหารจีนที่มีทั้งลูกมะกอกสด ลูกมะกองดอง น้ำมันมะกอก ไวน์ซึ่งก็รวมทั้งเครื่องเทศแบบเกาะโมลุกกะ หลากหลายชนิดที่อาหารจีนไม่กล้าใส่ แต่ “แมคเคนนีส” คลุกเข้าไปไม่ยั้งมือ






“ปูผัดไวน์ขาวใส่มะกอก”
       ร้านอาหารแมคเคนนีสโด่งดังที่สุดของเกาะนี้ อยู่ใกล้ๆ ศาลเจ้าอาม้า หรือพิพิธภัณฑ์เรือเดินทะเล ตั้งแต่สมัยปอร์ตุเกสเข้ามาล่าอาณานิคมร้านนี้ชื่อว่า “โอพอร์ตโต้ อินเทอร์เนียร์” ฟังสำเนียงก็รู้ว่าไม่ใช่ภาษาอังกฤษ นี่มันปอร์ตุกีสชุดๆ
      
       ร้านนี้พอเข้าไปก็รู้ว่าต้องอร่อย เพราะข้างฝาร้านเต็มไปด้วยรูปถ่ายลายเซ็นของคนดังๆ ในโลกที่เคยมากินอาหาร “แมคเคนนีส” ร้านนี้มากมาย
      
       อาหารแมคเคนนีสที่อีชั้น ขอแนะนำให้เจ้านายสั่งก็อย่างนี่เจ้าค่ะ
      
       เริ่มด้วยซุปข้นเนื้อปูใส่มาในก้อนขนมปัง และขนมปอร์ตุเกสที่แสนอร่อยยิ่งกว่าทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ขนมเมนูต้องลองห้ามลืมอย่าเด็ดขาด
      
       เจ้านาย...ถึงจะเป็นผู้ที่มรสนิยมอาหารตะวันก แต่อีชั้นเชื่อว่าคงไม่เคยกินอาหารปอร์ตุเกสแบบปนจีนที่ว่านี้
      
       เพราะฉะนั้นถ้าเจ้านายมาเก๊าอย่ามัวเข้าบ่อน ลองอาหารแบบพื้นบ้านที่มีอายุมานาน 4-500 ปีให้ได้ แล้วเจ้านายก็จะรู้ว่า
      
       อันรสชาติของชีวิตนั้นไม่อยู่ที่ได้หรือเสียในบ่อน แต่มันอยู่ที่ว่าเราจะแสวงหาของอร่อย...อร่อยกันอย่างไร
      
       เพราะการกินเที่ยวละก็เป็นความบันเทิงอย่างเดียวที่เราไม่มีวันขาด ทุน เพราะฉะนั้นถ้าเจ้านายจะไปมาเก๊าเพื่อเข้าบ่อนล่ะก็ฟังอีชั้นแนะนำดีกว่า
      
       ...เลิกซะเจ้าค่ะ บาคาร่า รูเล็ต ลูกเต๋า...ชิป เล่นแล้วฉิบหาย สู้กินไม่ได้ กินเท่าไหร่ กินได้กินไป ไม่มีใครหายนะเพราะการกินสักราย เชื่ออีชั้นเถอะ...
      
       (SANTI_MAECHOICE@HOTMAIL.COM)O PORTO INTERIOR RUE DO ALMIRANTE SERGION 259B R/C TEL 96770 FAX 968137. MACAO.

“กระหรี่หัวปลา” “ซูนเฮง” เจ้าอร่อยที่สิงคโปร์.

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 สิงหาคม 2547 15:57 น.










เครื่องกระหรี่รสจัด- กลิ่นฉุน
       สิงค์โปร์...พยายามจะดันเมนูดัง ปูผัดพริกไทยดำ / ข้าวมันไก่ / บะกูเต๋ และกระหรี่หัวปลา
      
       
เจ้านายเจ้าค่ะมีอย่างเดียวเท่านั้น ที่อร่อยกว่าเมืองไทยคือกระหรี่...เจ้าค่ะ “กระหรี่หัวปลา”
      
       เจ้านาย เจ้าค่ะ...ไปมาเลย์-สิงคโปร์คราวนี้ อีชั้นบอกกับลูกทัวร์ “ชมรมเปิบพิสดาร”ว่า
       อีชั้นจะพาไปเปิบอาหารสุด...สุดของมาเลย์ ของสิงค์โปร์
      
       เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา ได้เขียนเรื่อง “บะกูเต๋” หรือซี่โครงหมูตุ๋นเครื่องยาจีนกินน้ำชาอร่อยที่สุดในยุทธจักร อยู่ที่ “กัวลาลัมเปอร์” ไปแล้ว
      
       อาทิตย์นี้ ก็จะถึงคราวที่อีชั้นจะพาไปเปิบอาหารอร่อยที่สุดของสิงคโปร์
      
       ใครที่ฟังแต่คำโฆษณาของการท่องเที่ยวสิงคโปร์ ก็มักจะนึกว่า อาหารที่อร่อยที่สุดของเกาะนี้ คือ “ข้าวมันไก่” ขอบอกว่า...ไม่ใช่!!
      
       ข้าวมันไก่อร่อยที่สุดในโลกอยู่ที่เมืองไทย ไม่ใช่เกาะไหหลำด้วยซ้ำ
      
       หรือใครคงจะคิดว่า “ปูทะเลผัดพริกไทยดำ” เป็นเมนูยอดอร่อยของที่นั่น
       อีชั้นก็บอกได้เหมือนกันว่า...ไม่ใช่!!
      
       ปูผัดผงกระหรี่ในเมืองไทยอร่อยที่สุด
      
       บรรดานักเปิบ...นักชิมมาเลย์ สิงคโปร์ยังต้องเดินทางมากิน “ปูผัดผงกระหรี่”ฝีมือไทยทำ หรือ “ปูผัดพริกไทยดำ” บ้านเราอร่อยกว่า
      
       งั้นอะไรล่ะ ที่เป็นเมนูอร่อยของสิงคโปร์ มีหรือเปล่า ?
       






“เมอร์ไลออน” สิงโตสิงคโปร์พ่นน้ำเพราะเผ็ดแกงกระหรี่หัวปลา
       มีเจ้าค่ะ...มีซิเจ้าค่ะ เจ้านาย เมนูอร่อยสุด...สุด ที่เราจะต้องปูผ้ากราบนับถือฝีมืออาเฮียก็คือ...“กระหรี่หัวปลา”
      
       และที่สุดอร่อยช้อยนางรำ เคยมาร่ายมารำไว้เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน ก็คือร้านนี้ ร้านที่ชื่อว่า “ซูนเฮง”
      
       จำเนียรความตามไท้ อีชั้นไปสิงคโปร์ครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ. 2519 ก็ตกราวเกือบสามสิบปีเห็นจะได้
      
       เพื่อนสิงคโปร์พาไปกินข้าวมันไก่ร้าน “ซุยกี่”ที่เขาลือนักลือหนาว่าอร่อยที่สุด แต่อพิโถ่ ฝีมือไม่เท่าไร
      
       ข้าวมันไก่ซอยสวนผัก ตลิ่งชัน อร่อยกว่า...ขาด!!
      
       เจ้าเพื่อนมันไม่หมดความพยายาม พาไปกินบะกูเต๋ เจ้าเก่าชื่อว่าร้าน “อึ้งอาโช่ย” อยู่ถนน “ริเวอร์ วัลเล่ย์” กินแล้วก็ได้เฮ เพราะของเขาอร่อยจริง ๆ
      
       แต่ตอนนั้นยังไม่ได้ไปกินที่ “ซันฮอง” กัวลาลัมเปอร์
      
       แต่เรื่องทั้งหลายก็มาลงตัวที่ร้าน “ซูนเฮง” เจ้ากระหรี่หัวปลานี่ไง อร่อยไม่มีที่ติ
      
       ความจริงแล้ว “กระหรี่หัวปลา” สูตรดั้งเดิมเป็นของพวกแขกทมิฬในสิงคโปร์เขาทำกินกัน โดยการกินด้วยมือ แต่อาหารราดบนใบตอง
      
       อีชั้นไปลองกินแล้ว มันก็อร่อยแบบแขกคือกลิ่นเครื่องเทศฉุนอย่างเดียว รสชาติมีแต่เผ็ดกับร้อน
      
       พวกจีนนั้นล่ะเจ้าค่ะเจ้านาย อยู่ทึ่ไหนก็สมารถดัดแปลงอาหารท้องถิ่นเขาได้อร่อยกว่า
       






“กระหรี่หัวปลา” ยกมาทั้งชามคนเดียวเกลี้ยง
       เพราะฉะนั้นถ้าจะไปกิน “กระหรี่หัวปลา” ที่สิงคโปร์ จะต้องเลือกร้านของพวกจีนฮกเกี้ยนนะเจ้าค่ะ ไปเลือกร้านแขกจะแล๊กไม่ลง
      
       ความอร่อยของกระหรี่หัวปลาอยู่ที่น้ำแกงที่จะออกรสเปรี้ยว เค็ม เผ็ดนำ ความหวานจะไม่มี แขกจีนไม่กินหวานเหมือนคนบ้านเรา
      
       ความเข้มข้นของน้ำแกงอยู่ที่การใช้เครื่องกระหรี่แบบอินเดียแท้ ๆ ในขณะที่ร้านอาหารที่กรุงเทพใช้ผงกระหรี่สำเร็จรูปจากอังกฤษ
      
       สูตรในปรุงเครื่องกระหรี่แต่ละร้านมีไม่เหมือนกัน ก็คิดเถอะเจ้าค่ะว่าเครื่องแกงกระหรี่ นั้นมีส่วนผสมเป็นสิบ ๆ อย่าง ถ้ามือไม่เที่ยงจริงอร่อยยาก
      
       นอกจากนั้นเครื่องปรุงที่สำคัญคือ...กระเจี๊ยบ!!
      
       กระเจี๊ยบที่ใช้เป็นกระเจี๊ยบมอญที่เอาแกงมะตาดนั่นแหละ เพราะจะทำให้น้ำแกงข้นด้วยยางที่เมื่อได้ “มะขามแขก” ที่ออกรสเปรี้ยวเข้ากันแล้ว อร่อยไม่เหมือนรสใด
       รวมความกับการใช้หัวปลาสด ๆ ที่บ้านเราเรียกว่า “ปลาเมี้ยน” ต้มเสียจนหัวปลานุ่มแทะเนื้อแทนหนังได้อร่อย ปลาทั้งตัวคนกินเป็นเขาจะเลือกกินหัวกับพุงเท่านั้น
      
       ร้านกระหรี่หัวปลา “ซูนเฮง”ที่ว่า แต่ก่อนเป็นร้านห้องแถวชั้นเดียว แต่ไปเที่ยวนี้ที่ไหนได้ขยายร้านเป็นสองสาขา ร้านแรกแบบโบราณใช้พัดลมธรรมดา แต่ร้านใหม่เป็นร้านทันสมัยใช้เครื่องปรับอากาศ
      
       อีชั้นก็อยากจะแนะนำเจ้านายว่า ถ้าจะกินกระหรี่หัวปลาให้ได้รสชาติ มันต้องร้านเก่า กินไปกับเหงื่อไหลไคลย้อย
      
       เลยไม่รู้ว่า“กระหรี่หัวปลา” ที่อร่อยนั้นเป็นเพราะว่าเหงื่อหัวล้านของเราตกลงไปในชามบ้างหรือเปล่า
      
       ถ้าตกลงไปก็ช่างมัน อร่อยอย่างนี้ต่อให้เอาน้ำล้างมือเทใส่ลงไป ก็ยังว่าอร่อยเสียด้วยซ้ำไป...อีชั้นลองมาแล้วด้วยความประมาท
      
       ...พลั้งพลาดซดน้ำแกงในชามไปคำเบ้อเร่อ เพื่อนฝูงไปด้วยกันตะโกนให้ลั่น... “เฮ้ยน้ำล้างมือนะแม่ช้อย”
      
       ...เออล้างก็ล้างไป ข้ากำลังอร่อยอย่ามายุ่ง...ลิ้นของข้า พุงของข้าอย่ายุ่ง พุงใครพุงมัน
      
       “แม่ช้อย นางรำ”
      
       
SOON HENG CURRYFISH HEAD39 KINTAROAD SINGAPORE 219108
       TEL 6294-6561 , 6294-7343

“ซันฮง” บะกูเต๋มาเลย์

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 สิงหาคม 2547 14:09 น.





 โดย : “แม่ช้อยนางรำ”






01 “บะกูเต๋ซันฮง” สัญลักษณ์ปรุงทีต้องทำ ๓ หม้อ
       



ใครบอกว่า “บะกูเต๋” สิงค์โปร์อร่อย
      
       



นั่นแสดงว่าเขาไม่ได้มากินร้านนี้
      
       



“บะกูเต๋” กำเนิดเกิดขึ้นในมาเลย์
      
       



บะกูเต๋อร่อยที่สุดอยู่ที่ร้านนี้
      
       กลับมาแล้วเจ้าค่ะ...เจ้านาย
      
       “ทัวร์เปิบพิสดาร” ของอีชั้นกับแควน...แควนที่ไปลุยกินที่มาเลย์ ที่สิงค์โปร์กลับมาแล้ว ด้วยความอิ่มหนำสำราญ
      
       งานนี้ใครน้ำหนักไม่ขึ้น 2-3 กิโลละก็มาต่อว่ากันได้
      
       ใครว่ากินอาหารจีนต้องไปที่ฮ่องกงละก็ขอบอกว่า ลองมาแค่มาเลย์-สิงค์โปร์กับอีชั้นเห็นทีต้องเปลี่ยนคำพูดใหม่
       ถ้ากินอาหารกวางตุ้งละก็โอ.เคต้องไปกินที่ฮ่องกง
      
       แต่ถ้าจะกินอาหารจีนฮกเกี้ยน จีนแต้จิ๋วละก็ต้องมาที่มาเลย์ สิงคโปร์เท่านั้น กระทั้งบ้านเราอาหารสองจีนที่ว่านี้...สู้เขาไม่ได้
      
       จะสู้เขาได้อย่างไร
      
       คนไทยชอบปรุงอาหารจีนแบบลิ้นไทย ไม่ได้ไม่ดีขอให้มีเปรี้ยว มีเผ็ด มีหวานเอาไว้ก่อน แต่คนจีนเก่าอย่างสองจีนที่ว่า เขากินอาหาร รสชาติเดิม ๆ ตามธรรมชาติใช้เครื่องปรุงแต่งน้อยที่สุด
      
       เหมือนที่อีชั้นจัดทัวร์ไปมาเลย์นี่ก็เพราะว่า ต้องการให้แฟนคอลัมน์ “เปิบพิสดาร” กับ “เมนูผู้จัดการ”ให้ รู้กันว่าอาหารจีนฮกเกี้ยน กับอาหารจีนแต้จิ๋ว อร่อยแท้...แท้นะมันอร่อยแค่ไหน ส่วนอาหารกวางตุ้ง อาหารเซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง ยูนนาน เคยจัดมาแล้วไง






02 หน้าร้าน “ซันฮง” สมัยก่อนมีคูหาเดียว ตอนนี้เป็น ๓ คูหาแถมยังติดแอร์อีต่างหาก
       ถ้าจะเหลือก็คงแค่ เสฉวน กับชานตุง ไหหลำ เท่านั้นที่ยังไม่ได้จัด ปีหน้าถ้าไม่มีอะไรติดขัด...อาจจัดได้
       สำหรับอาหารจีนฮกเกี้ยน ต้องกินที่มาเลย์ เช่นเดียวกับอาหารจีนแต้จิ๋วต้องกินที่สิงค์โปร์
      
       จีนพวกนี้เป็นจีน “โอเวอร์ซี” ฝรั่งเรียกอย่างนั้น แต่คนไทยเรียกจีนโพ้นทะเล ส่วนคนจีนเขาเรียกตัวเองว่า “หัวเฉียว”
      
       อีชั้นเที่ยวมารอบทั้งจีนโพ้นทะเล ทั้งจีนในทะเล ก็สรุปได้ว่าถ้าจีนเป็นจีนโพ้นทะเลฮกเกี้ยน อาหารยอดเนี่ยมของเขาก็คือ...บะกูเต๋ ที่มีถิ่นกำเนิดเกิดขึ้นที่เกาะปีนัง ประเทศมาเลเซีย
      
       กระดูกหมูต้มเครื่องยาจีน กินกับน้ำชา หากินในประเทศจีนไม่ได้ ในโลกนี้ที่โด่งดังมี 2 ชาติ คือที่มาเลย์เจ้าตำรับ กับสิงค์โปร์เจ้าก๊อปปี้
      
       แต่ก่อนแต่ไรคนไทยไปสิงค์โปร์ ก็ว่าต้องกิน “บะกูเต๋” เพราะความไม่รู้จริง
      
       บะกูเต๋...อร่อยที่สุดอยู่ในมาเลย์ แล้วบะกูเต๋มาเลย์อร่อยที่สุดอยู่ที่ “กัวลาลัมเปอร์” ร้านชื่อว่า “ซันตุง” อีชั้นตระเวนกินมาทั่วมาเลย์ ทั้งที่เกาะปีนัง ทั้งอีโปว์ ปะลิต ยะโฮร์ ทั้งหมดมาตายที่ “เค.แอล” หรือกัวลาลัมเปอร์ชื่อเต็มนี่ล่ะแห่งเดียว
      
       กินกันมาเป็นสิบ ๆ ปี ตั้งแต่ร้านเป็นห้องแถวเล็กห้องเดียวมีที่นั่งไม่ถึงสิบเก้าอี้ แต่ตอนนี้ขยายร้านใหญ่โตสามคูหา แถมยังติดแอร์เย็นฉ่ำสบายอุรายามโซ๋ยอีกต่างหาก






03 “คากิต้มพะโล้” ของกินคู่กับบากูเต๋กับข้าวสวยร้อน ๆ
       ความอร่อยของบะกูเต๋เจ้านี้ ต้องว่าของเขาครบเครื่อง ไม่ใช่มีซี่โครงหมูอย่างเดียวซะเมื่อไร บรรดาเครื่องในหมู หางหมู เห็ดสารพัดสารพันก็โหมใส่ลงมาในหม้อดินร้อน ๆ ความอร่อยก็ต้องกินตอนนี้ บากูเต๋เย็นแล้วรสจะเปลี่ยนไป
      
       น้ำบะกูเต๋ของที่นี่จะเหลืองใส ไม่ขุ่นคลักแบบบากูเต๋ทั่วๆ ไป และที่สำคัญก็คือเครื่องบากูเต๋เจ้านี้เขาปรุงเอง เป็นรสชาติเฉพาะเจาะจง
      
       เรียกว่าลุกค้ากินอิ่มแล้วต้องเดินเข้าไปขอซื้อเครื่องบากูเต๋ที่เขาทำสำเร็จ ให้คุณซื้อเอาไปทำกินเองที่บ้าน
       แต่เชื่ออีชั้นเถิดเจ้านาย
      
       กินอร่อยต้องมากินร้านเขา ไปทำบ้านเราต่อให้ใช้สูตรเดียวกัน...ไม่ได้เรื่อง!!!
      
       ของคู่กันที่จะสั่งมาด้วยเป็น “คากิต้มพะโล้” แต่รสชาติไม่เหมือนพะโล้บ้านเราของเขาจะออกรสเค็ม แต่ไม่ถึงกับเค็มปี๋
      
       รสลิ้นอีชั้นก็ต้องว่าถ้าหวานกว่าสักนิดก็จะดี ไม่มีอะไรให้ติ แต่เครื่องพะโล้ของเขาหอมแรงใช้ของแพงกว่าบ้านเรา ส่วนเจ้าคากิคนที่นั่นยังชอบเหนียวหนึบ เพื่อใช้ฟันแทะถ้าบ้านเราทำจะต้องเปื่อยกว่านี้ เนื้อหนังและเอ็นมันนุ่มเข้าที่
       มื้อนี้เป็นสุดยอดของอาหารจีนฮกเกี้ยนที่มาเลย์ก่อน
      
       ไว้ฉบับหน้าอีชั้นจะรายงานสุดยอดของอาหารแต้จิ๋วที่สิงค์โปร์
      
       แต่อพิโธ่..พิถังกะละมังรั่ว ขืนมัวแต่อ่านความอร่อยจากรายงานของอีชั้นจะมีรสชาติอะไร อยากรู้ว่ามันจะอร่อยซะแค่ไหนกัน ถึงกับต้องจัดทัวร์ไปกินที่นั่น อีชั้นก็จะเรียนเจ้านายว่าของเขาถ้าไม่อร่อยจริง คงจะไม่มีดาราฮ่องกง ไต้หวันคนดัง บินมากินชนิดบินเช้าเย็นกลับกันหรอก...จ๊ะบอกให้เจ้านาย
       
       SUNHONG MUK KOOTTEA NO 35-39 MEDAN IMBAL 55100 KL TEL 03-2141-4064 , 03-2148-0905 FAX 03-2144-8864