รู้อะไรดีๆ ที่อิตาลี ก่อนไปเที่ยว เรื่องอาหารการกิน ตอนที่ 5 อาหารข้างจาน Contorno "ITALIAN WANDER"

credit จากคุณ : PinePh www.pantip.com
ตอนที่เเล้วใส่ชื่อ "ITALIAN WANDER" ลงนำหน้า ทำให้ผู้ที่ติดตามอ่านอาจจะหากระทู้ไม่เจอเลยนำกระทู้เดิม ตอนที่แล้ว มาฝากในนี้ด้วยค่ะ
http://www.pantip.com/cafe/food/topic/D10272531/D10272531.html#13

อาหาร ข้างจาน Contorno (คอนโตรโน่) คือ อาหารข้างจาน โดยมากจะเป็น สลัดหรือ ผักที่ทำให้สุกต่างๆ เช่น มันฝรั่ง หรือมะเขือม่วงเผา พริกหวานเผา หรือแม้กระทั่งพริกหวานอบในน้ำมันมะกอกทำให้สุกรสชาดอร่อยมาก โดยโรยกระเทียมสับ หรือผักต่างๆ ที่อาจจะทำเป็นซุป ส่วนที่เป็นหัวๆ เช่น บร๊อคโคลี่ แบบนี้ที่อิตาลีมักจะนำไปอบหรือ ทำเป็นซุป หรือ มักจะต้มให้นิ่มๆ จะทานแบบนิ่มๆ ไม่กรอบแบบที่เราคุ้นเคย บางคนอาจจะไม่ชอบ
ที่ อิตาลีมีผักผลไม้หลากหลาย ตามฤดูกาล พร้อมทั้งมีเครื่องเทศ ที่ใช้ประกอบอาหารมากมายไม่ต่างจากเมืองไทยค่ะ ก่อนอื่นเรามารู้จักประเภทกัน
Spezie (สเปเซีย) เครื่องเทศ ในความหมายคือการปรุงรสชาดในอาหารให้มีรสมากขึ้น คำว่า spicy หมายถึงรสจัด แต่เรามักจะใช้กับอาหารที่รสจัดจ้านมากๆ คือ เผ็ด เลย เข้าใจว่าเผ็ดเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเครื่องเทศจะมีคล้ายกับเมืองไทยที่ใช้ในการปรุงอาหารเช่นกัน แทบจะไม่แตกต่างกันเลยจะมีเพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้นที่บ้านเราไม่มี

โดยมากอาหารข้างจานที่ เห็นกันบ่อยๆ จะเป็นมันฝรั่ง ที่จะขาดไม่ได้เลยคือ อบกับใบโรสแมรี่
หรือจะเป็นรวมมิตรผัก เผา เรียกว่า mista verdura มิสต้า เวรดูร่า คือ  mista - รวม
อันนี้เป็นมะเขือม่วงเผา อร่อยค่ะมะเขือม่วง หั่นเป็นชิ้นๆ เผา โรยเกลือ ราดน้ำมันมะกอก ผสมกับผักชี หรือ มินท์ แล้วแต่ชอบค่ะ โดยมาเป็นผักชี อาจจะมีกระเทียบสับโรยอยู่ด้วย
อีกจานจะทำไม่ต่างกันค่ะ คือ เป็นซูกี่นี่

หรือจะเป็นพริกหวาน เขาจะนำลงไป ทำให้สุกในกระทะ โดยใส่น้ำมันมะกอก นำพริกหวานที่หั่นลงไป และ ทำให้สุกจนนิ่ม จะเย้มไปด้วยน้ำมันมะกอก โรยเกลือเล็กน้อย อาจจะเพิ่มเครื่องเทศที่ชอบ จะได้รสหวานของพริก ออกมาเคล้ากันน้ำมัน เคล็ดคือ การปิดฝาที่กระทะปล่อยให้สุกไปเรื่อยๆ อร่อยมากค่ะ เพราะรสชาดจะไม่เหมือนพริกหวานที่กลิ่นฉุนๆ แปลกๆ ที่เมืองไทย จานนี้นิยมใช้พริกสีเหลือง และเเดง เหลืองจะหวานกว่า
หรือ ถ้าเป็นช่วงฤดูร้อนพลาดไม่ได้ค่ะ กับ แต่ละจานของมะเขือเทศแต่ละชนิด ถ้าได้ทานตามหน้าที่มีผัก ผลไม้เหล่านั้นจะได้รสชาดที่สด และ อร่อยมากๆ ทำให้คนที่ไม่ชอบมะเขือเทศเปลี่ยนใจไปเลยที่เดียวเชียวค่ะ

สลัดมะเขือเทศลูกเล็ก เรียกว่า pomodorini insalata
หรือ ที่จะขาดไม่ได้คือ สลัด จริงแล้วสลัด ที่นี้กินตอนหลังอาหาร คือ ไว้ล้างความคาวในปาก
แต่คนไทย มักจะทานสลัดก่อนทานอาหาร ก็ทำให้อิ่มๆ ไปตามๆ กัน อย่างร้านที่ขายอาหารจานหลัก
และมีสลัดด้วย ในกรุงเทพ
อีกจานค่ะ คนที่ไม่ชอบผักสดเท่าไหร่ ขอเเนะนำให้ลองทานนะค่ะ ผสมน้ำมันมะกอก กับ น้ำส้มสายชู สีดำ balsamico หรืออาจจะบีบมะนาวเหยาะเกลือเล็กน้อย อาจจะทำให้เปลี่ยนมารักผักสลัดกันเลยจริงๆ ค่ะ
อีกจานค่ะ เพราะติดใจสลัดที่นี้ มื้อเย็นทานเเต่สลัดขนมปัง อิ่มท้องได้วิตามินไม่อ้วนด้วยค่ะ
รวมสลัดหลายหลากให้ดูกันค่ะ
ผักสลัดหยิก อันนี้ออกจะขมๆ นิดนะค่ะ บางครั้งเขาใช้ทำกับ risotto อร่อยดีค่ะ จานนี้ทานแกล้มกับ noci เป็นถั่วชนิดหนึ่ง เปลือกของผลมันใช้ย้อมผมได้ค่ะ
จานนี้มะเขือม่วงค่ะ น่าจะเหมือนเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยมากกว่าข้างจานนะค่ะ :) นำมาม้วนห่อใส้ เส้นสปาเก็ตตี้ค่ะ
มะเขือม่วงย่างอีกจาน กับหอมหัวใหญ่เเดงเผา ราดด้วยซอส เปรโต้
อีกจานที่น่าเเนะนำ อาจจะสั่งเป็นจานรองโดยมากหรือ จานเดียวไม่มีหลักรองเพราะอาจจะหนักนิดๆ เป็นมะเขือม่วง ทำคล้ายลาซาลย่า สลับชั้นกับมะเขือเทศ และมอสเซลเลล่าชีส และโรยด้วย พาร์มิซานชีส
หรือสลัดกับชีสแบบนี้
หรือ พริกหวานม้วน อย่างเป็นคำๆ
อีกอันที่ข้างจานจริงๆ คือ ผักโขม ขอบอกอร่อยมากๆ วิธีทำที่จะให้อร่อยคือ ล้างผักโขม สะเด็ดน้ำ
ตั้ง หม้อที่จะอบ ใส่ผักโขมลงไป ราดด้วยน้ำมันมะกอก เกลือเล็กน้อย ปิดฝา อยากให้หอมให้ใส่ เนยด้วยนิดเดียวพอ ปิดฝา ไฟปานกลาง คนให้ผักโดนความร้อนให้ทั่วอย่างคนมากจะทำให้ผักเละ หลังจากสุก ขูดชีสใส่ ปิดฝา ปิดไฟ รับรองอร่อยมากๆ ค่ะ ตอนเสริฟ์ในราดน้ำมันมะกอกอีกนิด เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
จานที่มักจะได้ทานตอนช่วงฤดูหนาว เป็นสลัดส้มค่ะ บางครั้งอาจจะเป็นส้มเเดง หรือ ส้มส้ม แต่ส้มเเดงจะอร่อยกว่าโดยความชอบส่วนตัวเพราะจะมีรสหวานเปรี้ยวเเกล้ม หรือ เพราะสีมันเเดงๆ เหลือ เกิน บางครั้งก็เจอเเดงเหลือบส้ม จนคนไม่เคยเห็น เคยเอาไปฝาก ดันเอาไปทิ้งเพราะนึกว่าส้มช้ำ เออ....
จานนี้เป็นส้ม กับ ฟินอคคี และผลโอลีฟดำ
อาหารข้างจานก็เป็นประมาณเนี่ยนะค่ะ ต้องขอขอบคุณสำหรับ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ติดตามเเละคอมเม้นท์ให้กำลังใจนะ ค่ะ ยังมีเรื่องราวอีกมากให้ติดตามค่ะนอกจากอาหารการกิน ยังมีการ Shopping ที่สาวๆ อาจจะพลาดไม่ได้เชียวค่ะ :)

เรากล่าวเรื่องอาหารข้างจานมาแล้วตอนนี้เรามารู้เรื่อง เครื่องเทศกันนะค่ะ ที่กล่าวไปข้างต้น
Spezie (สเปเซีย) เครื่องเทศ ในความหมายคือการปรุงรสชาดในอาหารให้มีรสมากขึ้น คำว่า spicy หมายถึงรสจัด แต่เรามักจะใช้กับอาหารที่รสจัดจ้านมากๆ คือ เผ็ด เลย เข้าใจว่าเผ็ดเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเครื่องเทศจะมีคล้ายกับเมืองไทยที่ใช้ในการปรุงอาหารเช่นกัน แทบจะไม่แตกต่างกันเลยจะมีเพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้นที่บ้านเราไม่มี

- Basilico (บาซิลิโค) เบซิล คล้ายใบโหระพา เป็นตระกูลคล้ายมินท์ มีกลิ่นคล้ายชะเอมกับกานพูล ใช้ผสมหลายเมนู และทำเป็นซอสสำหรับพาสต้า เรียกว่า เพรสโต้ ผสมกับกระเทียม และน้ำมันมะกอก
ซอสที่ออกมาจะมาผสมกับ พาสต้า เปล่า หรือ จะให้เหมาะคือ ใส่กุ้งเพิ่ม หรือ ปลาหมึก แต่มักจะเป็นกุ้ง และทานผสมกับพาสต้า หรือ ปรุงรสกับอาหารจานอื่นๆ ทานสดๆ ก็มักจะปรุงกับอาหารที่มีมะเขือเทศเป็นส่วนประกอบ
- Rosmarino (โรสมาริโน่) โรสแมรี่ ปรุงอาหารประเภทเนื้อ มั่นฝรั่ง จะใช้อบจะให้กินหอมมาก ช่วยดับคาวได้ดี สามารถนำไปทำน้ำมันหอมระเหยได้ เพราะทั้งใบและก้านจะมีกลิ่นหอมมาก
ภาพของ ซอสที่ทำเป็นเปรสโต้เเล้วค่ะ
อาจจะทานกับชีส
หรือจะมีไข่เป็นส่วนผสม
เรามาต่อด้วยโรสแมรี่ค่ะ ถ้าคนที่ยังไม่เคยเห็นดอก จะมีดอกสีสวยมาก ทั้งลำต้นใบ ก้านและดอกหอมมาก ขาดไม่ได้ กับ มันฝรั่งอบค่ะ และพวกอบๆ ทั้งหลาย
- Salvia (ซาลเวีย) ใบซาลเวีย หรือ เสจจะมีรสซ่า ใช้ได้ทั้งสดและแห้ง สดจะรสอ่อนกว่าแห้ง ใช้ปรุงอาหารประเภทปลา สามารถเคี้ยวทำความสะอาดฟันได้ เพื่อดับคาวกลิ่นในปากยาสีฟันมักจะมีส่วนผสมของ ซาลเวียอยู่ด้วย
- Alloro (อัลโลโร) ใบ laurel  ลอเรียล หรือใบกระวาน ที่สมัยก่อนกรีกจะนำมาประดับเป็นเหมือนมงกุฏ ของเหล่าผู้นำทั้งหลายในโรมัน ในความหมายของชัยชนะ ชื่อเสียงและการเฉลิมฉลอง ใช้ปรุงอาหารได้หลากหลาย ไม่ว่าเป็นปลา หรือ เนื้อ
ทำเป็นช่อๆ ที่ใส่ในการเฉลิมฉลองค่ะ
- Origano (ออริกาโน่) มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ใช้ได้ทั้งสดและแห้งจะเห็นทั่วไปในการโรยหน้าพิซซ่า เหมาะกับอาหารที่มีซอสมะเขือเทศ ใช้ปรุงอาหารประเภท เนื้อ เนื้อแกะ ปลา
- Timo (ทีโม) หรือเราคุ้นเคยว่า ไธม์ อยู่ในตระกูลเดียวกับมินท์ ทีจะมีกลิ่นหอมกว่า ใช้ได้ทั้งสดและแห้ง ปรุงอาหารประเภทปลา
- Prezzemolo (เพรซเซโม่โล่) พาสลีย์ หรือ เรียกว่าผักชีฝรั่ง กลิ่นจะไม่ฉุนแบบผักชีไทย มีแบบใบหยักปกติ  และใบหยักเป็นลอนๆ ใช้ปรุงอาหารประเภท ปลา หรือ หอย ที่มีส่วนผสมของซอสมะเขือเทศ
อีกพันธุ์จะเป็นใบหยิก
- Menta (เมนต้า) มินท์ หรือ เรารู้จักในนามของใบสะระเหน่ ใช้เป็นเครื่องเคียงหรือปรุงอาหารประเภทเนื้อ หรือแกะ มีกลิ่นหอมซ่าส์ มักจะใช้ประกอบกับเครื่องดื่ม โดยจะนำใบมินท์ตำผสมกับน้ำตาลทรายแดงและแอลอกอฮอล์ เช่น รัม หรือ วอดก้าใส่น้ำแข็ง
หน้าตาของ mojito โมจิโต
หรือ แม้จะมีเป็นเครื่องดื่มรสมินท์เข้มข้นผสมกับน้ำ ดื่มหน้าร้อน
- Noce Moscata (โนเซ่ มอสคาตา) ลูกจันทร์ เทศจะฝนบางจากผิวนำมาใช้ดับคาวในการปรุงอาหาร หรือผสมกับมั่นฝรั่ง
- Chiodi di garofano (ซิโอดิ ดิ กาโรฟาโน) การพูล สามารถใช้แก้ปวดฟันได้ มีกลิ่นหอมและรสเผ็ดร้อนเวลาใช้จะใส่ไม่มาก เหมาะสำหรับปรุงอาหารประเภทเนื้อ
เครื่องเทศก็ยังมีอีกมากค่ะ แต่คร่าวๆ ที่คล้ายคลึงและต่างจากบ้านเราก็มีหลักๆ พอสังเขปเท่านี้นะค่ะ ต่อไปเรามารู้จัก ผักกันดีกว่า

Verdura (เวร์ดูร่า) ผักต่างไม่ว่าจะเป็นผักที่ทานกันสดๆ เช่นผักสลัดต่าง และ ผักที่ต้องนำมาปรุงให้สุก เราจะมากล่าวในเรื่องของมะเขือเทศกันก่อนมะเขือเทศที่อิตาลีมีหลากหลาย พันธุ์ เป็นที่นิยมในการทำซอสปรุงรสกับพาสต้า และสปาเก็ตตี้ต่างๆ โดยเวลาปรุงคือการนำน้ำมัน มะเขือเทศสดไปทำให้สุกในกระทะรอจนมะเขือเทศเละออกมาเป็นซอส ช่วงฤดูร้อนจะเป็นหน้ามะเขือเทศ ก็จะทำการถนอมอาหารเพื่อใช้ซอสในหน้าหนาวโดยการต้มมะเขือเทศทั้งลูกในสุกแต่ ไม่เละมากในน้ำเดือด จากนั้น นำขึ้นจากน้ำและคั้นเอาเปลือกออก และนำน้ำซอสที่ได้มาบรรจุในขวดโหล อาจจะผสมกับส่วนที่เป็นทั้งลูกมะเขือเทศที่สุกแล้วลงไปด้วยก็ได้ และปิดฝา และนำลงไปต้มทั้งขวดโหลลงในน้ำเดือดอีกครั้งเพื่อไล่อากาศออก ทิ้งไว้ให้เย็นหลังจากนั้นก็นำออกมาเก็บไว้สามารถบริโภคได้ในฤดูหนาว

- Pomodoro Ramato
- Pomodori San Marzano
- Pomodori siciliani
- Pomodori-cuori di bue
- Pomodorini datterini อันนี้หวานอร่อยค่ะ กินเปล่าๆ ก็อร่อย
- Pomodorini อันนี้ก็ไม่ต่างจาก Pomodorini datterini หวานไม่เเพ้กัน
ตอนฤดูร้อนมะเขือเทศมากมายปลูกเองไว้หลายพันธุ์ เยอะมาก เลยมาทำซุปมะเขือเทศต้มรวมกัน ออกมา อร่อยมากกกค่ะ หวานหอม และ ได้วิตามินมากๆ ค่ะ ไว้จะนำ clip การทำซอสมะเขือเทศเก็บไว้ทานมาฝากนะค่ะ เพราะที่บ้านทำกันไว้มาก ไว้ทานตอนหน้าหนาวค่ะ เพราะ ปลูกเอง บรรจุเอง ปลอดสารแน่นอนเชียวค่ะ
- Pomodori secchi มะเขือเทศอบแห้ง ไม่หวานนะค่ะ
Melanzane (เมลันซาเน่) เป็นมะเขือม่วงมีสีม่วง ม่วงเหลือบขาว ทั้งรูปร่างรียาว กลม หรือ รีกลม มักจะนำไปไสลด์เป็นแผ่นบางๆ ย่างให้สุก โรยเกลือและราดด้วยน้ำมันมะกอก มีกระเทียมสับ และผักชีหั่นฝอยโรยหน้า ที่เป็นอาหารข้างจานข้างต้น
- Melanzane viole (เมลันซาเน่ ไวโอเล)
- Mini melanzana
- Melanzane
- Zucchini (ซูกีนี่)
- Zucchini tonde
- Fiori di zucchini ดอกของซูกีนี่ นำมาทำไข่เจียว หรือซอสที่ทานกับพาสต้าก็อร่อยโดยไม่ใส่มะเขือเทศ
ลักษณะจะติดกับตัวของผล
ดอกซูกี่นี่ทอด
หรือจะมาประกอบทั้งผล และดอก เป็นอาหารจานหลัก
- Cetrioli
- Carote
- Rucola มักจะทานแกล้มเป็นสลัด หรือ แกล้มเเบบดิบ จะมีกลิ่นเฉพาะฉุนๆ เล็กน้อย ออกขม แต่ไม่มาก
- Porro rosso ต้นหอม แต่ปลายหัวหอมเป็นสีเเดง หอมที่นี้่มีหลากพันธุ์ รสในการประกอบอาหารก็ต่างกัน
- Cipollotti
- Cipolla rossa
- Cipolla Bianca
- Cipolla
- Scalogni เหมือนหัวหอมใหญ่เเต่เล็กเรียว กลิ่นฉุนกว่า
- Ravanelli คล้ายหัวผักกาดเล็กเเดง ข้างในขาว แต่เผ็ดออกฉุน
- Finocchio มักจะทานแต่ส่วนหัวใบใช้ปรุงอาหารเล็กน้อย และสามารถนำมาหมักเป็นส่วนผสมของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ มักจะกินสดๆ เป็นสลัด หรือ นำไปต้มสุกแล้วทาน
ดอกของ ฟิน๊อคคิโอ ไม่ใช้ พิน๊อคคิโอ นะค่ะ เป็นตัว F :)
- Spinaci ผักโขม
- Sedano เซดาโน่ คือ ผักขึ้นฉ่าย แต่ของเขาจะใหญ่กว่ามาก นิยมใช้ ลำต้นมาปรุงอาหาร นิยมใส่ต้มซุป ใบมักจะทิ้ง หรือ กินลำต้นสดๆ แกล้มกับ พริกไทยเกลือและน้ำมันมะกอกที่ผสมมาเรียบร้อยเเล้ว
- Rabarbaro
- Broccoli (บร็อคโคลี่) ผักที่เป็นหัวๆ แบบนี้ที่อิตาลีมักจะนำไปอบหรือ ทำเป็นซุป หรือ มักจะต้มให้นิ่มๆ จะทานแบบนิ่มๆ ไม่กรอบแบบที่เราคุ้นเคย บางคนอาจจะไม่ชอบ
- Romanesco
- Cavolfiore
- Cavolo rosso มักจะนำมาทำเป็นซุป
เช่นซุปจานนี้เป็นต้น
- Cavolo bianco
- Verza
- Fagiolini Verdi คล้ายถั่วฝักยาวแต่สั้นกว่า มักนำไปต้ม และราดด้วยน้ำมันมะกอก ปรุงรสด้วยเกลือ บีบมะนาว เล็กน้อย อร่อยมากค่ะ
- Funghi
- Porcini
- Finferli
Champignons
- Champignons bianco
- Pleuroti
- Chiodin
- Tartufo nero (ทารตูโฟ เนโร) เห็ดทรัฟเฟิลเป็นเห็ดที่มีราคาแพงที่สุด โตใต้ดิน เมื่อโตเต็มที่จะมีกลิ่นเฉพาะที่แรง จึงนิยมใช้หมูและหมาที่ถูกฝึกมาเพื่อหาเห็ดทรัฟเฟิล
เห็ดทรัฟเฟิลขาว (White truffle) มีกลิ่นหอมมาก พบแถบป่าตอนเหนือของอิตาลีและโครเอเชีย
ส่วนเห็ดทรัฟเฟิลดำ (Black truffle) มีหลายชนิด แต่พบมากที่ฝรั่งเศสราคาจะถูกกว่าเห็ดทรัฟเฟิลขาว
เห็ด ทรัฟเฟิลมักจะซ่อนตัวเองอยู่ใต้ต้นเบิร์ช ต้นโอ๊ก และต้นบีช อยู่ใต้ดินจนดูกับว่างอกออกมาจากรากของต้นไม้ใหญ่ บ้างก็แพร่ขยายไปตามรากของต้นราสเบอร์รีป่า เห็ดทรัฟเฟิลบางชนิดมีพิษ ดังนั้นต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญเรื่องทรัฟเฟิลโดยเฉพาะ
การปรุงเห็ดทรัฟเฟิลใช้วิธีการง่ายๆ เห็ดทรัฟเฟิลจะให้กลิ่นและรสชาติที่แรง เวลาใช้ปรุงอาหารให้ใช้เพียงเล็กน้อยก็เพียงพอ
ไวท์ ทรัฟเฟิล เหมาะกับพาสต้า, อาหารจานไข่, อาหารที่ใส่เนยเหลว, ครีม, เนื้อสัตว์สีขาว(ไก่, ปลา), ริซอตโต้ แล้วใส่ด้วยพาร์เมซาน ชีส แนมกับผักใบเขียวได้แทบทุกชนิด, เนื้อหมัก :: ในอาหารอิตาเลี่ยนแนะนำให้กินทรัฟเฟิลสีขาวกับขนมปังและไวน์ขาว ::
ส่วน ทรัฟเฟิลดำนั้น แค่ฝานบางๆ ลงเจียวกับไข่เป็นไข่เจียวฝรั่งหรือออมเล็ต หรือฝนบางเฉียบลงบนข้าวริซอตโต้ ราดน้ำมันทรัฟเฟิล หรือจะเหยาะน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิลนิดหน่อยลงในสลัดและอาหารจานปลา สูตรอาหารที่ใช้เห็ดทรัฟเฟิล เช่น Tournedos Rossini, fillet steak วางด้วยฟัวกรา, พลาสต้าราดด้วยน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิล, ข้าวริซอตโต้หน่อไม้ฝรั่งราดด้วยเห็ดทรัฟเฟิลดำ, คาร์ปาชิโอเนื้อวัวกับเห็ดทรัฟเฟิลสีขาว, คาร์โบนาราเห็ดทรัฟเฟิล , พาสต้ามันฝรั่ง ราดชีสฟอนตินา ทานคู่กับเห็ดทรัฟเฟิลแผ่น, เนื้อลูกวัวย่างเห็ดทรัฟเฟิล, สปาเกตตี ทาร์ทูฟิ ที่ใส่เห็ดทรัฟเฟิล, ทรัฟเฟิลกับอกไก่อบแนมกับแครอท ถั่วแขกและหอมใหญ่สีแดง,ทรัฟเฟิลทากลิอาร์ดี
โดย ปกติแล้วเห็ดทรัฟเฟิลจะมีราคาซื้อขายในกรุงโรมของอิตาลีในราคากิโลกรัมละ 11,155 ดอลลาร์สหรัฐหรือราว 380,000 บาท แต่โดยทั่วไปเห็ดทรัฟเฟิลจะมีน้ำหนักเพียง 30-80กรัม
ในทุกปีมีการจัดงาน ประมูลเห็ด"ทรัฟเฟิล" นานาชาติ ในปี 2008 ประมูลกันไปในราคา 200,000 USD น้ำหนัก 1.080 กิโลกรัม จัดเป็นเเห็ดทรัฟเฟิลขาวที่ราคาแพงที่สุดในโลก
(ข้อมูลจาก FoodPedia)
- Asparagi
- Radicchio di Treviso
- Radicchio di Chiogga
- Radicchio bianco di Chiogga
- insalata-con-lattuga-romana
- Lollo rosso
- Insalata
- Indivia riccia
- Eissalatgross ice berg
Carciofi
ลักษณะเหมือนดอกบัวหิน จะทานเฉพาะเเกนด้านใน นิยมนำมาหมักน้ำส้มสายชูและ น้ำมันมะกอก
หรือจะนำมาทำให้สุก หน้าตาเป็นแบบนี้ จะมีรสฝาดเล็กน้อย
หรือจะนำมาทอดให้กรอบ
credit จากคุณ : PinePh www.pantip.com