homeowners insurance Claim home insurance Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim commercial insurance Claim cheap auto insurance Claim cheap health insurance Claim indemnity Claim car insurance companies Claim progressive quote Claim usaa car insurance Claim insurance near me Claim term life insurance Claim auto insurance near me Claim state farm car insurance Claim comprehensive insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim progressive renters insurance Claim state farm insurance quote Claim metlife auto insurance Claim best insurance companies Claim progressive auto insurance quote Claim cheap car insurance quotes Claim allstate car insurance Claim rental car insurance Claim car insurance online Claim liberty mutual car insurance Claim cheap car insurance near me Claim best auto insurance Claim home insurance companies Claim usaa home insurance Claim list of car insurance companies Claim full coverage insurance Claim allstate insurance near me Claim cheap insurance quotes Claim national insurance Claim progressive home insurance Claim house insurance Claim health insurance quotes Claim ameritas dental Claim state farm renters insurance Claim medicare supplement plans Claim progressive renters insurance Claim aetna providers Claim title insurance Claim sr22 insurance Claim medicare advantage plans Claim aetna health insurance Claim ambetter insurance Claim umr insurance Claim massmutual 401k Claim private health insurance Claim assurant renters insurance Claim assurant insurance Claim dental insurance plans Claim state farm insurance quote Claim health insurance plans Claim workers compensation insurance Claim geha dental Claim metlife auto insurance Claim boat insurance Claim aarp insurance Claim costco insurance Claim flood insurance Claim best insurance companies Claim cheap car insurance quotes Claim best travel insurance Claim insurance agents near me Claim car insurance Claim car insurance quotes Claim auto insurance Claim auto insurance quotes Claim long term care insurance Claim auto insurance companies Claim home insurance quotes Claim cheap car insurance quotes Claim affordable car insurance Claim professional liability insurance Claim cheap car insurance near me Claim small business insurance Claim vehicle insurance Claim best auto insurance Claim full coverage insurance Claim motorcycle insurance quote Claim homeowners insurance quote Claim errors and omissions insurance Claim general liability insurance Claim best renters insurance Claim cheap home insurance Claim cheap insurance near me Claim cheap full coverage insurance Claim cheap life insurance Claim

มาแคนนีส (MACANESE) อาหารจีนแบบฝรั่งพิสดาร

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 ตุลาคม 2547 16:11 น.










       เมื่อฝรั่งปอร์ตุกีสเดินทางมาพบกับคนจีนไชนีส
       จึงเกิดมาเป็น “มาแคนนีส” อาหารจีนฝรั่งพิสดาร
       อร่อยแปลกแบบนี้มีแห่งเดียวในโลกเท่านั้น
       อยู่ที่...มาเก๊า

      
       กลับมาจาก... “มาเก๊า” เมื่อเดือนสิงหาคมที่แล้ว
      
       อีชั้นบอกเจ้านายว่า
      
       จะต้องพาเจ้านายไปเที่ยวมาเก๊าให้ได้
      
       เพราะเดี๋ยวนี้ไปมาเก๊าแสนสะดวกสบาย ไม่ต้องไปเริ่มต้นกันที่ฮ่องกงแล้วแล้วต่อเรือไฮโดรฟอยท์นั่งกันอีกเป็นชั่วโมง
      
       ตอนนี้สายการบิน “แอร์เอเชีย” บินตรงสองชั่วโมงก็มาถึงมาเก๊าแล้ว
      
       สนามบินที่นั่นใหญ่ทันสมัย
      
       ตรวจคนเข้าเมืองที่นั่นไม่ใจร้าย ดูถูกคนไทยเหมือนที่ฮ่องกง
      
       ช้อปปิ้งที่นั่นก็มีของเหมือนฮ่องกงทุกอย่าง บางอย่างจะถูกกว่าด้วยซ้ำ
      
       แถมคนขายก็ไม่มึงมาพาโวยชวนโมโหเหมือนอาม่วยอาตี๋ที่เชียงกัง
      
       และที่สำมะคัญ อันนี่สำคัญที่สุดล่ะเจ้านาย
      
       ที่มาเก๊ามีอาหารจีนกวางตุ้งที่อร่อย แล้วยังมีอาหารปอร์ตุเกส มีอาหาร “มาแคนนีส” แบบที่อย่าว่าแต่ฮ่องกงจะไม่มีเลย ที่ไหน ๆ ก็ไม่มีทั้งนั้น
      
       อันว่าอาหาร “มาแคนนีส” นั้นไซร้เจ้านายขา
      
       
มันก็คืออาหารจีนกวางตุ้งที่ใช้เครื่องฝรั่งมังค่าแบบปอร์ตุกีส ก็เลยรวมกันเรียกว่า “มาแคนนีส”
       

       มาแคน...ก็หมายถึงมาเก๊า
      
       นีส...ก็หมายถึงคนที่นั่นไงล่ะเจ้าค่ะ
      
       เจ้านายไม่เคยรับประทาน ลูกน้องจะสาธยายให้ลองจินตนาการดูไปพลาง ๆ ก่อนเดินทางว่ามันจะอร่อยแปลก...
       
       แปลกแบบไหนกัน





       ก่อนอื่นเจ้านาย จะต้องรู้ก่อนซะว่า
      
       บรรดาเครื่องปรุงอาหารแปลก ๆ นั้น พวกฝรั่งปอร์ตุกีส ซึ่งเป็นคนผิวขาวชาติแรกที่นำเรือสินค้าอ้อมแหลมกู๊ดโฮป จากอาฟริกามาถึงทวีปเอเชียได้
      
       ปอร์ตุกีสพวกนี้ นำสินค้าแปลกจากทวีปอาฟริกาบ้าง ทวีปอเมริกาบ้าง รวมทั้งบรรดาเครื่องเทศทั้งหลายจากอินเดีย และหมู่เกาะโมลุกกะมาถึงมาเก๊า เมื่อราวศตวรรษที่ 7 ก็คิดง่าย ๆ เมื่อสาม...สี่ร้อยปีที่ผ่านมาไว..ไว
      
       ถ้าอีชั้นจะบรรยายความตามไท้ก็ต้องยกตัวอย่างว่า มะเขือเทศ มันฝรั่ง ข้าวโพด พริกนั้นเขาเอามาจากอเมริกา
      
       ส่วนหญ้าฝาหรั่น ใบกระวาน ก้านพลู อบเชย ลูกจันทน์ ก็เอามาจากอินเดีย
       รวมทั้งผลหมากรากไม้จากอาฟริกาก็ขนเอามา
      
       มาที่ไหนก็ไม่เป็นเรื่อง แต่มาถึงเมืองจีนก็เลยได้เรื่อง
      
       พวกอาเฮีย อาแปะ อากู๋อีทำกับข้าวเก่ง เมื่อได้ของเล่นจากเมืองไกลมามากมาย อีก็เลยดัดแปลงเป็นอาหารสูตรใหม่ เป็นเครื่องฝรั่งปนเครื่องจีน
      
       แต่ฝีมือเป็นของคนจีนกวางตุ้ง ที่ได้ชื่อว่าทำกับข้าวอร่อยที่สุดในประเทศจีน ก็นั้นล่ะเจ้าค่ะ อาหาร “มาแคนนีส” จึงได้ถือกำเนิดเกิดขึ้นมาบนเกาะมาเก๊าที่ว่านี้
       
       ในเกาะแห่งนี้ มีร้านอาหารอร่อยแบบ “มาแคนนีส” เพียงไม่กี่เจ้า เพราะสูตรที่เขาทำเป็นสูตรประจำร้าน ประจำบ้าน เขาไม่ยอมสืบสานให้ใคร
      
       เพราะฉะนั้นอาหาร “มาแคนนีส” จึงไม่แพร่หลาย
      
       ใครอยากจะกินต้องมาที่มาเก๊าแห่งเดียวเท่านั้น
      
       แต่เจ้าอร่อยล้ำไม่มีร้านไหนจะมีมาเทียม ร้านนั้นอยู่ในรายการ “ทัวร์มาเก๊า” ที่อีชั้นจะพาเจ้านายไปเปิบกันวันศุกร์หน้า (ศุกร์ที่ 8 ตุลา)





       เราใช้เวลาการเดินทางไปกลับแค่สองคืนกับสามวันเท่านั้น แต่เจ้านายจะได้ทุกอย่างครบครัน อีชั้นจะพาเจ้านายไปกินอาหาร “มาแคนนีส” แห่งเดียวในโลก ไปกินอาหารกวางตุ้งของแท้ ๆ ที่ “เมืองจูไห่” เมืองแผ่นดินใหญ่ที่อยู่ตรงข้ามกับเกาะมาเก๊า
      
       อาหารจีนที่นั่นเป็นสูตรเก่า ไม่ใช่สูตรใหม่ดัดแปลงแบบฮ่องกงที่เจ้านายกินซะจนเบื่อซะเมื่อไร
      
       ตามโปรแกรมอีชั้นจะแถมให้เจ้านาย คือจะพาขึ้นไปบน “หอคอยมาเก๊า” ที่นั่นนอกจากจะเป็นจุดชมวิวเกาะแห่งนี้สวยงามที่สุดแล้ว บุพเฟ่ต์อินเตอร์ ฯที่นั่น มีมากมายเป็นร้อยรายการ เขาจัดสรรเลือกมาสุดยอดของโลกทั้งนั้น เพื่อมาปรนเปรอบรรดานักเปิบลิ้นอินเตอร์อย่างอีชั้น อย่างเจ้านาย
      
       และที่ลืมไม่ได้ก็คือ
      
       
อีชั้นจะพาเจ้านายไป “พิพิธภัณฑ์ไวน์” แห่งเดียวในเอเชีย ที่ปอร์ตุเกสสร้างขึ้นเพื่อขายไวน์ให้กับนักเดินทาง
      
       เจ้านายคงจะรู้แน่แท้แก่ใจแล้วว่า ไวน์โรเซ่ หรือไวน์กุหลาบกับพอร์ทไวน์หรือไวน์หวานของปอร์ตุเกสนั้นโด่งดังที่สุดในโลก
      
       แต่ล่าสุดที่อีชั้นไปมาเมื่อเดือนสิงหา ตอนนี้พิพิธภัณฑ์ไวน์เขาออกตัวใหม่คือ “ไอซ์ไวน์” หรือไวน์หวานพิเศษจากองุ่นที่เก็บในฤดูหนาวเมื่อยามหิมะตก
      
       ปรกติไวน์หิมะ หรือไวน์น้ำแข็งที่ว่านี้ มีสองประเทศในโลกเท่านั้นที่ผลิตออกมาแล้วเป็นที่ยอมรับว่า...หวานล้ำ อร่อยซึ้งที่หนึ่งของโลก
      
       คือไอซ์ไวน์เยอรมัน ก็ไอซ์ไวน์แคนนาดา
      
       แต่ตอนนี้ปอร์ตุเกสก็สามารถผลิตได้ แล้วราคาก็ยังถูกกว่าเป็นสิบเท่า คิดเอาเถิดเจ้านาย ไอซ์ไวน์เยอรมัน-แคนนาดาขายขวดละเป็นหมื่น
      
       แต่ไอซ์ไวน์ปอร์ตุกีสที่พิพิธภัณฑ์ไวน์มาเก๊าขายขวดละ5-6000 บาท ก็ถูกขนาดนี้เจ้านายเหมาเป็นมาลัง ก็ถือว่ากำไรแล้วจากการเดินทางไปกับอีชั้นคราวนี้
      
       “แม่ช้อย นางรำ”
       (SANTI_MAECHOICE@HOTMAIL.COM)
      
       สนใจร่วมเดินทางติดต่อสอบถามรายละเอียดที่บริษัทพี.โอ.พี ทราเวิล หรือป๊อปทัวร์
       โทร. 02-653-7171 (เครือข่ายพ่วง 10สาย)

พระกระโดดกำแพงที่ “โออิชิ”



ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 ตุลาคม 2547 17:19 น.







“พระกระโดดกำแพง”กระโดด..ลงไปในชามอย่างนี้
       อีชั้นไปกินบุฟเฟ่ต์ที่ภัตตาคาร “โออิชิ”
       แต่ฮิ..ฮิ ไม่เห็นต้องเป็นข่าว
       เหตุผลก็เพราะนอกจากอีชั้นไม่ไปกิน
       ตอนที่เขากำลังจะปิดร้านแล้ว
       อีชั้นก็ยังไม่สั่ง “ชาบู..ชาบู” แล้วจุดไฟ
       ด้วยตัวเองหร้อก
      
       
คุณตัน..ก็ตันไหน
      
       เพราะ คนชื่อตัน ที่อีชั้นรู้จักมรอยู่คนเดียว คือ “ตัน โออิชิ”
       

       ซึ่งถ้าจะเรียกให้เต็มยศ ก็ต้องพูด..ต้องเขียนให้เต็มคำว่า
      
       “คุณตัน ภาสกรนที” เจ้าของภัตตาคารโออิชินั่นล่ะ
      
       คุณตันสั่งเด็กให้มาตามอีชั้นไปกิน “พระกระโดดกำแพง”
      
       
อะ..ชะ..ช้า
      
       นี่หลวงพี่ หลวงพ่อ ถ่อมากระโดดถึงเมืองไทยแล้วหรือไง
      
       ครั้งสุดท้ายที่อีชั้นไปนิมนต์ให้ท่านกระโดดมาในไหเหล้า โน้น..แน่ะ อีชั้นไปกินที่เซี่ยงไฮ้
      
       ที่ต้องไปกินที่นั่นก็เพราะ “พระกระโดดกำแพง” นั้นมีกำเนิดเกิดขึ้นที่เมืองนี้เมื่อปี ค.ศ. 1877 ก็ประมาณร้อยกว่าปีผ่านมา
      
       เรื่องนี้มีประวัติบันทึกไว้ ในเรื่องอาหารฮองเต้ของสมัยราชวงศ์ชิง
      
       
อีชั้น..เป็นแฟนเก่าของคุณตัน มาตั้งแต่ท่านยังไม่ได้เป็นเจ้าของ บริษัทมหาชน มูลค่าหลายพันล้านอย่างเช่นทุกวันนี้
      
       เอ๊า..ไปก็ไป เรื่องกินขอให้บอกเถิด เรื่องกินไม่เคยหนี โดยเฉพาะกินฟรี ถ้าไม่ดีอีชั้นก็ไม่กินของใคร
       

       ต่อให้ช้าง ม้า วัว ควาย นักการเมือง หรือผู้ยิ่งใหญ่ และผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายมาฉุด จ้างก็มาหยุดอีชั้นไม่ได้ นี่ล่ะเป็นกฎข้อหนึ่ง สำหรับการที่จะเป็น “นักวิจารณ์อาหาร” ที่จะต้องบัญญัติเอาไว้ในหัวใจ
      
       คืนที่อีชั้นไปกิน “พระกระโดดกำแพง” ตามนัด มีสเตอร์ตัน ดันไม่มาซะนี่ ให้คุณ “ฐิติมา ศรีอุทัยวงศ์” หรือ “คุณจู” มาทำหน้าที่ต้อนรับขับสู้ นิมนต์พระลงหม้อแทน
      
       เอาล่ะ..ตันไม่มา จูมาแทนก็โอเค
       

       ว่าถึง “คุณจู” นี่จะต้องลำเลิกเรื่องเก่าเอามาเขียนเล่าให้เจ้านายรู้จักมักจี่..แต่อย่ามักจีบ เพราะเธอมีฝาละมีแถมมีลูกแล้ว
      
       “คุณจู”..เป็นลูกค้าทัวร์เก่าแก่คนหนึ่งของอีชั้น เธอเคยไปทัวร์เปิบพิสดาร อาหารฮองเต้ ที่ฮ่องกง ที่มาเก๊า ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2520 ปีแรกที่อีชั้นเริ่มทำทัวร์เปิบพิสดาร มาถึงปีนี้ ก็ตกราวๆ 27 ปีแล้ว
      
       คุณจูตอนนี้ไม่ใช่เด็กสาวจากชลบุรีที่อีชั้นเคยต้อนรับขับสู้อยู่บน เครื่องบิน บนรถ บนเรือ เวลาออกทัวร์ แต่เธอเป็นกรรมการบริหารของบริษัทโออิชิ (มหาชนป
      
       ก็ว่ากันง่ายๆ คือเธอเป็น “นัมเบอร์ทู” หากมีสเตอร์ตันเป็น “นัมเบอร์วัน”
       

       อีตอนเธอจะเปิดภัตตาคารโออิชิแห่งแรกในซอยทองหล่อ เธอก็ยังเคยนิมนต์ ฮัดฉ่า..อีนี่ม่ายช่าย เธอยังเคยเชิญอีชั้นไปร่วมเป็นเกียรติเปิดป้าย
      
       จากร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ญี่ปุ่นเจ้าแรกในเมืองไทย เปิดมาได้ยังไม่ถึง 10 ปีเห็นจะได้ ตอนนี้กลายเป็นบริษัทมหาชนระดับพันล้านไปแล้ว
      
       เพราะฉะนั้น คนชื่อตันไม่มีวันตัน เหมือนคนชื่อจู ไม่มีวันจน







บรรดาเครื่องปรุง “พระกระโดดกำแพง”ที่มีอยู่ 20 อย่าง..อย่างน้อยนะเจ้าค่ะ
       คืนนั้นอีชั้นได้กิน “พระกระโดดกำแพง” จริงๆ ที่ต้องว่าเช่นนั้น ก็เพราะพระกระโดดกำแพงหลายแห่งที่อีชั้นไปกินมา ส่วนใหญ่จะเป็น “เณรกระโดดรั้ว” ซะมากกว่า
      
       ทำไมต้องว่าอย่างนั้น
      
       เหตุผลก็เพราะมันไม่ใช่ของแท้อย่างที่อีชั้นเคยกินที่เซี่ยงไฮ้
      
       เพราะเครื่องปรุงของพระกระโดดกำแพง ซึ่งก็คือหูฉลามตุ๋น จะต้องประกอบด้วย เครื่องอีก 20 อย่าง ยกเอามาเป็นแซมเปิลก็ได้ว่า
       

       นอกจากจะมีหูฉลามแล้ว ยังจะต้องมีเอ็นกวาง ตัวเดียวอันเดียวเสือ ปลิงทะเล หอยเป๋าฮื้อ ไก่ดำต้องไก่สมัยราชวงศ์ถัง บางครั้งก็ต้องมีตีนอูฐ ลิ้นนกกระเรียนเป็นสำคัญ
      
       ส่วนเครื่องยาจีนนั้นก็รู้ๆ กันอยู่แล้วว่า “พระกระโดดกำแพง” จะต้องเข้าโสมคนอย่างดีพิเศษ หญ้าหนอนที่เรียกว่า “ตังฉ่ำเฉา” เก๋ากี้ รากหญ้าน้ำลายมังกร
      
       แล้วก็เครื่องตุ๋นจีนอีกสัก 10 อย่าง จากนั้นก็ต้องตุ๋นด้วยไฟอ่อนๆ นานสัก 10 ชั่วโมง จึงจะยกมาถวายฮองเต้..ฮองเฮาได้
      
       ที่ภัตตาคารโออิชิ เขามีตุ๋น “พระกระโดดกำแพง” จริงๆ
      
       ใครไม่ได้รับเชิญไปกินอย่างอีชั้น ก็ไปกินฝีมือเขาได้
      
       “พระกระโดดกำแพง” อยู่ในเมนูบุฟเฟ่ต์ของร้านโออิชิทุกแห่ง แต่ไม่ใช่กินหม้อใหญ่ๆ กินพระกระโดดกำแพงของอร่อยที่แสนแพง จะมีเจ้าหน้าที่ร้านเขาคอยบริการตักให้หมดถ้วยเมื่อไหร่ ก็ให้มาขอต่อได้ทีละถ้วย..ทีละถ้วย ช่วยให้ยิ่งเจริญอาหาร ไม่ต้องกินเมนูอื่นซึ่งมีร้อยรายการของร้าน ก็คุ้มแล้วล่ะ...เจ้านาย
      
       นี่ถ้าคืนนั้น ท่านสส. กับเพื่อนไม่ไปกินชาบู ชาบู ตอนที่เขากำลังจะปิดร้าน ทั้งยังทำผิดหน้าที่ คือสส. หรือท่านผู้แทนทำหน้าที่พิจารณากฎหมายในสภา
      
       ไม่ใช่ทำหน้าที่จุดไฟแอลกอฮอลล์เยลลี่ อย่างที่เขาว่ากัน
      
       ป่านนี้ท่านไม่ต้องนอนหยอดน้ำข้าวต้มที่โรงพยาบาลหร๊อก แต่ถึงนอนก็ไม่เป็นไร ให้มีสเตอรันหอบตุ๋น “พระกระโดดกำแพง” ไปขมาท่าน
      
       ...อร่อยอย่างนั้นท่านคงอโหสิกรรมให้ แล้วคงเลิกกินชาบู ชาบูเด็ดขาด ฟาดพระกระโดดกำแพงอย่างเดียวเท่านั้น อร่อยยอด ปลอดภัยอีกต่างหาก เชื่ออีชั้นเต๋อะ...
      
       “แม่ช้อยนางรำ”
      
       “พระกระโดดกำแพง” มีบริการที่ “ภัตตาคารโออิชิบุฟเฟ่ต์” และ “โออิชิเอ็กซ์เพรส” ทุกแห่ง ตลอดเดือนตุลานี้ รายละเอียดถามที่ 0-2712-3456 เจ้าค่ะ
      
 ผู้จัดการออนไลน์

“เดอะ ไชน่า เจอนัล” ห้องน้ำชาจีน เกษรพลาซ่า

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 ตุลาคม 2547 14:38 น.










       โดย : แม่ช้อย
       
       มุมเล็ก..เล็ก ในพลาซ่าใหญ่
       สำหรับท่านที่ชอบจิบน้ำชาเล็มสแน็ค
       เพื่อความสุขสุนทรีรมณ์แห่งอารมณ์
       และความเริงรมณ์แห่งวิญญาณ

      
       เจ้านาย..ก็รู้นี่น่าว่า อีชั้นเป็นคนชอบดื่มชาจีน
       และก็ไม่ได้ดื่มเพราะเป็นแฟชั่นอย่างคนสมัยนี้นิยมดื่มชาเขียวกัน
       ชนิดกระทั้งบะหมี่สำเร็จรูป ยังต้องใส่ชาเขียว
      
       อาทิตย์นี้ขอบอกว่า
      
       อีชั้นจะชวนเจ้านายไปจิบน้ำชาจีนดี ในถ้วยตะไลเล็กๆ แล้วก็มีของให้คบเคี้ยว ประเภทที่ฝรั่งเรียกว่า “สแน็ค” (SNACK)
      
       แต่คนไทยชอบเรียกว่า “ของว่าง” ฟังแล้วก็เง็ง..เง็ง เพราะถ้ามันว่างมันน่าจะหมายความว่า
      
       ไม่มีอะไรให้กินต่างหาก แต่ก็ไม่ใช่ ของว่างที่ว่ากลายเป็นมีอะไรมากมายเต็มโต๊ะไปโหมด
      
       บนชั้น 3 ของ “เกษรพลาซาร์” ตรงข้ามกับ “เวิลด์เทรด” ถนนราชปรารภ ถ้าติ๊งต๊างว่าเจ้านายขึ้นไป
      
       ตรงกลางฟลอร์ของชั้นที่ว่า เจ้านายจะเห็นมุมเล็กๆ ที่ใหญ่ของร้านน้ำชาจีน ซึ่งดูราวกับว่าจะเดินย้อนยุคเข้าไปในแผ่นดินจีนลึก..ลึก
      
       อย่างน้อยๆ ก็ตกยุคราชวงศ์ชิง เมื่อประมาณร้อยกว่าปีที่ผ่านมาไว..ไว
      
       ร้านน้ำชาที่เขียนชื่อเป็นภาษาฝรั่งกับภาษาจีน ไม่ยักกะมีชื่อไทย แต่อีชั้นก็อ่านได้ว่า
      
       “เดอะ ไชน่า เจอนัล”
       ( THE CHINA JOURNAL)

      
       แปลจีนตัวฝรั่งเป็นไทยคงจะได้ความหมายว่า.."จีนบันทึก”
      
       หรือใครจะแปลว่า “วารสารจีน” ก็คงจะไม่ผิดอะไร





       ร้าน “เดอะ ไชน่า เจอนัล” ร้านนี้เป็นสาขาที่สอง ต่อมาจากสาขาแรก ในซอยทองหล่อ ที่อีชั้นเคยแวะเวียนไปอุดหนุนเวลาผ่านมาหลายปีดีดัก
      
       ในตอนแรกที่เข้าไป ก็นึกว่าเป็นร้านขายของเก่าที่อีชั้นหลงใหล
      
       แต่ที่ไหนกันของเก่าก็มีขาย น้ำชาจีนร้อนๆ หรือชาฝรั่งเย็นก็มีให้จิบให้ดื่ม อีชั้นก็เลยเป็นปลื้ม
      
       นี่คือร้านในความฝันของอีชั้นยามเฒ่าชรา
      
       นั่งจิบน้ำชา ดูของเก่า ใครเข้ามาก็เป็นเพื่อนร่วงวงสนทนาว่าด้วยชาจีนดีๆ ในแผ่นดินจีน กับเครื่องของเก่าจากทุกมุมโลก
      
       คุยอย่างนี้สาววัน..เจ็ดวันไม่ทะเลาะกัน แต่ถ้าคุยถึงการเมือง เริ่มแย้มปากก็อยากจะชกกันแล้วเจ้าค่ะ
      
       ร้านนี้มีชาจีนอร่อยๆ ให้เลือกจิบเลือกได้ตามรสนิยมลิ้น เพราะชาจีนมีมากมาย เป็นสิบๆ อย่าง แตกต่างกันทั้งนั้น
      
       และที่สำคัญ ชาจีนที่นี่ก็เป็นของแท้ ไม่มีของแย่ๆ เอามาปลอมปน
      
       ชาเยี่ยมๆ ที่เขาจะชงให้เจ้านายจิบ มีชาอูหลง ชาสุ่ยเซียน และก็ทิกวนอิม เป็นชามาจากเมืองจีนของดีๆทั้งนั้น
      
       ส่วนชาเขียว ชาซีลอน หรือชาเอิร์ลเกรย์ แบบญี่ปุ่นกับศรีลังกาหรืออังกฤษ เขาก็มีเหมือนกัน
      
       มีทั้งร้อนทั้งเย็น สั่งมาจิบเล่นๆ หรือมาดื่มจริงๆ เป็นเรื่อง





       นอกจากน้ำชาดี ที่ร้าน “จีนบันทึก” ที่อีชั้นจะเรียกร้านนี้อย่างนี้ เพราะฟังแล้วเป็นไทยดี และก็ยังมีของกินเล่นอย่างที่เรียกเป็นเป็นภาษาปะกิตว่า “สแน็ค”
       

       เจ้านายสั่งสลัดทุกชนิด มีน้ำสลัดแตกต่างกันไปเป็นสิบอย่าง แต่เข้าทางลิ้นอีชั้นต้องน้ำใสแบบอิตาเลียน ที่นี่เขามาแปลก คือโรยผงออริกาโน่แทรกลงมาด้วยช่วยให้ทั้งหอมทั้งอร่อย
      
       ส่วนแซนด์วิชหลายชนิดหลายไส้ใส่มาเถอะ ไส้ไหนๆ ของเขาก็อร่อย เพราะเขาใช้แต่ของดีๆประเภทอิมพอร์ตมาจากต่างประเทศทุกรายการทั้งนั้นเจ้า ค่ะ...เจ้านาย
      
       ร้าน “จีนบันทึก” หรือ “เดอะ ไชน่า เจอนัล” เป็นมุมเล็กๆ ที่นั่งสบายสุด...สุด ในเกษรพลาซ่า ตอนวันเสาร์อาทิตย์ ที่นี่เขามีดนตรีให้ฟัง
      
       เพลงรุ่นซิกตี้ สมัยที่เกสรแห่งนี้เพิ่งจะเปิด อีชั้นเป็นลูกค้าประจำ
      
       แต่เวลาผ่านไป สมัยนั้นมีมุมจิบน้ำชาจีนที่ไหน มีแต่ไบเล่ย์ มีแต่เฮาดี้ มีแต่สไปร์ท เจ้านายเกิดไม่ทันหรอกเจ้าค่ะ
      
       รุ่นนั้นมันรุ่นอีชั้น เพราะละแวกแถบนี้เขามีคนที่ชื่อ แดง ไบเล่ย์...จอร์ช เฮาดี้...หมู สไปร์ท ...แล้วก็มีใครอีกมากมายที่ต้องเอาเครื่องดื่มมาไว้ข้างหลังชื่อ เพื่อสำแดงความแตกต่างว่าข้าแน่ !!
      
       แต่ประวัติจิ๊กโก๋เกสรสมัยนั้นไม่ยังกะมี...ช้อย คือหมายถึง...แม่ช้อย ที่ชอบดื่มชาจีน ก็ไม่รู้ ที่รู้ๆ มีอยู่คนหนึ่ง เพื่อนอีชั้นเองเจ้านาย มันชื่อ...”แดง น้ำแข็งเปล่า”
      
       น้ำขวดมันไม่กินทั้งสิ้น มันกินแต่น้ำแข็งเปล่า จะอร่อยหรือเปล่าอีชั้นลืมถาม แต่มันบอกอีชั้นว่า...”น้ำแข็งเปล่านี่ดี รู้มั๊ยเพราะอะไร”
      
       ใครจะไปรู้ เมื่ออีชั้นบอกมันอย่างนั้น เจ้าแดง น้ำแข็งเปล่า มันก็ตอบทันทีว่า...ดีก็เพราะว่ากินฟรี รู้ไว้ด้วย...อีช้อย !!
       

       “แม่ช้อย นางรำ”
       (SANTI_MAECHOICE@HOTMAIL.COM)
 ASTVผู้จัดการออนไลน์

“เอโดะ” อาหารญี่ปุ่นที่ “มิราเคิล แกรนด์”

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 มิถุนายน 2547 17:25 น.





  โดย : แม่ช้อย นางรำ





       



อีชั้น…มองข้ามร้านญี่ปุ่นมาหลายปี
       
       



เมื่อ “วันนักเขียน” 5 พ.ค.ที่ผ่านมา
      
       



ถึงได้รู้ว่า เจ้านายก็พลาดไปเหมือนกันน่ะเจ้าค่ะ
      
       ความจริง…โรงแรม “มิราเคิล แกรนด์” ถนนวิภาวดีรังสิต อยู่ใกล้ชิดกับที่ทำงานของอีชั้น แล้วก็เคยไปอุดหนุนอาหารกันมาหลายครั้งหลายคราว ส่วนใหญ่อีชั้นจะไปนั่งที่ “คอฟฟี่ช้อฟ” ซะมากกว่า เพราะโรงแรมนี้มีที่จอดรถเหลือเฟือ แถมอยู่ใต้ถุนตึกอากาศไม่ร้อน สีรถไม่ช้ำ พนักงานขับรถนอนหลับรอสบาย
      
       แต่ที่ระยะหลังอีชั้นไม่ค่อยจะได้ไป เขาคำโบราณที่ท่านว่าไว้ …ใกล้เกลือกินด่าง546+ ก็ไม่ต้องดูอื่นดูไกล เวลาจะเลี้ยงอาหารมื้อเย็นแขกทีไร โธ่!!! ไปโน้นในเมืองรถติดกันแทบตาย แถมที่จอดรถก็หาไม่ค่อยได้ ในโรงแรมแน่นไปหมด





       เมื่อวัน “นักเขียน” 5 พฤษภาคมที่ผ่านมางานนี้ทุกปีเขาจะต้องจัดกันที่ “โรงแรมมิราเคิล แกรนด์” เพราะสะดวกสบายให้กับบรรดานักเขียนทั้งหลาย อีชั้นไปร่วมงานปีนี้ถึงได้รู้ว่า
      
       ห้องอาหารญี่ปุ่นที่ชื่อว่า “เอโดะ” เป็นห้องอาหารญี่ปุ่นชั้นดี มาตรฐานเท่ากับร้านญี่ปุ่นดังๆ ทั้งหลายที่กินทีไรเป็นต้องต๊กกะใจเวลาจ่ายกะตังค์ มันแพงเหมือนนั่งกินอยู่ในโตเกียวอย่างนั้นล่ะ
      
       แต่ที่ห้องอาหารญี่ปุ่นที่ชื่อ “เอโดะ” ของโรงแรม “มิราเคิล แกรนด์” ที่ไม่ใช่อาหารสดใหม่เช่นกัน แต่ราคาถูกกว่า เรียกว่าเอาบิลมาตรวจสอบกันทีละรายการก็ยังได้
      
       อีชั้นหลงผิดไปตั้งนานบานตะทัย กินข้างบ้านใกล้ที่ทำงานสำราญใจ อร่อยเท่ากัน บางอย่างเหนือกว่าเสียด้วยซ้ำ แถมยังถูกกว่าสะดวกกว่า น้ำมันขึ้นราคาจะขับรถไปถึงใจกลางเมืองให้เปลืองน้ำมันกันทำไม
      
       ร้านอาหารญี่ปุ่น “เอโดะ” มีรายการอาหารญี่ปุ่นครบครัน ทั้งปลาดิบ ปลาไม่ดิบ เนื้อโกเบ มัสซึกะก็มีทั้งนั้น ก็ให้สรรสั่งเข้ามาเถอะ …<อร่อยถูกกะตังค์
      
       หรือถ้าจะให้ถูกพิเศษยิ่งกว่านั้น ก็ให้ไปกินกันตอนกลางวัน เขามีบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นเป็นร้อยรายการแต่เชื่อมั๊ยเจ้าค่ะ ค่าหัวกันเพียงท่านละ 299 บาทเท่านั้น เป็นไปได้อย่างไรแต่เป็นไปแล้ว





       ยิ่งถ้ามาตอนวันเสาร์ – อาทิตย์ มา 4 คนคิดเพียง 3 คน เรียกว่ากินฟรีไปอีกหนึ่ง ไม่มีแล้วร้านอาหารญี่ปุ่นโรงแรมไหน
       
       “ปลาชิราอุโอะ”ในช่วงโปรโมทเดือนพฤษภาคมนี้ ที่ “เอโดะ” สั่งปลาพิเศษมาจากญี่ปุ่น มี “ปลาชิราอุโอะ” ปลาน้ำจืดเนื้ออ่อน ปลาชิราอุโอะนี้เอามาชุบแป้งทอดเทมปุระ หรือเอามาทำ “ทามาโกะ” อร่อยที่สุด
      
       เป็นอันว่า ที่นี่ทั้งอีชั้นทั้งเจ้านาย ก็จะได้เป็นลูกค้าประจำของห้องอาหาร “เอโดะ” ของโรงแรมมิราเคิล แกรนด์กันได้แล้ว
      
       เสียเวลากันมาเป็นปี ก็เพราะคำโบราณที่ว่าใกล้เกลือแท้ๆ ไปกินด่างที่อื่นเสียนี่ …แต่ยังไม่ช้านะเจ้านาย อีชั้นโทรศัพท์ไปสั่งเนื้อมัสซึซากะ ยอดเนื้ออร่อยของโลกไว้เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ เจ้านาย…
      
       สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทรศัพท์ 0-2575 – 5599 ต่อ 1460
ASTVผู้จัดการออนไลน์

“สุกี้แพะ” ปากปล่องภูเขาไป เกาะไหหลำ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 พฤษภาคม 2547 14:29 น.











“หยางโหย่ว ขวั่วกลั่ว”
       “ใครว่าไก่ตอน “ไก่ตอนบนเขียง” ที่นี่อร่อย
       แต่อีชั้นว่า “สุกี้แพะ” อร่อยที่ซู้ด!!
       และจะยิ่งอร่อยขึ้นอีกมากมายถ้าได้
       กินที่ปากปล่องภูเขาไป “ขวั่วซานโข่ว” ”

       

      
       นักกิน..จะมาเกาะไหหลำ เพราะเชื่อกันว่า ข้าวมันไก่ไหหลำอร่อยที่สุด
      
       แต่ขาไหนขานั่นมาถึงที่นี่เป็นต้องสะดุด
      
       เพราะข้าวมันไก่ที่เกาะไหหลำ ซึ่งถือกันว่าเป็นแหล่งกำเนิดเกิดขึ้นของข้าวมันไก่ทั้งหลาย อร่อยสู้บ้านเราไม่ได้จริง..จริงเจ้าค่ะ
      
       ถึงจะมีใช้ไก่ตอนพันธุ์ดีจากเมืองที่ชื่อว่า “บุนเชียง” อันเป็นแม่พันธุ์ของ “ไก่ตะเภา” ของบ้างเราก็เถิด
      
       อีชั้นขอเอาพุงเป็นประกันว่า
      
       ข้าวมันไก่ “ลาวเกี๊ยะ” หรือข้าวมันไก่ฝีมือของคนอีสานบ้านเฮา แซบกว่าเด๊อ
       .................................................






เครื่องปรุงที่ใช้ผสมทำน้ำจิ้ม
       อีชั้น..ไปเกาะไหหลำ มาหลายครั้ง กินข้าวมันไก่กับขนมจีนไหหลำมาหลายเจ้า
      
       
ก็สรุปได้ว่า ถ้ามาเกาะไหหลำอยากจะกินอาหารให้หนำปากถูกใจ ขอแนะนำเจ้านายว่า ควรจะลอง “สุกี้แพะ” จะอร่อยกว่า
      
       เกาะไหหลำมีชื่อเรื่องสุกี้แพะที่ว่า เพราะแพะในเกาะไหหลำคนจีนเชื่อกันว่า เป็นแพะอร่อยที่สุดในเมืองจีน
      
       เพราะเจ้าแพะในเกาะนี้มันกินใบชาซึ่งเป็นสมุนไพรจีน เรียกว่า “ชาเจอกู” ซึ่งจะมีเฉพาะบนภูเขาตงซานหลินเท่านั้น
      
       เขาว่าแพะพวกนี้กินแล้วจะมีกำลังวังชา
      
       ก็ไม่ต้องดูอื่นดูไกล ในเมืองจีนมียาชูกำลังโด่งดังยี่ห้อหนึ่งเรียกว่า “หยางไทซู” คือน้ำยาที่สกัดมาจากแพะเกาะไหหลำนี้
       .................................................
      
       
เพราะฉะนั้น ถ้าเจ้านายจะมาเกาะไหหลำ อีชั้นขอแนะนำให้กิน “สุกี้แพะ” และร้านที่มีชื่อมากที่สุดอยู่ปากปล่องภูเขาไฟที่มีชื่อเรียกว่า “ขวั่วซานโขว่”
       

      
       อยู่ห่างจากเมืองซันย่าไปสัก 50 กิโล คนที่นี่ใช้เป็นร้านต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง
      
       “สุกี้แพะไหหลำ” ไม่เหมือนสุกี้ญี่ปุ่นที่ทำมาเสร็จ แต่ของที่นี่เหมือน “จิ้มจุ่ม” บ่นเรา คือ เขาจะยกน้ำแกงใส่หมือหยวนโล่ว หรือหม้อไฟมาตั้งบนเตาถ่านบนโต๊ะ จากนั้นเขาจะยกจานใส่เนื้อแพะสดหั่นบางๆ พร้อมกับบ้าง ขอบกระด้งแพะบ้าง รวมทั้งเลือกแพะสดๆ เอามาให้คนเทลงไปในหม้อไฟ
      
       จากนั้นก็ใส่บรรดาผักหญ้า เห็ด วุ้นเส้นทั้งหลายใส่ตามลงไป
      
       แล้วจึงใช้ตะเกียบคีบเนื้อแพะตามใจอยากคือจะสุกมาก หรือสุกน้อยมาจุ่มกับน้ำจิ้มสุกี้ ที่ประกอบด้วย พริกบดผสมเกลือ ผสมด้วยกระเทียมสับ น้ำมันถั่วเหลือง งาดำบด ขิงสับ ส้มจี๊ด บีบใส่ รสชาติปรุงได้ตามใจ
       .................................................






“ขาแพะน้ำแดง”
       การกินสุกี้แพะแบบไหหลำ เขาจะค่อยๆ กินกัน ความอร่อยสำคัญอยู่ที่น้ำสุกี้ที่ค่อยๆ งวดลงไปทุกที ยิ่งงวดยิ่งอร่อย
      
       แต่จะอร่อยยิ่งขึ้น จะต้องสั่ง “ขาแพะน้ำแดง” มากินไปพลางๆ
      
       ขาแพะนั้นจะหั่นติดหนัง เคี้ยวหนุบหนับ ไม่มีมันไม่มีเลี่ยนแบบขาหมู
      
       แต่สำคัญที่สุด ทุกครั้งที่ เจ้านายได้มากินสุกี้แพะ บนเกาะแห่งนี้ เจ้านายจะต้องจดจำเอาไว้ให้ดีก็คือ
      
       
แพะที่สั่งมา จะต้องเป็นแพะสีดำเท่านั้น
      
       เขาว่าแพะดำมันโป๊ว กินแล้วมีพลัง เรียกว่ายังไม่หมดชามหมอหม้อไป เจ้านายก็จะกลายเป็นแพะไปทันใด
      
       ...เพราะฉะนั้นเวลาไปกินสุกี้แพะไหหลำ ต้องพาคู่ขวิดติดตัวไปด้วย ขืนไปขวิดสุ่มสี่สุ่มห้า มันเสี่ยงคุกเสี่ยงตะรางนะเจ้าค่ะ จะบอกให้....
      
       
แม่ช้อยนางรำ
       (SANTI-MAECHOICE@HOTMAIL.COM)
ASTVผู้จัดการออนไลน์