homeowners insurance Claim home insurance Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim commercial insurance Claim cheap auto insurance Claim cheap health insurance Claim indemnity Claim car insurance companies Claim progressive quote Claim usaa car insurance Claim insurance near me Claim term life insurance Claim auto insurance near me Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim progressive renters insurance Claim state farm insurance quote Claim metlife auto insurance Claim best insurance companies Claim progressive auto insurance quote Claim cheap car insurance quotes Claim allstate car insurance Claim rental car insurance Claim car insurance online Claim liberty mutual car insurance Claim cheap car insurance near me Claim best auto insurance Claim home insurance companies Claim usaa home insurance Claim list of car insurance companies Claim full coverage insurance Claim allstate insurance near me Claim cheap insurance quotes Claim national insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim health insurance quotes Claim ameritas dental Claim state farm renters insurance Claim medicare supplement plans Claim progressive renters insurance Claim aetna providers Claim title insurance Claim sr22 insurance Claim medicare advantage plans Claim aetna health insurance Claim ambetter insurance Claim umr insurance Claim massmutual 401k Claim private health insurance Claim assurant renters insurance Claim assurant insurance Claim dental insurance plans Claim state farm insurance quote Claim health insurance plans Claim workers compensation insurance Claim geha dental Claim metlife auto insurance Claim boat insurance Claim aarp insurance Claim costco insurance Claim flood insurance Claim best insurance companies Claim cheap car insurance quotes Claim best travel insurance Claim insurance agents near me Claim car insurance Claim car insurance quotes Claim auto insurance Claim auto insurance quotes Claim long term care insurance Claim auto insurance companies Claim home insurance quotes Claim cheap car insurance quotes Claim affordable car insurance Claim professional liability insurance Claim cheap car insurance near me Claim small business insurance Claim vehicle insurance Claim best auto insurance Claim full coverage insurance Claim motorcycle insurance quote Claim homeowners insurance quote Claim errors and omissions insurance Claim general liability insurance Claim best renters insurance Claim cheap home insurance Claim cheap insurance near me Claim cheap full coverage insurance Claim cheap life insurance Claim

“หัวกัว” หม้อไฟยูนนาน



โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 มิถุนายน 2547 11:27 น.






 “แม่ช้อย นางรำ” (SANTI_MAECHOICE@HOTMAIL.COM)





       



“ไม่ใช่...สุกี้ญี่ปุ่น
      
       



ไม่ใช่...จุ้มจิ่มอีสาน
      
       



แต่เป็น “หม้อไฟ” ยูนนาน
      
       



รวมเห็ดเป็นร้อยขนาน
      
       



ปีหนึ่งถึงจะได้กินกันที”
      
       ฝนตกแล้วเจ้าค่ะ ...เจ้านาย
      
       เริ่มต้นฤดูฝนกันเสียที คราวนี้อีชั้นจะได้แนะนำของอร่อยประจำฤดูกาล
      
       ก็เจ้านายเคยได้ยินเพลงกล่อมเด็กโบราณมั๊ย ผู้ใหญ่สมัยก่อน ท่านร้องกล่อมลูกหลานอย่างนี้






“หัวกัว” หม้อไฟยูนนาน
       “ฝนตกหยิม..หยิม ยายฉิมออกไปเก็บเห็ด ฝนตกสุ่ย..สุ่ย ยายฉิมแกลุยไปเก็บเห็ด เห็ดอะไรยายฉิมก็ไม่เอา ยายฉิมเลือกจะเอาแต่เจ้าหัวเห็ด”
      
       อุ๊ยตาย !! ว๊ายกรี๊ด เจ้านายอย่าคิดอะไรมาก เพลงอีโรติกโบราณเดี๋ยวนี้คนลืมกันหมดแล้ว อีชั้นพอจะนึกถึงได้ก็ขอขยับเอาไว้...กันลืม
      
       เรื่องมีอย่างนี้เจ้าค่ะ เวลาฝนตกอย่างตอนนี้ บรรดาเห็ดทั้งหลายจะเริ่มออกมาสู่ตลาด อย่างเห็ดธรรมชาติบ้านเราก็ได้แค่ “เห็ดโคน”ที่ราคาโดนอย่างแรง แพงกว่าเนื้อสัตว์ทั้งหลาย แถมยังหากินไม่ค่อยจะได้
      
       แต่ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ถ้าเจ้านายอยากจะกินเห็ดเรียกว่ากินสารพัดเห็ด เป็นร้อย...ร้อยชนิด ไปกับอีชั้นซีเจ้าคะ ที่นั่นเป็นย่านชุมชน เห็ดมากมายที่สุดในเมืองจีนเจ้าค่ะ
      
       สาวน้อย เชียร์เห็ด บ้านเรามีสาวเชียร์เบียร์ แต่บ้านเขามีสาวน้อยเชียร์กิน “เห็ดหม้อไฟ” ยืนเรียงราย ชี้ชวนให้เราไปกินเห็ดของยายฉิมเมืองจีน
      
       จากกรุงเทพฯ เรานั่งเครื่องบินไปกินเห็ดกันที่เมือง “คุนหมิง” ห่างจากกรุงเทพฯ โดยเครื่องบินเพียงชั่วโมงกว่าๆ แต่ถ้าเจ้านายขึ้นเครื่องบินที่เชียงใหม่ เชียงรายก็แค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น






ต้มเห็ดสารพัด ร้อนๆในหม้อ แค่ซดน้ำก็คุ้มการเดินทาง
       ตอนฤดูฝน อาหารที่โด่งดังมากที่สุดของมณฑลยูนนานนี่ก็คือ เห็ดป่า !! มณฑลยูนนานได้ชื่อว่าเป็นมณฑลที่มีของป่าใหญ่ที่สุดในเมืองจีน มีตั้งแต่สัตว์ป่า ต้นหมากรากไม้ ทั้งกินได้ทั้งกินไม่ได้อยู่ในป่า มีทั้งยาสมุนไพรโบราณรักษาคนจีนให้มีชีวิตอยู่รอดได้มาเป็นเวลาพันปี
      
       ที่สำคัญ สำหรับงานนี้ก็คือ ทุกฤดูฝนที่นี่จะมีคนจีนทั่วประเทศบินมากิน “หม้อไฟยูนนาน” ที่จะเรียกให้ถูกต้องกันก็ต้องเรียกว่า...”หัวกัว”แต่คนไม่รู้ผ่าไปเรียก “สุกี้ยูนนาน” เสียนี่
      
       อันว่าเห็ดป่าในยูนนานนั้นมีมากมาย เห็ดป่าส่วนใหญ่เป็นอาหารสุขภาพและก็เป็นหยูกยาจีน ฉะนั้นเมื่อถึงฤดูฝนคนก็จะเข้าป่าไปเก็บเห็ดเอามาทำหม้อไฟกินกัน เพราะเชื่อว่าเป็นยาอายุวัฒนะ เจริญอาหารแล้วก็ยังเอร็ดอร่อยด้วย






“เห็ดยูนนาน” เห็ดป่าธรรมชาติ มีรสชาติแตกต่างกันพัลวัน
       ในเมืองคุนหมิง จะมีถนนสายหนึ่งขายแต่ “หม้อไฟเห็ดป่า”เมื่อ 20 กว่าปีก่อน ยังเป็นร้านห้องแถวแบบชาวบ้าน แต่เวลาผ่านไปคนนิยมกินกันมากมาย ร้านพวกนี้ตอนนี้ก็กลายเป็นตึกใหญ่โต
      
       ถ้าเจ้านายไปกินเจ้า “เห็ดป่าหม้อไฟ” ก็คงจะแปลกใจ เพราะเห็ดที่เขาใส่จานวางลงถาด มันมีมากมายสารพัดเป็นร้อยรายการเห็นจะได้ แล้วเอาต้มกับน้ำซุป ไม่ต้องใส่เนื้อสัตว์กระดูกสัตว์แต่อย่างไร แต่น้ำหม้อไฟจะหวานกลมกล่อม
      
       วิธีกินหม้อไฟยูนนาน จะต้องค่อยๆเอาเห็ดใส่ไปที่ละชนิดทีละอย่าง ห้ามเอามาปะปนกัน มันจะทำให้เสียรส เห็ดสดบางอย่างรสออกหวาน บางชนิดขม แต่บางชนิดก็กลมกล่อมเห็ดบางอย่างกรอบ บางอย่างนุ่ม บางอย่างเหนียวแต่เคี้ยวสนุก แต่อร่อยที่สุดก็คือ น้ำเห็ดสุดท้ายในหม้อที่ต้มเห็ดสารพัดสารพันไว้มากมาย เจ้าน้ำท้ายนี่ล่ะ เขาว่าเป็นยาโป๊ว
      
       โอ้โฮ !! เจ้านายนักเลงกินสารพัด ไม่รู้ว่าเห็ดหม้อไฟของยูนนานหรือนี่ไง เอาอย่างนี้ดีกว่า ฝนฟ้าก็ตกแล้ว เห็ดก็ออกมาแล้ว
      
       แล้วเมื่อไหร่ เจ้านายจะไปกินเห็ดเมืองยูนนานกันซะที หรือชีวิตนี้จะกินแค่เห็ดยายฉิม เจ้าเดียว...โอ้ยเหี่ยวแย่ อีชั้นหมายถึงว่าหัวจิตหัวใจเหี่ยวนะเจ้าคะ...ไม่ได้หมายถึงเห็ดยายฉิมเค้า !!
ASTVผู้จัดการออนไลน์

“ไชน่า มูน” พระจันทร์กินได้ที่ “มิราเคิล”



โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 มิถุนายน 2547 13:17 น.






  แม่ช้อย นางรำ (SANTI_MAECHOICE @ HOTMAIL.COM)






"ไชน่า มูน" พระจันทร์จีน...กินได้อร่อย
       



“โบราณว่า...ใกล้เกลือกินด่าง
      
       



อยู่ฝั่งตรงกันข้ามเพิ่งจะรู้ว่า
      
       



อาหารจีนกวางตุ้งที่ “มิราเคิล”
      
       



อร่อยเกินคาด ถนนสายนี้ ที่นี่กินขาด”
      
       เจ้านาย เจ้าขา...
      
       ทีนี้จะไปกินติ่มซำ อาหารกวางตุ้งตอนกลางวัน หรือจะกินโต๊ะจีน แบบหูฉลาม หมูหัน เป็ดปักกิ่ง ตอนกลางคืน ไม่ต้องชวนอีชั้นเข้าไปกินในเมือง ให้เปลืองน้ำมันกันอีกแล้วเจ้าค่ะ
      
       อพิโธ่..อพิถัง กะละมังรั่ว ตรงข้ามกับบริษัทของเรา บนถนนวิภาวดี-รังสิต ช่วงบางเขน-หลักสี่ เจ้านายก็เห็นนี่ว่ามีโรงแรมชื่อ “มิราเคิล” อยู่ช่วงริมถนนโรเคิล โรด นั้นล่ะเจ้านาย
      
       ใครจะไปเชื่อ แต่ตอนนี้อีชั้นเชื่อแล้ว แล้วเจ้านายก็จะต้องเชื่อได้ว่า ที่นี่มีห้องอาหารจีนกวางตุ้ง ระดับอร่อยกว่าในเมืองเป็นไหนๆ
      
       อีชั้นการันตีได้ว่า ตั้งแต่หัวถนนพหลโยธิน ตรงอนุสาวรีย์ชัยฯไปจนถึงสิ้นสุดถนนพหลโยธินที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
      
       อาหารจีนที่โรงแรมนี้...อร่อยที่ซู๊ด !! เขียนอย่างนี้ เล่าอย่างนี้ เจ้านายก็คงจะไม่มีวันเชื่อ แต่เชื่ออีชั้นได้ ก็ลูกน้องคนนี้เคยแหกตา แหกลิ้นเจ้านายที่ไหน ?
      
       ไปกินมาแล้ว ติดอกติดใจ จึงต้องมาบอกเจ้านาย เพื่อจะได้ไม่เสียเวลาเข้าไปกินอาหารจีนในเมือง เปลืองเวลา เปลืองน้ำมัน ข้างบ้านเรานี่ไง อร่อยกว่าและก็ถูกกว่า ถ้าจะให้ดาวกันอีชั้นก็ต้องให้...ห้าดาว เอาไปเลย เอาไปได้เลย






“หูฉลามสี่เซียน” สำหรับคนชอบกินอาหารโป๊ว
       ที่โรงแรม “มิราเคิล” มีห้องอาหารจีนชื่อ “ไชน่า มูน” อยู่ชั้นสอง ว่ากันถึงการตบแต่งห้องแล้วนะเจ้านาย ใช้รับรองแขกนอกแขกในได้ ไม่เสียฟอร์ม เขาแต่งห้องจีนแบบคลาสสิก ข้าวของเครื่องใช้ สะอาดเรี่ยมเร้เรไร ใหม่สะอาด ส่วนบริการที่นั่น มาตรฐานแบบโรงแรมสี่...ห้าดาวระดับอินเตอร์
      
       แต่ใครเข้ามาแล้วก็ต้องประทับใจ ฝีมือทำอาหารจีนกวางตุ้งที่นี่...อร่อยหนีร้านจีนกวางตุ้งเก่าๆ ที่กำลังโรยราไป เพราะกระโดดไล่ตามโกเบิลไรเซซั่น...ก็โลกาภิวัฒน์นั้นไงเจ้าคะ...ตามไม่ทัน
      
       หัสเริ่มเดิมที อีชั้นก็ไม่รู้ว่า อาหารกวางตุ้งที่นี่...โหโซ๊ก (อร่อย) มีคนเขาพูดเข้าหู บ่อย...บ่อย ช้อยก็เลยต้องไปรำ
      
       ไปครั้งแรกลองติ่มซำ เป็นบุฟเฟต์กลางวันก่อน ถ้าไม่อร่อยจะได้ถอนตัวทัน ไม่ต้องลงทุนอุดหนุนโต๊ะจีน แม่เจ้าประคุณเอ๊ย
      
       ติ่มซำบุฟเฟต์ที่นี่มีมากกว่า 30 รายการ แบ่งให้เป็นเช็คชั่นก็มีทั้งแบบนึ่ง แบบทอด แบบตุ๋น ทั้งคาวหวานมาให้ตักตามชอบใจ กินเหมือนอยู่ในฮ่องกง อร่อยเหมือนอยู่ที่นั่น เคล็ดลับอร่อยของที่นี่อยู่ตรงใช้ของดี ของใหม่ ของสด เช่นอย่างกับกุ้ง ... อร่อยสนิทลิ้นสนมฟัน
      
       อย่าให้อีชั้นพรรณนาความ เจ้านายจะต้องมาลองเองก็จะรู้ เพราะติ่มซำบุฟเฟต์กลางวัน ที่ราคาหัวละ 316 บาทเท่านั้น อีชั้นติดใจก็เลยนัดเพื่อนฝูงนักเปิบไปกินโต๊ะจีน แล้วจึงสรุปบอกเจ้านายได้ว่า อาหารแนะนำ เจ้านายจะต้องสั่งที่นี่






“ติ่มซำ” บุฟเฟ่ต์กลางวันมากกว่า 30 รายการ
       หูฉลามสี่เซียน (หูฉลามเม็งเซ็ก, กระเพาะปลาสด, ปลิงทะเล, กังป๋วย เคี่ยวข้นกับเอ้นกวาง,ไก่แก่, ขาหมูยูนนาน ฯลฯ) อร่อยกว่าหูฉลามที่ร้าน “นายกทักษิณ” กินเสียอีก
      
       ก้ามปูเจี๋ยนน้ำมันหอย เป็นก้ามปูยักษ์น้ำหนักเป็นกิโล (หมายถึงตัว) ร้าน “เซี๊ยะโภชนา” อย่ามาเทียบ อร่อยขาด
      
       สเต็กเป๋าฮื้อ ถึงฝีมือจะไม่เท่า “เชฟป้อม” เจ้าตำรับ แต่ก็ระดับน้องๆ แต่ราคาถูกกว่าของพี่ทำเป็นเท่าตัว
      
       เจ้านายขา... เชื่ออีชั้นเถอะเจ้าขา ร้านที่เจ้านายเคยพาอีชั้นไป อย่าเอามาเซดให้เสียเวลา ข้ามฟากที่ทำงานบ้านเรา ก็เจอเจ้าอร่อยเข้าแล้ว พาลูกน้องไปฉลองกันก็ได้เจ้าค่ะ อีชั้นสัญญาว่าถ้าไม่อร่อยอย่างว่า...ยินดีให้หักเงินเดือน
      
       สอบถามรายละเอียดที่ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์โฮเต็ล ถนนวิภาวดี-รังสิต หลักสี่ ดอนเมือง กรุงเทพฯ 10210 โทรศัพท์ 0-2575-5599http://www.miraclegrandhotel.come-mail : info@miraclegrandhotel.com
ASTVผู้จัดการออนไลน์

“เดซองส์”(D’sens)คุณไม่ต้องไปอร่อยถึงที่ฝรั่งเศส



โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 กรกฎาคม 2547 15:14 น.






 แม่ช้อยนางรำ






“ฌาคส์-โครองต์ ปูร์แซล” เชฟพี่น้องฝาแฝด อายุน้อย แต่ทำอาหารอร่อยที่สุดของฝรั่งเศส
       



จากเมือง “มองเพลิเย่ร์”
      
       



ฝีมือเชฟ “มิเชอลิน” 3 ดาว
      
       



ที่นี่...อาหารฝรั่งเศสอร่อย
      
       



“ดู หรูที่สุดของกรุงเทพ”
      
       เจ้านายขา...
      
       “ห้องอาหารเทียร่า” บนชั้นที่ 22 ของโรงแรมดุสิตธานี ที่ได้ชื่อว่าเป็นห้องอาหารอร่อยบนวิวสวยที่สุดของกรุงเทพ เปลี๊ยนไป๋แล้วล่ะ เจ้าค่ะ
      
       ตอนนี้เขาปรับปรุงใหม่ ได้เชฟพี่น้องฝาแฝดจากประเทศฝรั่งเศส เจ้าของร้านอาหารอร่อยระดับ 3 ดาวมิเชอลิน จากเมือง “มองเพลิเยร์” ประเทศฝรั่งเศส มาช่วยจัดแจงแต่งตัวใหม่หมด มันสวยสดและแสนอร่อย จนแม่ช้อย ต้องออกมารำ เรื่องมันเป็นอย่างนี้เจ้าค่ะ...เจ้านาย
      
       อีชั้นนะเป็นคนหลงใหลอาหารฝรั่งเศสมาตั้งแต่หัวเท่ากำปั้น ร้านอาหารฝรั่งเศสในเมืองไทยร้านแรกที่อีชั้นจำได้ชื่อร้าน “เซซูซาน” อยู่ที่ถนนมเหศักดิ์ สีลม ก็ร้านนี้ไงต่อมาตัวมาดามก็มาเปิดร้านชื่อ “เลอ วังโดม” อยู่ซอยมหาดเล็กหลวง เป็นตำนานร้านอาหารฝรั่งเศสร้านแรกในเมืองไทย ถ้าจะนับกันวันนี้ “เซซูซาน” ที่ว่า เป็นร้านอาหารฝรั่งเศสเก่าแก่ที่สุด อายุประมาณ 70 ปีเห็นจะได้






“เดซองส์” ตบแต่งห้องเทียร่า กลายเป็นสวรรค์สีชมพู หรูหราที่สุดของเมืองนี้
       พอมี “ถนนเกษร” ราชประสงค์ ร้าน “เมโทรโปรลีส” เป็นร้านฝรั่งเศสอีกร้านที่อีชั้นนั่งเป็นประจำ เพราะตอนเมื่อสี่..ห้าสิปปีก่อนอีชั้นยังเปรี้ยว..จนหนุ่มไม่กล้าเคี้ยว เลยต้องมาขึ้นคานมาจนทุกวันนี้ ก็บอกได้เต็มที่ว่า ร้านอาหารฝรั่งเศสในเมืองไทยมีร้านไหนที่ช้อยไม่เคยไปรำบ้าง...ไม่มี
      
       คุยซะนี่ ก็เพราะอยากจะเรียนเจ้านายว่า เท่าที่อีชั้นเคยกินฝีมือเชฟฝรั่งเศสมาทั่วเมืองไทย (คงจะต้องยกเว้นฝรั่งเศส) ก็เพิ่งจะดื่มด่ำประทับใจชนิดหลงใหลกับร้านฝรั่งเศสเปิดใหม่ร้าน “เดซองส์” บนชั้น 22 ของโรงแรมดุสิตธานี..ร้านนี้ล่ะเจ้าค่ะ มาอีชั้นจะเล่าให้เจ้านายน้ำลายสอ แล้วอย่าลืมพาลูกน้องไปกินต่ออีกสักสาม..สี่..ห้า ครั้งก็ยังได้
      
       วันนี้อีชั้นไปร้าน “เดซองส์” เขาเพิ่งจะตบแต่งใหม่ เห็นแล้วอีชั้นต๊กกะใจ นึกว่าหลงเข้าไปในร้านอาหารฝรั่งเศสระดับสี่..ห้าดาว มิเชอลินกลางกรุงปารีส (จำได้มั้ยเจ้าค่ะ ปีกลายเราไปเจอคลื่นร้อน 40 องศาเซลเซียสที่ปารีสกัน) ทุกอย่างมองรอบตัวสวยซึ้งด้วยสีชมพูภายใน กลมกลืนกับสีเขียวของแมกไม้ในสวนลุมพินีที่อยู่นอกหน้าต่าง
      
       “เดซองส์” เป็นห้องอาหารฝรั่งเศสสวยที่สุดของกรุงเทพวันนั้นอีชั้นเริ่มด้วย “ถั่วแกสพาโซ” ปั่นกับมินท์แช่เย็น เป็นการล้างลิ้นให้คลีนแล้วตามด้วย “กุ้งมังกรเทอรีนกับตับเป็ด” ป็นออร์เดิร์ฟจานแรก






อาหารฝรั่งเศสที่นี่ คือ “ศิลปะที่คุณสามารถดื่มกินได้”
       แค่จานนี้อีชั้นก็บอกเจ้านายได้ว่า...จานไหนๆก็ต้องอร่อยทั้งนั้น จานที่สองตามมาเป็น “ฟีเลปลาซีบาส” ซ๊อสมะนาวราด ออกหวานปากเปรี้ยวมะนาวเข้ากันดี แต่ยอกเยี่ยมที่สุดคือ
      
       นกพิราบอบซ๊อสกระหรี่ผสมกับอัลมอลท์ กับโกโก้เป็นรสใหม่สำหรับคนที่เคยกินนกพิราบมาแล้วจะรู้ได้ว่า..รสเช่นนี้ ไม่เคยสัมผัสมาก่อนเลย
      
       ส่วนเรื่องของหวานไม่ต้องเขียนพรรณนาหรอกเจ้าค่ะ แค่สอง..สามจานนี้ก็รู้แล้วว่านี่คือ..ครัวอาหารฝรั่งเศสที่ไม่ธรรมดา ถ้าเจ้านายไม่มาก็จะต้องเสียดาย
      
       อาหารมื้อนั้นถึงจะเป็น “เซทเมนู” แต่ก็ถูกปากจนอีชั้นต้องขอดูเมนูของร้าน เห็นรายการแล้วก็ต้องอาฆาตเอาไว้ว่า ใจเย็นเถิดหนา เดี๋ยวช้อยจะพาเจ้านายมาถล่มให้รู้แล้วรู้รอดไป จะไม่เว้นแม้สักรายการเดียวจริง..จริ๊ง
      
       อีชั้นเป็นแฟนตับเป็ด ที่นี่มีทั้งสดเอามากริลล์ใหม่..ใหม่ นกพิราปพันธุ์พิเศษสำหรับเอามาแล่ฟิเล “ปลาทูบอต” เป็นปลาจากทะเลแอตแลนติก หรือ “กุ้งมังกร 7 สี” โอ๊ย..ขี้คร้านจะพรรณา
      
       เอาเป็นว่า ห้องอาหารฝรั่งเศส “เดซองส์” นี่เจ้านายจะต้องมา..ต้องมาให้ได้ ไวน์ที่นี่เสิร์ฟไวน์ฝรั่งเศสทุกขวดเลย
      
       ร้านนี้ฝรั่งเศสแท้ไม่ใช่เศษฝรั่งเทียม ทุกอย่างเหมือนนั่งกินอยู่ในร้านอาหารในกลางกรุงปารีส แต่ที่เหนือกว่าก็คือ นอกจากไม่ต้องนั่งเครื่องบิน 12-14 ชั่วโมงไปกินแล้ว มาตรฐานราคาที่นี่ คิดเป็นเงินไทย ไม่ใช่ยูโร
      
       กินเข้าไปเถอะ กินเท่าไหร่ก็กินได้ กินเซทใหญ่คิดเป็นเงินไทย แต่ถ้ากินในปารีสจ่ายเป็นยูโร..โอ้โห หน้ามืดตาลาย อาจจะถึงตายได้เวลาจ่ายบิลเจ้าค่ะ
      
       ห้องอาหารฝรั่งเศส “เดซองส์”บนชั้น22ของโรงแรมดุสิตธานี บริการทุกวันจันทร์-เสาร์ วันอาทิตย์หยุด มื้อกลางวัน 11.30-14.00 น. มื้อกลางคืน 18.00-22.00 น. สำรองที่นั่ง 0-2236-9999 ต่อ 2499, 2680
ASTVผู้จัดการออนไลน์

“เรดิสัน” ชนะเลิศจากงาน “THAIFEX 2004”

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 มิถุนายน 2547 11:18 น.










ชุดอาหารไทย “ฟิวชั่น” คว้าทั้งเหรียญเงิน-เหรียญทองจากงานนี้
       เจ้านายขา...อีชั้นไม่ได้ร่วมงาน “ไทมแฟกซ์-เฮลเฟกซ์ 2004” งานแสดงสินค้าอาหารและเทคโนโลยี่เกี่ยวกับอาหาร ที่เขาจัดกันสัปดาห์ก่อนที่เมืองทองธานีหรอกเจ้าค่ะ
      
       ความจริงก็มีเจ้าหน้าที่เขาเชิญมา
      
       แต่อีชั้นติดเดินทางไปทำทัวร์ที่พม่า ก็เลยพลาดท่าไปอย่างน่าเสียดาย
      
       แต่ถึงอย่างไร อีชั้นก็มีรายงานมาให้เจ้านายได้อ่านกันวันนี้ เพราะได้ผลการแข่งขันชิงรางวัลเหรียญเงิน-เหรียญทอง เขารายงานมาดังนี้
      
       อ่านแล้วอีชั้นก็เป็นปลื้ม เพราะคนที่ชนะเลิศไม่ใช่ฝรั่งมังค่าที่ไหน แต่เป็นคนไทยเจ้าค่ะ เป็นคนไทย แต๊..แต๊ อยู่ที่โรงแรม “เรดิสัน” แถวถนนพระราม 9 ใกล้ๆ กับ “อาร์.ซี.เอ” ที่เจ้านายชอบไปเหล่เด็ก..เด็กนั่นละเจ้าค่ะ






เชฟวิชาญ เพ็งแตงโม ชนะเลิศเหรียญทอง “พาสต้าอิตาเลี่ยน”
       การแข่งขันประกวดอาหาร เขามีทั้งอาหารไทย-อาหารเทศ มีคนเข้าแข่งขันกันมากมายเป็นสิบ..เป็นร้อยเจ้า ประกวดกันเอาเป็นเอาตาย เพราะถ้าใครชนะก็หมายถึงว่า..."โกอินเตอร์”
       

       แล้วผลก็ปรากฏมาดังนี้
      
       ทีมงานจาก “โรงแรมเรดิสัน” ที่ว่าชนะเลิศได้เหรียญทองไปทั้งการประกวดอาหารอิตาเลี่ยน เส้นพาสต้า และก็อาหารไทยประเภท “ฟิวชั่น”
      
       “ฟิวชั่น” ที่ว่าก็หมายความว่าอาหารไทยดัดแปลง ให้ครึ่งหนึ่งเป็นฝรั่งมังค่า และอีกครึ่งขอให้เป็นไทยมังคุดนั่นล่ะเจ้าค่ะ เจ้าน๊าย
      
       สำหรับเรื่องแป้งพาสต้า อีชั้นจะไม่เขียนถึงหรอกเจ้าค่ะ เพราะจะเป็นที่หนึ่งในงานนี้ก็จริง
      
       แต่ลองไปแข่งกับเจ้ามักกะโรนีเอาซี อีชั้นว่าจะไปสำมะหาอะไรกับพวกเขา
      
       เอามาเรามาดูอาหารไทย ที่เราเป็นเจ้าของสูตรมาตั้งแต่บรรพบุรุษจะดีกว่า
      
       เจ้านายลองพิจารณาดูก็ได้ว่า เมนูอาหารไทย “ฟิวชั่น” เห็นชื่อแล้วเจ้านายจะมีฟิลลิ่งสักแค่ไหนกัน
      
       
เมนูอาหารไทย รางวัลเหรียญทอง
      
       จานแรก..ปลาแซลมอนห่อใบเตย ขนมจุ๋ยก้วย
      
       จานสอง..ผัดสลัดรวมกับข่ขาวอบครีม
      
       จานสาม..แกงส้มปลากรอบ
      
       จานสี่..เนื้อสันในอบเครื่องเทศซ๊อสกระเพรากับยอดพร้าวอ่อน ถั่วพลู พริกหวาน
      
       จานห้า..กล้วยแขกทอดซ๊อสโยเกิรต์มะพร้าว






“ฉลอง อนุญญาภิสิทธิ์” ผู้จัดการทั่วไปโรงแรมเรดิสัน ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ
       งานนี้..อีชั้นถึงจะไม่ได้ไปตัดสิน แต่ก็ได้ไปกินไปเปิบมาแล้วเจ้าค่ะเจ้านาย และขอรายงานดังนี้ว่า
      
       “แกงส้มปลากรอบ” ของเขาพิลึกจริงๆ มองคร้าวแรกนึกว่าเป็น “ซุปกัมโบ้” แต่ไม่ใช่มันกัมไทยรสแกงส้มหนักแน่นไม่เหมือนใคร
      
       แต่อีชั้นติดใจอยากจะเรีนยให้เจ้านายไปลองสีมือของเขา ก็คือเจ้าจานที่สี่ “เนื้อสันในอบเครื่องเทศซ๊อสกระเพรา” จานนี้ไปกินที่ไหนก็ไม่มี นักเลงเนื้อหรือบีฟอีสเตอร์ขอให้มาเจอกันหน่อยที่นี่
      
       ซูเต๊ก..ไหหลำ สเต๊ก..ฝาหรั่งหลบทางไฟ ซะเต๊กไทยกำลังมาแรงแซงเข้าโค้ง
      
       ไปกินฝีมือพ่อครัวเหรียญทองคราวนี้ อีชั้นสิ้นกังขาว่าเขาชนะมาได้อย่างไร แต่นึกถึงหนังโฆษณาของหนังสือพิมพ์ผู้จัดการที่ว่า...ผู้จัดการเปี๋ยนไป๊
      
       ใช่เจ้าค่ะ วงการอาหารตามโรงแรมตอนนี้กำลังเปลี่ยนไปครั้งใหญ่ เมื่อโรงแรมห้าดาวทั้งหลาย พ่ายแพ้กับโรงแรมสาม...สี่ดาวงี้ได้อย่างไร
      
       ...อย่างนี้ต้องไล่เชฟฝรั่งกลับบ้านไปแล้วเจ้าค่ะ...เจ้านาย
      
       ถ้าเจ้านายอยากจะลองเมนูเหรียญทองคำของโรงแรมเรดิสัน ต้องติดต่อกับเขาโดยเฉพาะเจาะจง เพราะเขายังไม่ลงในเมนูประจำวัน ถามอีหนู “ขวัญเรือน” ประชาสัมพันธ์ที่นั่นก็ได้หมายเลข 0-2641-4777 เท่านี้ก็ถึง...อร่อยได้เจ้าค่ะ
ASTVผู้จัดการออนไลน์

เปิบพิสดาร...กัวลาลัมเปอร์-มะละกา-สิงคโปร์



โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 กรกฎาคม 2547 16:36 น.






“บากูเต๋” ซี่โครงหมูตุ๋นใบชา สองเจ้าอร่อยของสองประเทศ มาเลย์-สิงคโปร์ เจ้านายได้พิสูจน์ ลิ้นเราฝีมือเขาคราวนี้
       “เสาร์..อาทิตย์บินไปหาของกินอร่อย
       บากูเต๋ที่ “เค-แอล” กระหรี่หัวปลาที่
       สิงคโปร์ แถมอาหารแต้จิ๋วโบราณ
       กับอาหารปอร์ตุเกส 300 ปี”
       

       เจ้านายขา...
       

       ต้องกราบเรียนเจ้านายซะตั้งแต่สัปดาห์นี้เลยว่า วันเสาร์ที่31 กรกฎาคม ก็คือปลายเดือนนี้ อีชั้นจะต้องลางานเจ้าค่ะ
      
       แต่ไปคราวไม่นานคือไปวันเสาร์ พ่วงวันอาทิตย์ และกลับมาวันจันทร์
      
       เจ้านายคงจะไม่ว่าอะไร
      
       ถึงจะว่าอีชั้นก็ไม่ได้ยิน เพราะตอนนั้นอีชั้นกำลังเอร็ดอร่อยอยู่ที่มาเลย์ สิงคโปร์ ตามโปรแกรมที่อีชั้นวางไว้แล้ว
      
       คือจะต้องพาแฟนคอลัมน์ “เปิบพิสดาร” ไปเปิบอาหารอร่อยประเทศเพื่อนบ้านที่ก็ไปกันบ่อย แต่ร้านอาหารอร่อยไม่ค่อยรู้จักกัน
      
       เรื่องเป็นเช่นนี้เจ้าค่ะ
      
       เพราะอีชั้นไปรับปากสัญญิงสัญญากับลูกค้าทัวร์ที่ไปทั่วโลกกับอีชั้น ว่า สักวันหนึ่งเถอะหน่า อีชั้นจะพาไปเปิบพิสดารที่เรียกว่า “มินิโปรแกรม”
      
       อย่างที่อีชั้นเคยทำ “ทัวร์เปิบพิสดาร” ที่ฮ่องกง หรือ “ทัวร์เปิบพิสดาร” ที่สิงคโปร์ ไต้หวัน ฮานอย เว้ ไซง่อน แหล่งกินอาหารอร่อยชนิดที่ไม่ไกลบ้าน
      
       แต่งานอย่างนี้ไม่จัดบ่อยเพราะเป็นโรคหวงวันเสาร์ อาทิตย์ อยากจะอยู่กับบ้านเล่นกับลูกหลาน เป็นความสุขเรียบๆ ง่ายๆ ของคนวัยอีชั้น
      
       แต่แล้วก็เหมือนมีบัญชาจากสวรรค์
      
       เพราะอีชั้นถือว่า ลูกค้าสำคัญเป็นพระเจ้า เราจะต้องเคารพเชื่อฟัง ลูกค้ากลุ่มหนึ่งยื่นคำขาดมาเมื่อเดือนที่แล้วว่า
      
       ปลายเดือนกรกฎาคมจะต้องพาพวกเราไปกินอาหารอร่อยที่สิงคโปร์
      
       อพิโธ่!! พิถังกะละมังรั่ว!!
      
       ไปทั้งทีไปทำไมกันที่สิงคโปร์ เพราะโปรแกรม “เปิบพิสดาร” ของอีชั้นจัดไม่เหมือนใครในเวลาเดียวกัน แต่อีชั้นให้มากกกว่า อร่อยกว่า
      
       และก็ต้องแพงกว่าเป็นธรรมดา แต่ก็ไม่ได้แพงมากมโหฬารซะเท่าไหร่ เพราะไปอีชั้นจะต้องกินอาหารสี่ดาว พักโรงแรมห้าดาว นั่นละเจ้าประจำ...”แม่ช้อย นางรำ” เขาละ
      
       เจ้านายลองพิจารณาโปรแกรม “มินิมาเลย์-มะละกา-สิงคโปร์” ที่อีชั้นจัด แล้วเอาไปเปรียบเทียบกับใครก็ได้ทั้งนั้น
      
       โปรแกรมเดินทางมาดังนี้เจ้าค่ะ
      
       เสาร์ที่31 กรกฎา เดินทางกรุงเทพ-กัวลาลัมเปอร์ ประเดิม “บากูเต๋” ร้านอร่อยที่สุดในมาเลเซีย อิ่มแล้วเดินทางด้วยรถโค๊ชทันสมัยไปยังเมือง “มะละกา” พาเที่ยววังสุลต่าน กับสถานที่โบราณ สมัยปอร์ตุเกสปกครอง
      
       ตกตอนเย็น เปิบอาหารปอร์ตุเกสสมัยเมื่อ 300 ปี
      
       อาทิตย์ที่ 1 สิงหา พาชมป้อม “เอฟอร์โมซา” ห้อมปืนคุมช่องแคบมะละกา ไปที่ฝังศพนักบุญ “ฟรานซิส” ที่ศักดิ์สิทธิ์
      
       อาหารกลางวันเป็นอาหาร “นอนย่า” หรือ “พานาคา”
      
       อาหารแห่งความรักของคนมุสลิมและพุทธที่อยู่ร่วมกันไม่มีปัญหา
      
       ตกบ่ายเดินทางเข้าเกาะสิงคโปร์ ตกกลางคืนเปิบ “กระหรี่หัวปลา” ที่มีชื่อเสียงอร่อยที่สุดของเมืองนี้
      
       จันทร์ที่ 2 สิงหา ตอนเช้าพาไปช๊อปปิ้ง ย่านสินค้าหรูแล้วตกกลางวันไปกินอาหาร “ภัตตาคารจีนแต้จิ๋ว” เก่าแก่และอร่อยที่สุดเศรษฐีสิงคโปร์ชุมนุมที่นั่น
      
       ตอนบ่ายให้เวลาช๊อปปิ้งให้หนำใจ ตอนเย็นก่อนเดินทางพาไปกิน “ข้าวมันไก่สิงคโปร์” อีกที แล้วจรลีเดินทางกลับถึงกรุงเทพตอนสี่ทุ่ม
      
       เจ้านายเห็นโปรแกรมแล้วต้องบอกได้ว่า..คุ้ม!!
      
       ราคาไม่แพง อีชั้นจัดก็เพราะอยากจะไปกินอาการที่ว่า แล้วไม่เขียนบอกสถานที่ชื่อร้านให้คุณรู้ ถ้าอยากจะอร่อยก็ต้องตามอีชั้นมา
       แล้วอีชั้นจะพาไปเปิบพิสดารเจ้าค่ะ..เจ้านาย
      
       แม่ช้อยนางรำ
      
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
      
       สนใจร่วมเดินทางติดต่อ “บริษัท พี.โอ.พี ทราเวิล” โทรศัพท์ 0-2653-7171 โทรสาร 0-2653-6993 ต้องการจำนวนไม่เกิน 20 ท่านเท่านั้นเจ้าค่ะ
ASTVผู้จัดการออนไลน์