homeowners insurance Claim home insurance Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim commercial insurance Claim cheap auto insurance Claim cheap health insurance Claim indemnity Claim car insurance companies Claim progressive quote Claim usaa car insurance Claim insurance near me Claim term life insurance Claim auto insurance near me Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim progressive renters insurance Claim state farm insurance quote Claim metlife auto insurance Claim best insurance companies Claim progressive auto insurance quote Claim cheap car insurance quotes Claim allstate car insurance Claim rental car insurance Claim car insurance online Claim liberty mutual car insurance Claim cheap car insurance near me Claim best auto insurance Claim home insurance companies Claim usaa home insurance Claim list of car insurance companies Claim full coverage insurance Claim allstate insurance near me Claim cheap insurance quotes Claim national insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim health insurance quotes Claim ameritas dental Claim state farm renters insurance Claim medicare supplement plans Claim progressive renters insurance Claim aetna providers Claim title insurance Claim sr22 insurance Claim medicare advantage plans Claim aetna health insurance Claim ambetter insurance Claim umr insurance Claim massmutual 401k Claim private health insurance Claim assurant renters insurance Claim assurant insurance Claim dental insurance plans Claim state farm insurance quote Claim health insurance plans Claim workers compensation insurance Claim geha dental Claim metlife auto insurance Claim boat insurance Claim aarp insurance Claim costco insurance Claim flood insurance Claim best insurance companies Claim cheap car insurance quotes Claim best travel insurance Claim insurance agents near me Claim car insurance Claim car insurance quotes Claim auto insurance Claim auto insurance quotes Claim long term care insurance Claim auto insurance companies Claim home insurance quotes Claim cheap car insurance quotes Claim affordable car insurance Claim professional liability insurance Claim cheap car insurance near me Claim small business insurance Claim vehicle insurance Claim best auto insurance Claim full coverage insurance Claim motorcycle insurance quote Claim homeowners insurance quote Claim errors and omissions insurance Claim general liability insurance Claim best renters insurance Claim cheap home insurance Claim cheap insurance near me Claim cheap full coverage insurance Claim cheap life insurance Claim

“ซันเดย์บรั๊นซ์”ที่โรงแรม “นายเลิศปาร์ค”



โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 มกราคม 2548 15:41 น.










อาหารแต่ละประเภทจัดแยกออกจากกันเพื่อสะดวกในการตัก
       “อาหารมื้อเช้าควบมื้อกลางวัน  ตอนนี้ที่ฮิตกันอยู่ที่โรงแรมแห่งนี้ ไม่ใช่แค่มีเมนูมากมายเป็นร้อย แต่ความเอร็ดอร่อยระดับ 5 ดาว”
      
       
เรื่องอาหารการกิน คนที่อีชั้นยกย่องนับถือมากที่สุดในเมืองไทย ก็เห็นจะได้กับ
      
       คุณพินิจ สมบัติศิริ ลูกชายพระยามไหศวรร์ สามีของคุณหญิงเลอศักดิ์ สมบัติศิริ บิดาคุณพิไลพรรณ หรือคุณเปก ผู้บริหารโรงแรมนายเลิศปาร์ค
      
       เจ้านายขา
       

       คุณพินิจท่านเป็นยอดนักวิจารณ์อาหารระดับโลก พวกฝรั่งสมาคมนักเปิปนักชิมที่ชื่อว่า “Chaine Des Rotisseurs” ยังต้องมอบตำแหน่งประธานนักเปิปนักชิมยอดที่สุดในเมืองไทยให้
      
       สมาคมที่ว่านี้อายุประมาณ 700 ปีเห็นจะได้ คุณสมบัติของผู้ที่จะอยู่ในสมาคมได้จะต้องผ่านการทดสอบมาจนแน่ใจแล้วจึงจะ แต่งตั้งให้เป็นสมาชิก
      
       เมืองไทยนี้มีคุณพินิจ สมบัติศิริ ดำรงตำแหน่งเป็นผู้แทนของสมาคมประจำประเทศไทย แล้วก็มีอีชั้นเป็นสมาชิกอยู่ในสมาคมนักเปิปนักชิมอยู่กับเขาคนหนึ่งด้วย เหมือนกัน
      
       ก่อนที่ท่านจะเสียชีวิตไป อีชั้นกับท่านเคยร่วมรับประทานอาหารสารพัดสารพันกันมากมายตามประสาผู้ที่มี คุณสมบัติเป็นนักวิจารณ์อาหาร
      
       อีชั้นได้รับความรู้จากท่านมากมาย จาระไนไม่หมดละเจ้าค่ะ






“ชีส” เนยแข็งสารพัดอร่อย ระดับปีหนึ่งมีให้กินกันแค่ครั้งเดียว”
       เมื่อสองอาทิตย์ก่อน
      
       อีชั้นได้รับเชิญจากคุณพิไลพรรณ สมบัติศิริผู้บริหาร โรงแรมนายเลิศปาร์ค ถนนวิทยุให้ไปเปิดงาน “ซันเดย์บรั๊นซ์” ที่เริ่มเปิดบริการกันมาตั้งแต่อาทิตย์ต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา และจะเปิดบริการเช่นนี้ตลอดไป
      
       ความจริงชื่อ “ซันเดย์บรั๊นซ์” อาหาร เช้าควบอาหารกลางวัน ที่เริ่มรับประทานกันตั้งแต่ 10.00 ไปจนถึง 15.00 ในตอนบ่ายถึงวันอาทิตย์ เป็นการสนุกสนานของผู้ที่นิยมรับประทาน “เอ็นจอยอิตติ้ง” กันทั่วโลก
      
       เมืองไทยบ้านเราเพิ่งจะมาฮิตกันเมื่อสักสิบกว่าปีที่ผ่านมา
      
       เจ้านายเจ้าค่ะ อีชั้นไปบรั๊นซ์ตามโรงแรมดัง ๆ มาแล้วทุกโรงแรม แล้วก็เบื่อเพราะบรั๊นซ์โรงแรมไหน ๆ ก็คล้ายกัน
      
       บางทีไม่ใช่บรั๊นซ์ แต่มันเป็นบร๊าฟกันซะมากกว่า
       

       แต่พอคุณเปกหรือคุณพิไลพรรณ สมบัติศิริเชิญมา อีชั้นจะปฏิเสธได้อย่างไง





       เรื่องอาหารการกินในเมืองไทย บิดาคุณเปกนี้ไงเยี่ยมยอดไร้เทียมทานที่สุดในเมืองไทย
      
       เมื่อท่านจากไป ลูกสาวท่านคนนี้ไง เลื่อนขึ้นมาแทนที่ คุณพ่อได้อย่างสง่างาม
      
       คุณเปกมีประสบการณ์มากับบิดาและการบริหารงานโรงแรม
      
       คุณเปกมีวิชาการจากที่ไปเล่าเรียนวิชาอาหารและโรงแรมมาจากยุโรป
      
       พบกับคุณเปกทีไร อีชั้นจะได้ความรู้ใหม่ ๆ เรื่องอาหารคาวทั่วโลกมากมายชนิดหอบกลับมาบ้านไม่หวัดไม่ไหว
      
       เพราะฉะนั้นเมื่อคุณเปกจะจัด “ซันเดย์บรั๊นซ์”จึงเป็นอาหารเช้าที่ควบมื้อกลางวันดีที่สุดในวงการโรงแรมด้วยกัน ชนิดเอาชื่อเป็นประกันได้
      
       สำหรับแฟนอาหารฝรั่ง อาหารจีน อาหารไทย อาหารทะเล อาหารย่าง อาหารร้อน อาหารเย็น อาหารสาระพัดสาระพันที่คุณเปกจัดสรรมาให้ เป็นร้อย ๆ รายการล้วนแล้วแต่เป็นอาหารเกรดเอ ระดับห้าดาวขึ้นไปทั้งนั้น
      
       เรื่องรายละเอียดอยากให้เจ้านายลองไปพิจารณาเอาเอง
      
       แต่ที่อีชั้นจะเขียนถึงคือ อาหารไทยสองรายการซึ่งมีอยู่ในเมนู “ซันเดย์บรั๊นซ์”ที่ว่าจะไปหากินที่ไหนในโรงแรมไม่ก็ไม่ได้
      
       “ขนมจีนน้ำพริก” กับ “หมี่น้ำปาร์คนายเลิศ” สองจานนี้เป็นอาหารประจำบ้าน ประจำตระกูล “สมบัติศิริ” ของพระยามไหศวรรย์ อีชั้นอยากให้เจ้านายลองไปรับประทาน
      
       นี่คือความอร่อยฝีมือคนโบราณที่ลูกหลานยังรักษาเอาไว้
      
       “ซันเดย์บรั๊นซ์”...ของโรงแรมนายเลิศปาร์ค ยอดเยี่ยมเสียจนไม่สามารถจะเขียนพรรณาได้ สรุปอย่างนี้ดีกว่าเจ้านาย
       

       อาหารคาวหวานอร่อยทุกรายการ แต่มีมากกว่านั้นคืออร่อยอย่างมีตำนาน คืออร่อยอาหารไทยโบราณสูตรบ้านพระยามไหศวรรย์ และอร่อยด้วยฝีมือพระหัตถ์ปรุงแยมผิวส้มของพระราชินีภูฐาน ที่ปีหนึ่งท่านจะพระราชทานมาให้คุณเปกรับประทาน
      
       ปีนี้ปีไก่ไหงเจ้านาย ไก่นี่จะไม่กินอะไรตามลำพัง เจออะไรอร่อยมันต้องร้องเรียกให้พรรคพวกมันกินด้วย
      
       เพราะฉะนั้นคุณเปกจึงมาชวนอีชั้นไป“ซันเดย์บรั๊นซ์" แล้วอีชั้นก็ร้องชวนเจ้านายให้มาอร่อยด้วย มาซะดีเจ้านาย มาจ่ายกะตังค์ให้อีชั้นด้วยไง มาไว..ไว อาทิตย์นี้ซะเลย

กิน “ปลาหิมะต้มซีอิ๊ว” หิว...ไม่หิวขอดเกลี้ยง (ชาม) / แม่ช้อยนางรำ



โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 กุมภาพันธ์ 2548 12:51 น.






 โดย : แม่ช้อยนางรำ (SANTI_MAECHOICE@HOTMAIL.COM)






นายยูทากะ ซูซูกิ กุ๊กญี่ปุ่นเจ้าของสูตร “ปลาหิมะต้มซีอิ๊ว”
       “คนญี่ปุ่น...ชอบกินปลา
      
       กุ๊กญี่ปุ่น...ปรุงปลาอร่อย
      
       “ปลาหิมะ” สูตรอร่อย
      
       จะต้องกุ๊กญี่ปุ่นปรุงให้เปิบกัน”

      
       เจ้านาย...ชอบกินอาหารทะเล อีชั้นน่ะรู้อยู่แก่ใจ
      
       แต่ไอ้ชนิดกินปลาหมึกเสียบไม้ย่างราดน้ำจิ้มข้างบริษัทน่ะ ซอรี่ !! อีชั้นเบื่อแล้ว
      
       ไม่รบกวนเจ้านายให้ควักเงินเหนียวหนึบ ออกมาเลี้ยงลูกน้องหรอก !!
      
       วันนี้...ลูกน้องขอแนะนำอาหารทะเลซีฟู้ดอร่อยสุด...สุดกับเจ้านาย
      
       แล้วถ้าจะควักเงินจ่ายให้กับอีชั้น ก็จะเป็นพระคุณหาไม่เลยเจ้าค่ะ
      
       เจ้านาย...เจ้าค่ะ อีชั้นชอบกินอาหารญี่ปุ่น ที่ไหนเขาว่าอร่อย ช้อยจะต้องไปเปิบ...พิสูจน์กันให้รู้แล้วรู้แรดไป (แรดนะเจ้าคะ ไม่ใช่รอด)
      
       เรื่องอาหารญี่ปุ่น อีชั้นกินมาตั้งแต่ร้านญี่ปุ่น “ฮานาย่า” ร้านแรกในประเทศไทย แถวถนนสี่พระยา กินมาถึง “นายแผน” พ่อครัวญี่ปุ่นประจำตัวของอาจารย์คึกฤทธิ์ สมัยอยู่ที่โรงแรมอัมรินทร์ ราชประสงค์






เคล็ดลับต้มซีอิ๊วกับปลาหิมะ (อยากรู้ต้องอ่าน)
       หรือ “นายใจดี” กุ๊กใหญ่อาจารย์ของกุ๊กครัวญี่ปุ่นซึ่งเป็นคนไทย พ่อครัวญี่ปุ่นประจำตัวของนายห้าง ซี พี อีชั้นก้เปิบมาแล้วทั้งนั้น แต่ละคนก็เก่งกันไปคนละทาง
      
       เหมือนพ่อครัวที่ชื่อว่า “นายซูซูกิ” คนที่อีชั้นเขียนถึงวันนี้ เจ้านายขา... ฝีมือในการต้มซีอิ๊วปลาหิมะ อร่อยที่สุดในเมืองไทย
       อีชั้นอยากให้เจ้านายได้ทดลองฝีมือของเขาดู แล้วจะรู้ได้ว่า ปลาทูต้มเค็มที่เจ้านายชอบ เอาไปเปรียบกับเขาไม่ได้เลย
      
       แต่ก่อนแต่ไร เจ้านายเคยสั่ง “หัวปลาแซลมอน” หรือเนื้อปลาแซลมอนต้มซีอิ๊วมากิน อีชั้นว่า...ลืมมันซะ !!
      
       กินปลาต้มซีอิ๊วแบบสูตรญี่ปุ่นให้อร่อยสุด...สุด ต้องเป็น “ปลาหิมะ”
       






       ปลาหิมะเนื้อละเอียดละเมียดลิ้น เนื้อราวกับไม่ใช่เนื้อปลา มันคล้ายกับเนื้อปู เพราะเนื้อเป็นลิ่ม
      
       ยิ่งหนังปลาหิมะด้วยแล้ว เวลาเอามาต้มซีอิ๊วหรือจะเอามาต้มแกง หนังมันจะนิ่มราวกับเยลลี่แผ่น แถมเนื้อหนังปลาหิมะจะดูดซับเจ้ารสชาติเค็มๆ หวานๆ ของซีอิ๊วญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดีที่สุด
      
       เนื้อปลาแซลมอนบางทีก็คาว แต่เนื้อเจ้าหิมะคาวสักนิดก็ไม่มี
      
       อีชั้นกินฝีมือกุ๊กญี่ปุ่นต้มปลาหิมะกับซีอิ๊วมาหลายคนแล้ว แต่ไม่มีใครแจ่มแจ๋วเหมือนนายซูซูกิคนนี้
      
       แต่ก่อนแต่ไรจะกินปลาหิมะต้มซีอิ๊วฝีมือของเขาที แสนยุ่งยากเพราะเขาเปลี่ยนครัวบ่อย คุณทำอาหารอร่อย ก็ต้องถูกซื้อตัวประมูลตัวเช่นนี้เป็นธรรมดา
      
       แต่ตอนนี้สบายแล้วเจ้าค่ะ “นายซูซูกิ” เขาอยู่เป็นที่เป็นทางอยู่ที่ “ห้องญี่ปุ่นฮากิ” โรงแรมโซฟิเทล เซ็นทรัลพลาซา
      
       ห้องอาหารญี่ปุ่น “ฮากิ” ชั้นใต้ดิน โรงแรมโซฟิเทลเซ็นทรัลพลาซา บรรยากาศแบบร้านญี่ปุ่นโบราณ อาหารแนะนำ ปลาหิมะต้มซีอิ๊ว ปลาแซลมอนย่างเกลือ ปลากะพงย่างซอส
      
       บริการทุกวันเวลา 11.00-14.30 และ 18.00-22.30 น. โทรศัพท์สำรองที่นั่ง 0-2541-1134 ต่อ 4081






“ปลาหิมะต้มซีอิ๊ว” ไม่ใช่สวยแต่รูป เจี๊ยะก็อร่อยจ๊ะ
       นายซูซูกิ นี่ฝีมือทำปลาได้ไร้เทียมทานเจ้าค่ะ เรื่องทำปลาดิบซาซิมิ ไม่ต้องพูดกัน นั่นมันชั้นเด็ก...เด็ก
      
       มันจะต้องทำปลาย่าง ปลาต้ม หรือปลาทอดนี่ล่ะถึงจะยอด เพราะสูตรเด็ดเคล็ดลับในการทำจะแตกต่างกันไป อย่างที่เรียกว่า สูตรใครสูตรมัน
      
       เพราะฉะนั้น อีชั้นอยากให้เจ้านายลองสูตรของ “นายซูซูกิ” เขาดู แต่เท่าที่รู้ ถ้าเจ้านายจะสั่งเมนูจานนี้จะต้องใจเย็น
      
       นายซูซุกิ เขาไม่ต้มปลาหิมะกับซีอิ๊วไว้ในหม้อ สั่งแล้วก็ตักได้ทันทีเหมือนที่อื่น เคล็ดลับอย่างหนึ่งของเขาก็คือสั่ง ทำทีละจาน ทีละออเดอร์
      
       แต่ละจานจะต้องใช้เวลานานถึง 20 นาที เพื่อเคี่ยวปลาให้อมน้ำซีอิ๊วที่ปรุงพิเศษอย่างดีทุกซอกทุกมุม
      
       …เชื่ออีชั้นเถอะเจ้านาย สูตรอร่อยใจเย็น...เย็นอย่างนี้มีนายซูซูกิคนเดียวเท่านั้น
      
       เออมีด้วยอีกคนเหมือนกันก็คือ...คนกินนะซีเจ้าค่ะ จะต้องใจเย็นด้วยเหมือนกัน เพื่อความอร่อยอันสุนทรีย์รมณ์....

กินปลาปักเป้า (ฟุหงุ)



โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 กุมภาพันธ์ 2548 10:22 น.






 โดย...แม่ช้อยนางรำ






“ซาซิมิ ฟุหงุ” เนื้อปลาปักเป้าดิบ...ดิบ
       “ถามใจ...ตัวเองก่อนนะเจ้าคะ เจ้านาย
       ว่ากล้ากิน “ปลาปักเป้า” เสี่ยงตายอะปล่าว
       ถ้าปากอยากแต่ใจไม่กล้า???
       ก็ถอยออกมาดีกว่า ไม่ต้องอ่านรายงานนี้”

      
       พออีชั้น รู้ข่าวว่าจะมี “ปลาปักเป้า”
       จากญี่ปุ่นส่งมาให้ท้าทาย...(แฮะ แฮะ ก็เสี่ยงกับความตายนั้นล่ะเจ้าค่ะ)
      
       อีชั้นก็รีบติดต่อคุณ “นันทิรัตน์ ประเสริฐทรัพย์” หรือ “หนูต้อม” ประชาสัมพันธ์ “โรงแรมเวสทิน แกรนด์ สุขุมวิท” ทันที
      
       อะฮา..ถึงเวลาที่เราจะได้อิ่มอร่อยแบบเสี่ยง..เสี่ยงกับความตาย ซึ่งชั่วชีวิตนี้เราจะเสี่ยงแบบนี้ มีไม่กี่ครั้งด้วยกันหร๊อก !!
      
       เพราะฉะนั้น อีชั้นพลาดไม่ได้
      
       
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *






“ฟุหงุ คามินาบิ” ปลาปักเป้าหม้อไฟ
       เจ้านาย..เจ้าขา
      
       อันว่า “ปลาปักเป้า” ที่บ้านเรา คนกินแล้วชัก...ชักตายให้เป็นข่าวมาก็หลายครั้ง แต่ที่เมืองยี่ปุ่น-ยุ่นปี่ เขากินกันเป็นเรื่องธรรมดา
      
       ทั้งยังถือว่า ลูกผู้ชายถ้าไม่ได้กินเนื้อปลาปักเป้า ยังไม่สามารถจะยอมรับ นับถือกันได้ ก็คล้ายๆ ของคนจีนเขาว่า
      
       “ถ้ายังไม่ได้มาเหยียบกำแพงเมืองจีน ยังไม่ถือว่าเป็นลูกผู้ชาย” ของญี่ปุ่นก็คงจะว่าอย่างนี้
      
       “ถ้ายังไม่ได้กินฟูหงุ ยังไม่ถือว่าเป็นลูกผู้ชาย”
       

       ถามว่าทำไมต้องกิน คำตอบก็คือ..มันอร่อยที่สุดในบรรดาเนื้อปลาทั้งหลายในโลกมนุษย์ และก็อันตรายที่สุด มนุษย์มีสิทธิต้องตายเพราะกินเนื้อมัน
      
       
*    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *   






“ฮิโรอากิ อิเคดะ” ประสบการณ์ทำเมนูปลาปักเป้าท้าตายมานานกว่า 17 ปี
       อันว่าเจ้า ฟูหงุ เขียนเสียงของญี่ปุ่น แต่ถ้าฝรั่งจะออกเสียงว่า “ฟูกุ” เพราะเขาเขียนว่า “FUGU”
      
       คนญี่ปุ่นรู้จักกินกันมานานแล้ว และทุกวันนี้ก็ยังกินอยู่
      
       ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันเสี่ยง แต่เพราะความอร่อยนี่ไง ถึงเสี่ยงก็ต้องยอมตาย
      
       แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเสี่ยงกันสักเท่าไหร่ ประเทศญี่ปุ่นเขามีบริษัทรับผิดชอบ ส่งเนื้อเจ้าฟูหงุไปขายภัตตาคารญี่ปุ่นทั่วโลก
      
       นอกจากนั้นกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่น ยังกำหนดว่าพ่อครัวที่จะทำเมนูปลาปักเป้าได้จะต้องมีประกาศนียบัตรรับรองจากทางการ
      
       เพราะฉะนั้นหลายสิบปี นับตั้งแต่อีชั้นได้ลองกินเจ้าฟูหงุก็ยังไม่เห็นมีใครกินปลาปักเป้าแล้วตาย เลยสักคนเดียวเลย...จริงจริง...
      
       อีชั้นเคยกินเจ้าฟูหงุ ครั้งแรกที่โตเกียว ตอนบินกลับมาจากอเมริกา แล้วพักหนึ่งคืนเปลี่ยนเครื่องบินที่นั่น เมื่อปี คศ. 1970
      
       ก็สามสิบกว่าปีมาแล้ว
      
       กินครั้งที่สองกับ “คุณพินิจ สมบัติศิริ” ที่โรงแรมฮิลตัน ตอนนี้เขาเปลี่ยนชื่อ “โรงแรมนายเลิศ” ไปเรียบร้อยแล้ว
      
       มากินครั้งล่าสุดก็ที่ห้องอาหารญี่ปุ่นชื่อ “คิสโซะ” ที่ “โรงแรมเวสทิน แกรนด์” สุขุมวิทเมื่อวันก่อน
      
       กินแล้วก็คิดถึงเจ้านาย เพราะปลาปักเป้าฟูหงุไม่ได้มีขายให้เรากินบ่อยครั้งซะเมื่อไหร่ นานๆ จึงมีร้านอาหารญี่ปุ่นใจกล้า สั่งมาให้ท้าทาย..
      
       อีชั้นกินเจ้าปลาปักเป้าฟูหงุอย่างไร ลองพิจารณาดูกันนะเจ้าค่ะ
      
       
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *





       
เมนูปลาปักเป้า
      
       
จานแรก “ปลาปักเป้าซาซิมิ” เนื้อปลาแล่บางๆ ราวกับแผ่นกระดาษจิ้มกับน้ำซอสพอนสึ รสเปรี้ยวๆ เค็มๆ หวานๆ
      
       จานสอง “ปลาปักเป้าหม้อไฟ” สับเนื้อปลาปักเป้า เนื้อหนาๆ เอามาเคี่ยวกับน้ำซุปญี่ปุ่นมีผักเห็ดญี่ปุ่นต้มรวมมา
      
       จานสาม “ปลาปักเป้าย่างเกลือหรือทอด” คราวนี้ใช้ปลาติดกับก้างหรือหัวปลาฟูหงุ กินได้เนื้อได้หนัง
      
       จานท้าย “ข้าวต้มปลาปักเป้า” ใช้ปลาทั้งหัว ทั้งเนื้อ ทั้งกระดูกก้าง ต้มเคี่ยวกับข้าวญี่ปุ่น ใส่เหล้าสาเกเป็นจาน
       สุดท้ายให้ทั้งอร่อยทั้งอิ่ม
       
*    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *   
       

       นี่ล่ะ..เจ้าค่ะ ที่อีชั้นอยากจะเรียนเชิญเจ้านาย
      
       เพราะลูกผู้ชาย ถ้ายังไม่เคยกินปลาฟูหงุเสี่ยงตาย คนญี่ปุ่นเขาว่ายังถือเป็นลูกผู้ชายไม่ได้
      
       เมนูกล้าวัดใจสำหรับคนหาญ มีบ่อยครั้งซะเมื่อไหร่ แล้วก็มีให้แค่เดือนกุมภาพันธ์นี้เท่านั้น
      
       ...นี่คือรายการอาหารที่ท้าทายเจ้านาย ถ้าไม่กล้ากินก็อยู่บ้านกินปลาทูเข่งละห้าบาท..สิบบาทไปก็แล้วกันเจ้าค่ะ..เจ้านาย.
      
       
*    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *   
       

       
ห้องอาหารญี่ปุ่น “คิสโซะ” โรงแรม “เวสทิน แกรนด์ สุขุมวิท”
       เปิดบริการ 11.30 -14.00 น. และ 18.00-22.30 น. บุฟเฟ่ต์วันอาทิตย์ 11.30-14.30 น.โทรศัพท์ 0-2651-1000 ต่อ 6010

“ชิน-ชิน” อาหารจีนเก่า-รสชาติใหม่

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 กุมภาพันธ์ 2548 13:30 น.












ร้าน “ชิน-ชิน” (CHINE-CHINE) ชั้น 2 ของ เจ.อเวนูว์. ทองหล่อ 15
       “อาหารจีน (กวางตุ้ง) ในเมืองไทย
       กินที่ไหนก็คล้ายกัน “พ่อครัว” ท่านเดินสาย
       ออกจากร้านโน้น..ไปร้านนี้ แต่ที่นี่ไม่ใช่
       รสจีนที่นี่อยู่ที่รสมือคนไทยเจ้าของร้าน”
       

       **************************
      
       ประวัติศาสตร์อาหารจีนในเมืองไทยเจริญมาถึงจุดสูงสุดแล้วล่ะเจ้าค่ะ..เจ้านาย
      
       อ๊าว..อย่าเพิ่งต๊กกะใจว่า อีชั้นจะบรรยายเรื่อง ประวัติศาสตร์ปรัชญาอาหารที่ เจ้านายคิดว่าลูกน้องกำลังจะเป็น เกิดจากเมื่อคืนอีชั้นได้ไปเห็นไปกินแล้วก็กลับมาเขียนร้านอาหารจีนร้านนี้
      
       ร้านที่ชื่อว่า “ชิน-ชิน” (CHINE-CHINE)
      
       แล้วก็ต้องมาเขียนรายงานเจ้านายให้ทราบไว้ว่า
      
       ร้านอาหารจีนในเมืองไทย ที่เข้ามาเปิดขายกันเป็นเรื่องเป็นราว แต่ครั้งคราวต้นกรุงรัตนโกสินทร์นั้น ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แล้วเจ้าค่ะ ที่ร้านชิน-ชิน แห่งนี้
      
       (สมัยกรุงศรีอยุธยาไม่เอามาเขียนอ้างหรอกนะเจ้าค่ะ เพราะเกิดไม่ทัน ถึงกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้นๆ ก็เกิดไม่ทัน แต่ “ทวดแก้ว-ย่าจั่น” บ้านวงเวียนเล็กของอีชั้นเคยเล่าไว้เจ้าค่ะ)
      
       อะไรคือสิ่งที่อีชั้นว่าเช่นนั้น งั้นเจ้านายลองพิจารณารูปและคำบรรยายข้างล่างนี้ก็แล้วกัน





       *************************
      
       “ร้านชิน-ชิน”
       (CHINE-CHINE)
      
       เป็นร้านที่ออกแบบและตบแต่งแบบอาร์ตโมเดิ้ร์น
      
       ใครไม่รู้เดินผ่านก็นึกว่าเป็นร้านขายเหล้าฟังเพลง
       หรือถ้าสังเกตโต๊ะเก้าอี้ที่จัดก็เหมือนแบบสแกนดิเนเวีย
       คือออกแบบไม่เหมือนชาวบ้าน เขาจะต้องทำอะไร
       ที่แตกต่าง แถมทางเดินเข้ายังต้องผ่าน “ไวน์เชลเลอร์”
       อะไรเป็นที่บ่งบอกว่าขายอาหารจีนแทบไม่รู้กันจนกว่า
       จะขอดูเมนูรายการถึงรู้เลยว่า..ใช่
       เพราะบนปกเมนูที่ส่งมาให้เขาเขียนว่า
       CHINESE CUISINE-JAZZ BAR
      
       ***************************
       การค้นพบร้าน “ชิน-ชิน” นี้ อีชั้นต้องขอบคุณ “น้องจีน่า” แห่งนสพ.มติชน คนเมืองชลฯ ลูกสาวของพี่สนิท-พี่เสริม เอกชัย เธอเป็นคนแนะนำให้
      
       เหตุผลยืนยันการันตี ก็เพราะเจ้าของร้านนี้ก็เป็นเจ้าของเดียวกับร้านฝรั่งเศสชื่อดัง “เมซามี” (MESAMIS) ที่อีชั้นรู้จักมักจี่ฝีมือทำตับห่านสะท้านสะเทือนไปทั่ววงการร้านอาหารฝรั่งเศสในประเทศไทย
      
       ไม่ใช่เป็นเจ้าของร้านเท่านั้นนะเจ้าค่ะ..เจ้านาย
      
       แต่คุณ “ปุ๊กกี้” เธอไปเล่าเรียนอาหารฝรั่งเศสมาจากหลายประเทศ อาหารทุกจานของเธอทำเอง ไม่จำเป็นไปจ้างกุ๊กฝรั่งมังค่าที่ไหน
      
       เพราะฉะนั้น เรื่องความรู้แตกฉาน เรื่องอาหารหวานคาว..รสลิ้น..รสมือของเธอถือว่าผ่านมาตรฐานไว้วางใจได้
      
       ร้าน “ชิน-ชิน” เป็นร้านอาหารจีนแบบกวางตุ้ง เป็นตุ้งแท้..แท้ ไม่ใช่ตุ้งแช่ ประเภทดัดแปลงเป็นหัวมังกุหางมังกร เหมือนที่ตอนนี่ร้านอาหารจีนในเมืองไทยกำลังสับสนวุ่นวาย
      
       อย่างที่เรียกกันว่า “ฟิวชั่น” นั่นไง






“ส้มซันคีสตุ๋น” อารมณ์ศิลปิน-รสชาติศิลปะ ฝีมือเจ้าของร้าน
       แต่ในความเป็นกวางตุ้งแท้ก็มีคุณปุ๊กกี้ที่ว่านี้ไงเป็นผู้กำกับอีกระดับหนึ่ง
      
       อาหารจีนที่นี่จึงเป็นอาหารจีนกวางตุ้งแท้ แต่รสชาติมาจากรสปากเจ้าของร้าน ที่มีความรู้เชี่ยวชาญอาหารจีน ฝรั่งกระทั่งอาหารไทย พอๆ กับว่าความตามกฎหมาย
      
       คุณปุ๊กกี้เป็นทนายความ (สาว) มานานกว่าสิบปี แต่ชอบชีวิตในร้านอาหารมากกว่าชีวิตในโรงในศาล ก็เลยเกิดเป็นร้านอาหารฝรั่ง อาหารจีน สองร้านดังขึ้นในซอยทองหล่อ
       *********************
      
       อย่างที่เรียนเจ้านายแล้วว่า
      
       อาหารจีนกวางตุ้งที่นี่อร่อยที่แตกต่างไปจากร้านภัตตาคารจีนทั่วๆ ไป อาหารทุกจานเป็นรสนิยมของเจ้าของร้าน มีให้เลือกแตกต่างกันมากมายหลาย
      
       แต่อีชั้นขอแนะนำเมนูพิเศษ ที่ดัดแปลงมาจากอาหารจีนโบราณ ด้วยฝีมือและฝีลิ้นของคนรุ่นใหม่ เป็นซุปจีนน้ำใส ที่นักเปิบนักชิมทั้งหลายใช้วัดว่าพ่อครัวฝีมือขนาดไหน ต้องสั่งซุปมาซดกันก่อนเป็นเมนูแรก
      
       ซุปพิเศษของร้านนี้เป็น “ซุปส้มซันคิส”
      
       ใช่เจ้าค่ะ..เจ้านาย ส้มจีนที่ไปปลูกกันที่คาลิฟอร์เนียโด่งดังไปทั่วโลก คุณปุ๊กกี้เธอเอามาทำเป็นซุป คือเอาส้มทั้งลูกมาตุ๋นกับเครื่องยาจีนอ่อนๆ มีเนื้อเป็ด เนื้อหมู เนื้อไก่ เห็ดยัดอยู่ในลูกส้มอีกที ขมสักนิดก็ไม่มี หวานหวานกลมกล่อมชนิดที่เจ้าตัวส้มก็สามารถตักกินได้ มันจะนุ่มคล้ายกับลูกฟักตุ๋นของคนจีนโบราณ ที่ใช้นึ่งกินในฤดูร้อนนั่นไง
      
       แค่เจ้าซุปส้มซันคิส ก็พิชิตดาวของอีชั้นไปแล้ว






ก้ามปู(ยักษ์) ซ๊อสจีน ก้ามหนึ่งหนักสอง..สามขีด เนื้อแท้ๆ ไม่มียัดแบบร้านทั่วไป
       มีเมนูหนึ่งตกตะลึงพรึงเพริดนึกไม่ถึงว่าเป็นไปได้ ทั้งๆ ที่เมนู “ก้ามปูนึ่งซีอิ๊ว” ไม่ใช่ของใหม่
      
       แต่ก้ามปูที่ร้านนี้เป็นก้ามปูยักษ์ก้ามปูใหญ่ ใครเห็นจะต้องสะดุ้งโหย่ง..เอามาได้อย่างไง
      
       เอามาได้เจ้าค่ะ เจ้านาย
      
       ร้านนี้เขาสั่งปูขาว ปูเนื้อเป็นพิเศษสำหรับคนขาย เป็นก้ามปูที่ได้มาจากตัวปูแท้ๆ ไม่ใช่แช่เย็น
      
       อีชั้นอยากจะพรรณนาความอร่อยให้ได้มากกว่านี้
      
       แต่เนื้อที่เขียนมันเต็ม ไม่เหมือนเนื้อที่ท้องยังว่าง พร้อมที่จะไปเปิบพิสดารอาหารจีนพิศวงของร้าน “ชิน-ชิน” ได้เสมอ
      
       ร้านนี้อร่อยด้วยแบบฉบับของตัวเองไม่เหมือนใคร ไม่ต้องสั่งเมนูแปลกก็ได้ ขอให้ลองผักดองของที่นี่ แค่เห็นก็แปลก พอเข้าปากก็จะประหลาด รสชาติลีลาไม่เหมือนที่ไหนๆ
       ...ร้านนี่กระทั่งผักดองของง่ายๆ ทำไม่เหมือนใคร อร่อยไม่มีใครเหมือนเจ้าค่ะ เจ้านาย..
      
       แม่ช้อยนางรำ
       (SANTI_MAECHOICE@HOTMAIL.COM)
      
       ***************************
      
       ร้าน “ชิน-ชิน”
       ชั้น2 อาคารเจ.อเวนูว์ ทองหล่อ15
       โทร (0) 2712-6541 ถึง 2
       Email : CHINECHINEBKK@YAHOO.COM

“ครัวเจ๊ง้อ” หอเจี๊ยะ!!



โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 มีนาคม 2548 15:18 น.











“เจ๊ง้อ สุขุมวิท 20” บรรยากาศแบบฝาหรั่งเจ้าค่ะ
       โดย : แม่ช้อยนางรำ
       
       ชื่อนี้อีชั้นไม่ต้องไปการันตีเค้าหรอก
       บอกได้เลยว่าอาหารฝีมือเจ๊..เจ๋ง
       เป็นอาหาร “ท.ป.จ.ป.ล.”เจ้าอร่อย

      
       จำ.."คุณพรศรี หลูไพบูลย์” ได้มั๊ยเจ้าค่ะ..เจ้านาย
      
       คนที่เจ้านายไปโอเรียลเต็ลทีไร เป็นต้องถามหา
      
       ก็ใครจะมารู้ใจแขกน้อยใหญ่ ตั้งแต่แขกระดับธรรมดาอย่างอีชั้น ไปจนกระทั่งแขกวี.ไอ.พี ระดับประเทศได้ดีเท่าเจ๊แกไม่มี
      
       ก็พี่พรศรีคนนี้ละ วันก่อนอีชั้นมีนัดกินอาหารกันที่ร้านเจ๊ง้อ
      
       ไปกินแล้วก็ต้องเอามาเขียนเล่าให้เจ้านายได้รู้ต่อว่า
      
       เดี๋ยวนี้จะไปกินอาหารอร่อย “ร้านเจ๊ง้อ” อยู่แถวสุขุมวิทก็ไปกินกันได้ เพราะอยู่ไม่ไกลจากที่ทำงานของเจ้านายเท่าไหร่แล้ว
      
       โดยเฉพาะมื้อกลางวัน ที่เจ้านายชอบบ่นว่า..แถวสุขุมวิทกลางวันหาร้านอร่อยทำอาหารไว..ไว จะได้กลับมาทำงานเร็ว..เร็ว ไม่ค่อยมี
      
       มีแล้วเจ้าค่ะ..มีแล้ว






“กั้งกระเทียมพริกไทย”
       ในซอยสุขุมวิท 20 ก็ซอยที่เจ้านายชอบเรียกว่าซอยโรงแรมวินเซอร์นี่ไง เข้าไปกลางซอย ก็จะถึงร้านเจ๊ง้อ..หอเจี๊ย!! แล้ว
      
       “เจ๊ง้อ” ..อีมาเปิดสาขาใหม่ มาเอาอกเอาใจคนย่านดาวน์ทาวน์
      
       แล้วความเอร็ดอร่อยของ “เจ๊ง้อ สุขุมวิท 20” ก็เหมือนเจ๊ง้อ หงอไบ๊ทุกอย่างไม่ผิดเพี้ยน แต่อย่างไรเลย
      
       ความจริง เรื่องความเอร็ดอร่อยอาหารร้านเจ๊ง้อ คงจะไม่ต้องอธิบายให้ยืดยาว เอาว่าเป็นความอร่อยที่อีชั้นเรียกเป็นสำนวนส่วนตัวว่า
      
       “อร่อยร้านเจ๊ง้อ อร่อยแบบ ท.ป.จ.ป.ล.”
      
       อร่อยอย่างนี้ เป็นอร่อยแบบไหน ใจเย็น..เย็น แล้วอีชั้นจะเฉลยให้ตอนท้ายข้อเขียนของอีชั้นวันนี้เจ้าค่ะ
      
       แต่ตอนนี้ อีชั้นมี “เมนูมื้อกลางวัน” ที่อยากให้เจ้านายไปลองเปิบกัน
      
       เพราะถ้ามีคนบ่นว่า ระยะหลังอาหารร้านเจ๊ง้อ ค่อนข้างจะแพงไปสักหน่อย แต่ตอนนี้อีชั้นก็จะบอกเจ้านายว่า
      
       ไปกินร้านเจ๊ง้อ ตอนกลางวันแค่ 60 บาท ก็อิ่มได้เหมือนกันเจ้าค่ะ






“ส้มตำปูทะเล”
       เมนูกลางวันทันใจ
       “เจ๊ง้อ สุขุมวิท 20”

      
       
ข้าวผัดปลาเค็ม, ข้าวอบหนำเลี๊ยบ
       ข้าวผัดปู/กุ้ง/ไก่/หมู/ทะเล
       เส้นหมี่ผัดผักกะเฉด
       ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าหมู/ไก่/กุ้ง/ทะเล
       เส้นหมี่กรอบราดหน้าหมู/ไก่/กุ้ง/ทะเล
       โกยซี่หมี่ไก่/กุ้ง/ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่/ทะเล
       ก๋วยเตี๋ยวต้มยำกุ้งนาง/ผัดหมี่สั้วกุ้ง
       ทุกอย่างทุกจานราคา 60 บาทเจ้าค่ะ







“ปูทะเลผัดเจ้าสัว”
       เห็นเมนูมื้อกลางวันทันใจ ที่อีชั้นตั้งชื่อให้เจ๊ง้อ เจ้านายก็จะได้ไม่ต้องไปง้อร้านหน้าที่ทำงานอีกต่อไปแล้ว
      
       อีชั้นนะเบื่อ ข้าวราดหน้าไก่ผัดใบกระเพรากับไข่ดาว สูตรของจ้านายเต็มที
      
       เรื่องอาหารร้านเจ๊ง้อ ก็อย่างที่อีชั้นเรียนเจ้านาย
      
       ไม่ต้องอธิบายมาก เพราะเจ๊เขาทำอาหารโด่งดังมาหลายปีดีดัก ตั้งแต่สมัยอยู่ที่สี่พระยา แล้วมาตั้งสาขาที่ตึกซันฟลาวเวอร์ ถนนวิภาวดี แล้วตอนนั้นมาเปิดอีกที ถนนสุขุมวิท
      
       เจ๊แกยึดเป็นถนน..ถนนไป
      
       ที่สุขุมวิทซอย 20 นี้ เป็นร้านหะหรูหะหราบรรยากาศเป็นฝรั่งมังค่า ราวกับร้านฝรั่งเศส อาหารกลางคืนนะมีเหมือนกันทุกที่ แต่ถ้าอาหารกลางวันสำหรับถนนสายนี้ สำคัญเพราะหาร้านอร่อยกินกันไม่ได้
      
       งั้นเจ้านายต้องเลือกไปอุดหนุนเจ๊เขา เพราะทำอาหารอย่างที่อีชั้นเรียกว่า ท.ป.จ.ป.ล. เจ๊เขาเก่ง
      
       ...ท.ป.จ.ป.ล. คืออะไรหรือเจ้าค่ะ มันย่อมาจากคำว่า อาหารไทยปนจีน..ปนลาวเท่านั้นเอง..เจ้าค่ะเจ้านาย
      
       “แม่ช้อย นางรำ”
      
       
*    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    *    * 
       

       ร้านเจ๊ง้อ สุขุมวิท 20 โทรศัพท์ 0-2258-8008 ถึง 9